- 13 ก.พ. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
วันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ พลเอก ธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และ นาย กลิน ที เดวีส์ (H.E. Mr. Glyn T. Davies) เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ร่วมเป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกคอบร้าโกลด์ ๑๘ ณ กองการบินทหารเรือ สนามบินนานาชาติอู่ตะเภา อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง โดยมี เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย เอกอัครราชทูตเกาหลีใต้ประจำประเทศไทย ผู้แทนเอกอัครราชทูตอินโดนีเซียประจำประเทศไทย เอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำประเทศไทย และอัครราชทูต ที่ปรึกษาสิงคโปร์ประจำประเทศไทย เข้าร่วมด้วย
การฝึกคอบร้าโกลด์ เป็นการฝึกร่วมผสมทางทหารที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งกองทัพไทย และกองกำลังสหรัฐอเมริกาภาคพื้นแปซิฟิก ร่วมกันเป็นเจ้าภาพจัดการฝึกในประเทศไทยเป็นประจำทุกปี ในครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ ๓๗ วัตถุประสงค์การฝึกเพื่อพัฒนาความร่วมมือด้านความมั่นคงในการแก้ไขสถานการณ์ความขัดแย้ง มุ่งไปสู่การเป็นกองกำลังรักษาสันติภาพนานาชาติ รวมทั้งเตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือ ด้านมนุษยธรรมและการบรรเทาภัยพิบัติ นอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์ทางทหาร ระหว่างกองทัพไทยกับกองทัพมิตรประเทศที่เข้าร่วมการฝึกคอบร้าโกลด์ ๑๘ ที่ดีอยู่แล้วให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
ในปีนี้การฝึกคอบร้าโกลด์ มีประเทศเข้าร่วมการฝึกหลัก จำนวน ๗ ประเทศ ได้แก่ ไทย สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี อินโดนีเซีย และมาเลเซีย โดยมีประเทศจีน และอินเดีย เข้าร่วมในส่วนโครงการช่วยเหลือประชาชน นอกจากนี้ยังมีประเทศในโครงการฝ่ายเสนาธิการผสมส่วนเพิ่มนานาชาติ ( Multinational Planning Augmentation Team : MPAT ) จำนวน ๑๐ ประเทศ สำหรับประเทศที่เข้าร่วมสังเกตการณ์การฝึก (Combined Observer Liaison Team : COLT) จำนวน ๑๐ ประเทศ รวมทั้งสิ้น ๒๙ ประเทศ จำนวนผู้เข้ารับการฝึกรวม ๑๑,๐๗๕ นาย โดยใช้พื้นที่กองทัพภาคที่ ๑ กองทัพภาคที่ ๒ และบริเวณอ่าวไทยตอนบน เป็นพื้นที่การฝึกหลัก ในระหว่างวันที่ ๑๓-๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ ประกอบด้วย การฝึกปัญหาที่ บังคับการ (Command Post Exercise : CPX) การฝึกภาคสนาม (Field Training Exercise : FTX) และโครงการช่วยเหลือประชาชน (Humanitarian Civic Assistance: HCA) โดยในปีนี้ได้เพิ่มการฝึกช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการบรรเทาสาธารณภัย (Humanitarian Assistance/Disaster Relief: HA/DR) การฝึกต่อต้านการก่อการร้ายสากล (Counter Terrorism: CT) และการฝึกกวาดล้างและทำลายทุ่นระเบิด (Land Mine Destruction: LMD)
สำหรับประโยชน์ที่จะได้รับจากการฝึกคอบร้าโกลด์ แบ่งเป็นสามระดับ ประกอบด้วย ระดับประเทศ เป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในระดับนานาชาติในการเตรียมความพร้อมด้านการทหารที่มีความเข้มแข็ง ทันสมัย สามารถตอบสนองภารกิจด้านความมั่นคงในทุกมิติ เช่น การรักษาสันติภาพ การบรรเทาสาธารณภัยต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นต้น ส่วนในระดับกองทัพ เป็นการพัฒนาขีดความสามารถทางทหารในการปฏิบัติงานร่วมกันระหว่างกองทัพไทยกับกองทัพมิตรประเทศ เพื่อเป็นหลักประกันความพร้อมในการปฏิบัติภารกิจของกองทัพไทยในทุกมิติ ทั้งภายในและภายนอกประเทศ โดยเฉพาะด้านการบรรเทาสาธารณภัยในภูมิภาค เพื่อสร้างเสถียรภาพให้แก่ภูมิภาคอย่างยั่งยืน และในระดับพื้นที่ที่เข้าทำการฝึกฯ ได้รับประโยชน์จากการฝึกในส่วนโครงการก่อสร้างอาคารต่าง ๆ เพื่อเป็นสาธารณประโยชน์ของโครงการช่วยเหลือประชาชน นอกจากนั้นยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและ สร้างรายได้ให้กับท้องถิ่น รวมทั้งเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทยในสายตาของกำลังพลมิตรประเทศ ที่เข้าร่วมการฝึกอีกด้วย
ภาพ/ข่าว เมทะนี โด่งดัง ผู้สื่อข่าวภูมิภาคสำนักข่าวทีนิวส์ จ.ระยอง