- 13 ก.พ. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
ชมรมผู้ปกครอง ร.ร.เตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้านครราชสีมา แถลงการณ์คัดค้านมติ กกจ.สั่งลดขั้นเงินเดือนอดีต ผอ. อ้างไม่ใช่เงินงบประมาณแผ่นดิน แต่เป็นเงินส่วนตัวของผู้ปกครอง
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 24 มกราคม 61 ที่ผ่านมา กกจ. หรือ คณะกรรมการข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา ได้มีการประชุมเพื่อพิจารณาโทษของอดีตผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้านครราชสีมา โดยมี นาย มุรธาธีร์ รักชาติเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประในที่ประชุม และที่ประชุมได้มีมติ 6 ต่อ 2 ให้ลงโทษลดขั้นเงินเดือนตลอดอายุราชการ นาย ไพศาล มีสวัสดิ์ อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า กรณีองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา ตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง เรื่องการใช้จ่ายเงินชมรมผู้ปกครองและครู โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้านครราชสีมา ไม่เป็นไปตามระเบียบของทางราชการ จากนั้นต่อมา องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา ก็ได้มีหนังสือคำสั่ง ที่ 259/2561 เรื่อง ลงโทษลดขั้นเงินเดือน ลงวันที่ 31 มกราคม 2561 ส่งไปยังนายไพศาล มีสวัสดิ์ เพื่อรับทราบ ซึ่งหากนายไพศาล ประสงค์จะอุทธรณ์คำสั่งลงโทษให้อุทธรณ์ต่อคณะกรรมการข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา ภายใน 30 วันนับแต่วันรับทราบคำสั่ง.
ล่าสุด วันนี้ นาย บุญลือ ฟูเฟื่อง ประธานชมรมผู้ปกครองโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้านครราชสีมา พร้อมทั้ง คณะกรรมการชมรมฯ ร่วมกันแถลงข่าว คัดค้านมติคณะกรรมการข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา ( กกจ ) ที่สั่งลดขั้นเงินเดือนอดีตผู้อำนวยการโรงเรียน กรณีเรียกเก็บเงินบำรุงการศึกษา 15,000 บาท โดยยกเหตุผล เงินจำนวนดังกล่าวไม่ใช่งบประมาณแผ่นดิน แต่เป็นเงินส่วนตัวของผู้ปกครองที่ต้องการช่วยเหลือโรงเรียน ไม่เกี่ยวข้องกับผู้อำนวยการ และ อบจ. โดยก่อนการแถลงข่าวได้มีการจุดเทียนส่องสว่าง สื่อให้เห็นความมืดมนต่อการจัดการศึกษาท้องถิ่น พร้อมทั้งมีการนำตาชั่ง ที่มีการระบุชื่อนาย ไพศาล มีสวัสดิ์ และ กกจ.จังหวัด คนละด้าน นำมาตั้งที่ด้านหน้าเพื่อสื่อให้เห็นถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับอดีตผู้อำนวยการรายนี้ โดย นาย บุญลือ ฟูเฟื่อง ประธานชมรมผู้ปกครองโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้านครราชสีมา กล่าวว่า เงินบำรุงการศึกษาที่เรียกเก็บภาคเรียนละ 15,000 บาท เป็นเงินส่วนตัวของผู้ปกครอง ไม่ใช่เงินของ อบจ. หรือ เงินงบประมาณแผ่นดิน และ มติของ กกจ.ที่ออกมาไม่ให้ความยุติธรรมแก่อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนเช่นกัน ทั้งที่ตาม พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ระบุชัดเจน เรื่องการมีส่วนร่วมของประชาชนในการร่วมสนับสนุน ส่งเสริม การจัดการเรียนการสอนของโรงเรียน ดังนั้น พวกเราในฐานะผู้ปกครองนักเรียนและมีส่วนร่วมกับคดี มีความเคลือบแคลงสงสัยว่า ทำไมคณะกรรมการสอบสวนจึงไม่เรียกพวกเราเข้าไปสอบถามหรือแสดงเหตุผลใด ๆ เลย ดังนั้นในเรื่องดังกล่าวนี้ภายหลังจากที่ได้แถลงการณ์ต่อสื่อมวลชนแล้ว ตนเองพร้อมทั้งคณะ จะเดินทางไปยื่นหนังสือ ต่อ นาย วิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เพื่อรับทราบต่อไป
ด้าน นาย ไพศาล มีสวัสดิ์ อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า กล่าวว่า ในฐานะข้าราชการก็รู้สึกเสียใจกับคำสั่งที่ออกมา ซึ่งเป็นคำสั่งที่ค่อนข้างรุนแรงสำหรับตน เพราะตนเองมั่นใจว่าไม่ได้ทุจริตอย่างแน่นอน แต่เมื่อมีคำสั่งออกมาก็ต้องน้อมรับคำสั่ง และตนเองก็จะใช้สิทธิ์ในการอุทธรณ์ต่อไป แต่ในส่วนของการดำเนินการตนเองต้องขอตรวจสอบพิจารณาก่อนโดยเฉพาะเรื่องของเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ก่อน แต่ ณ ขณะนี้ยังนึกไม่ออกว่าจะทำอย่างไรก่อน เพราะตั้งแต่มีคำสั่งออกมา ทำให้ชีวิตราชการตนมัวหมอง และการลดขั้นเงินเดือนนั้นหมายถึงตัดเงินเดือนที่ต่อเนื่องกันไป จนถึงเกษียณอายุราชการ ซึ่งตนมองว่าเป็นเรื่องที่โหดร้ายเกินไป ส่วนกรณีของทางชมรมผู้ปกครอง ร.ร.เตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้านครราชสีมา ที่ออกมาแถลงการณ์คัดค้านมติ กกจ ในครั้งนี้ ก็เป็นไปตามความต้องการของทางชมรมผู้ปกครอง ฯ เอง ตนไม่มีอำนาจไปชี้นำได้ แต่อย่างไรก็ตามตนเองต้องขอขอบคุณทาง ทางชมรมผู้ปกครองฯ ที่เป็นกำลังใจให้มาตลอด
ภาพ/ข่าว ไพฑูรย์ ดาบพิมาย ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.นครราชสีมา