แพทย์เตือน!! คนชอบวิ่งกลางแจ้ง ในสภาวะค่าฝุ่นเกินค่ามาตรฐาน เสี่ยงมะเร็งปอด!

ติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่เพจความจริง และ www.tnews.co.th

สืบเนื่องจากกรณีที่เกิดภาวะค่าฝุ่นละอองในประเทศไทย ที่เกินค่ามาตรฐาน pm. 2.5 ในกรุงเทพมหานคร บวกกับการที่ปัจจุบันกระแสการออกกำลังกายของคนไทยมีมากขึ้น เห็นได้จากการจัดแข่งขันมาราธอนที่มีแทบทุกสัปดาห์ ซึ่งภาวะค่าฝุ่นละอองที่เกินมาตรฐานแบบนี้ ทำให้เกิดคำถามว่า จะส่งผลกระทบอะไรกับผู้ที่ออกกำลังกายกลางแจ้งในเขตที่มีค่าฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานบ้าง

 

แพทย์เตือน!! คนชอบวิ่งกลางแจ้ง ในสภาวะค่าฝุ่นเกินค่ามาตรฐาน เสี่ยงมะเร็งปอด!

 

ล่าสุด นายแพทย์เอกภพ เพียรพิเศษ หรือ “หมอเอก” แพทย์ประจำทีม สโมสร สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด และทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ฝากเตือนผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกายกลางแจ้ง หรือ ผู้ที่นิยมการแข่งขันมาราธอน ที่ต้องใช้เวลาวิ่งกลางแจ้งเป็นเวลานานว่า “การที่ค่าฝุ่นละอองในอากาศ ถ้าหากมีปริมาณมากเกินระดับมาตรฐานแบบนี้ จะส่งผลเสียต่อสุขภาพทั้งในระยะสั้น และระยะยาว”

 

แพทย์เตือน!! คนชอบวิ่งกลางแจ้ง ในสภาวะค่าฝุ่นเกินค่ามาตรฐาน เสี่ยงมะเร็งปอด!

 

“ปัญหาเกิดขึ้นเมื่อมีการสูดควันเข้าไป ดังนั้นถ้าออกกำลังกายในสภาพที่มีค่าฝุ่นละอองเกินเกณฑ์ จะทำให้สูดฝุ่นเข้าไปได้มาก เพราะเวลาออกกำลังกาย เราจะหายใจเหนื่อย หายใจลึก หายใจเร็ว บางครั้งถึงขึ้นอ้าปากหายใจ ผลระยะสั้นที่เกิดขึ้นทันที คือ ระคายเคืองทางเดินหายใจ เจ็บคอ น้ำมูกไหล เนื่องจากเมื่อฝุ่นละอองเข้าไปในร่างกายแล้ว ร่างกายของเราพยายามกำจัด ผลของกระบวนการนี้ทำให้มีอาการถึงขั้นหลอดลมตีบ และเป็นหอบหืดได้ นอกจากนี้อาจมีผลต่อหัวใจ ทำให้เกิดภาวะเส้นเลือดหัวใจตีบได้ ส่วนผลในระยาว คือ เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปอด”

 

แพทย์เตือน!! คนชอบวิ่งกลางแจ้ง ในสภาวะค่าฝุ่นเกินค่ามาตรฐาน เสี่ยงมะเร็งปอด!

 

หมอเอก ได้แนะนำถึงการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงเหล่านี้ว่า “สิ่งที่ทำได้ในตอนนี้ คือการงดออกกำลังกายกลางแจ้ง ถ้าสภาพอากาศมีค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน โดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ หอบหืด โรคเบาหวาน ความดัน ไขมันในเลือดสูง ที่เป็นความเสี่ยงของโรคเส้นเลือดหัวใจ”

 

ทั้งนี้หมอเอก ยังได้กล่าวทิ้งท้ายไว้ด้วยว่า “ในทางแก้ไขปัญหาหมอกควัน ต้องมีต้นไม้ที่มีกิ่งก้านสมบูรณ์ กับความชื้นในอากาศที่เหมาะสม จึงจะลดปัญหาหมอกควันนี้ได้ แต่ปัญหาที่รุนแรงขึ้น เกิดจากมีต้นไม้ลดลง มีป่าลดลงนั่นเอง” 

 

 

 

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : springnews

ขอบคุณภาพจาก : เว็บ สสส. , Mahidol Channel , Sanook! News