"นายใหญ่-หญิงปู"โผล่ยังจุดไม่ติด?! "ม็อบแดงละอ่อน"ฟืนเปียก เหตชาวบ้านระอาเรื่องใหญ่อย่าง"นายทุนฆ่าเสือดำไม่เคยพูด" แหกปากแต่อยากเลือกตั้ง ๆ

ติดตามข่าวสารที่ www.tnews.co.th


ดูเหมือน "ม็อบแดงละอ่อน" ในนาม "คนอยากเลือกตั้งของกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตยใหม่" ที่พวกเขา รวมทั้งแนวร่วมของพวกเขาซึ่งก็คือพรรคการเมืองใหญ่พรรคหนึ่ง หมายมั่นปั้นมือว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่จะสามารถเขย่ารัฐบาล คสช. และอาจนำไปสู่การล้มรัฐบาลทหารได้ ด้วยเห็นว่า ห้วงนี้เป็นช่วงขาลงของ คสช. (ดังข้อเขียนของสามชิกพรรคเพื่อไทยบางรายระบุเช่นนี้) เมื่อวันเสาร์ที่  10 ก.พ. ที่ผ่านมา จะกลายเป็นฟืนเปียกไปแบบไร้ข้อกังขาใดๆ เพราะหากประเมินแบบเหลือ ๆ ในช่วงที่ "พีคที่สุดของการชุมนุม"  หลังแกนนำละอ่อน ทั้งนายรังสิมันต์ โรม และนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ "จ่านิว" ปรากฏตัวขึ้นในพื้นที่ชุมนุม ผู้สื่อข่าวยังยืนยันว่า จำนวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูแลรักษาความสงบในวันนั้น...รวมทั้งผู้คนที่สัญจรบริเวณนั้น หากรวมตัวกันจริง ๆ อาจมากกว่า "ม็อบ" ด้วยซ้ำไป

 

 

ผู้รู้ฟันธงว่า เหตุที่ม็อบแดง 10 ก.พ. จุดไม่ติดหรือฟืนเปียก เป็นเพราะชาวบ้านเอือมระอาการเคลื่อนไหวของเด็ก ๆ กลุ่มนี้อยู่พอสมควร คือนอกจากเด็กพวกนี้จะ "หน้าช้ำ" เกินใช้งานแล้ว หลายเสียงยังตอกหน้าว่า เรื่องใหญ่อย่าง "นายทุนฆ่าเสือดำกลางผืนป่ามรดกฯ กลับไม่เคยพูด" ถึง ทั้ง ๆ ที่ถือเป็น  Agenda หลักของประเทศขณะนี้...เพราะมันสะท้อนความบิดเบี้ยวทางวิธีคิดของคนระดับบนที่เป็นซีอีโอบริษัทยักษ์ใหญ่ของประเทศ และจุดบอดของระบบอุปถัมภ์-เห็นแก่พวกพ้องในราชการไทย..กรณีแดีตผู่ใหญ่ในกรมอุทยานฯ ฝากฟังเปรมชัยเข้าไปในทุ่งใหญ่นเรศวร (ซึ่งตัวละครที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้กำลังจะถูกสอบสวน)

 
หลายฝ่ายตั้งคำถามว่า ขณะที่สังคมกำลังรุมประณามพฤติการณ์อันเหี้ยมโหดผิดมนุษย์ของผู้ก่อการคดีนี้ ไม่เว้นแม้แต่ศิลปินเพลงเพื่อชีวิตรุ่นใหญ่หลายต่อหลายรายออกมาออกมาซัด...ซีอีโอคนดังกล่าวอย่างตรงๆ 

 

แต่แปลกสังคมกลับไม่พบเห็นปฎิกริยา หรือข้อเรียกร้องใด ๆ จาก "ม็อบแดง หรือกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตยใหม่" ในกรณีนี้ ทั้งนี้ไม่ต้องเอ่ยถึงแนวร่วมของพวกเขาซึ่งก็คือพรรคการเมืองใหญ่พรรคหนึ่งต่างเงียบกริบกรณีนี้ มีบ้างที่แกนนำเสื้อแดงบางคนพยายามโหนเรื่องนี้ โดยโยงการล่าเสือดำกับการตายของคนเสื้อแดงปี 53 ก่อนจะถูกสังคมตอกกลีบจนหน้าหงายไป

 

บางคนถึงกับฟันธงว่า ที่เป็นเช่นนั้นเพราะซีอีโอผู้ล่าเสือดำผู้นั้น สนิทสนมกับนายใหญ่ของพรรคการเมืองพรรคนั้นเป็นพิเศษ ถึงขั้นเคยถูก คสช.เรียกสอบเมื่อปี 2557 หลังเข้ามายึดอำนาจใหม่ ๆ เพราะมองว่า...เขาคือท่อน้ำเลี้ยงพรรคใหญ่ที่ คสช. ทำการยึดอำนาจ

 

เมื่อไม่สนใจเรื่องใหญ่ขนาดนี้ แต่กลับพยายามปลุกม็อบจ้องแต่จะเลือกตั้ง ซึ่งก็คือความพยายามให้พรรคที่เป็นแนวร่วมของตนเอง...กลับมามีอำนาจยึดครองประเทศอีกครั้ง ชาวบ้านผู้รู้ทันทั้งหลายจึงไม่ให้ค่าการชุมนุมใหญ่ของเสิ้อแดงวันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา แม้พวกเขาพยายามปลอบใจตัวเองว่า มีคนมามากกว่าทุกครั้งก็ตาม

 

เหนืออื่นใดก็คือ ในห้วงยามที่พวกเขาชุมนุมเรียกร้องกันอยู่ที่กรุงเทพฯ  "หญิงปูและทักษิณ" 2 พี่น้องคู่ดูโอ กลับโผล่ที่ปักกิ่งอย่างพอดิบพอดีในห้วงยามนั้น แม้จะไม่มีสรรพสำเนียงใด ๆ เล็ดลอดออกมาจาก 2 พี่น้องดังกล่าว แต่หลายคนก็ตั้งข้อสังเกตว่า มันบังเอิญเกินไป และหลายครั้งที่เสื้อแดงชุมนุม ทักษิณก็มักจะโผล่ทางออนไลน์ให้เห็นเสมอ ๆ ครั้งนี้ก็เช่นกัน เรื่องแบบนี้อาจจะโยงหรือจะไม่โยงถึงกันก็ย่อมได้ เพราะอดีตที่ผ่านมามันเป็นเช่นนั้นจริง ๆ

 

...แต่ทว่า แม้ "นายใหญ่ และนายหญิงน้อย" จะปรากฏตัวให้เห็น แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้ "ม็อบแดง 10 ก.พ." หนาแน่นขึ้นมาแต่อย่างใด บอกอย่างตรงไปตรงมา...ม็อบวันนั้นก็มีแต่หน้าเดิม ๆ และไม่มากอย่างที่...แกนนำละอ่อนพยายามคุยโวเอาไว้....ทั้งหลายทั้งปวงนั่น เพราะคนรู้สึกระอา....ที่เด็กกลุ่มนี้ไม่เคยเรียกร้องความถูกต้องอื่นใดเลย...นอกจากผลประโยชน์ของ "ระบอบทักษิณ"