“แอ๊ด” ตอบทุกเสียงวิจารณ์ “ผมไม่ได้ทำเพื่ออุดมการณ์” เกิดมาผมก็อยากรวยเหมือนกัน

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

  

เมื่อไม่นานมานี้ “ยืนยง โอภากุล” หรือแอ๊ด คาราบาว เปิดเผยว่า ได้ให้สัมภาษณ์ ระหว่างอัดรายการประกวดดนตรี Bao Young Blood ทางช่อง workpoint โดยตอนหนึ่งพิธีกรถามว่าอยากให้คนจดจำในฐานะอะไร ซึ่งเจ้าตัวได้ตอบว่า ไม่อยากให้คนจดจำในฐานะใดๆ เพราะทุกตัวเองนั้นเป็นเพียงมนุษย์คนหนึ่ง

ล่าสุดเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เพจรายการ Bao Young Blood ได้นำคลิปสัมภาษณ์แอ๊ด คาราบาว มาเผยแพร่ โดยตอนหนึ่งพิธีกรถามว่า “หลังๆคนก็วิจารณ์ว่าใครมาจ้างพี่แอ๊ดแต่งเพลงอะไร พี่ก็แต่งหมดเลย มันก็เลยขาดจิตวิญญาณความเป็นเพื่อชีวิต”
 

แอ๊ด ตอบว่า “จะต้องแยกก่อน เพราะผมเป็นนักแต่งเพลง ในเมื่อผมก็อยู่ในสังคมที่ต้องรับจ้างแต่งเพลง เมื่อมีคนมาจ้างแต่งเพลง เช่น การเมือง ให้กับพรรคนี้ พรรคโน้น ผมแต่งให้ตั้ง 2 พรรค ไม่ว่าจะพรรคคุณทักษิณ ชินวัตร หรือของคุณชวน หลีกภัย ผมก็แต่งให้ได้หมด รวมถึงของคุณบรรหาร ศิลปอาชา ด้วย เขามาจ้างผมแต่งเพลงฟุตบอลผมก็แต่งให้ เพลงโฆษณาสินค้าผมก็ทำมาตลอด เพลงของโค้กผมก็ทำมาตลอด แต่งเพลงให้เป๊ปซี่ผมก็ทำ มันเป็นเรื่องปกติ ผมไม่รู้ผมผิดตรงไหน”

แอ๊ด กล่าวว่า “ผมไม่ได้ทำเพื่ออุดมการณ์อะไร ผมทำเพื่อหาอยู่หากินนั่นแหละ ถ้าใครบอกว่าทำเพื่ออุดมการณ์แม่งตอแหล เพราะทุกคนที่ทำอาชีพทุกอย่างก็เพื่อจะหาอยู่หากินทั้งนั้นแหละ ซึ่งมันอยู่ที่คุณมีคุณธรรมเท่านั้นแหละ อาชีพที่ผมทำนั้นผมทำเพื่อหาอยู่ในกิน แต่ผมรักษาคุณธรรม ไม่ตลบตะแลง ไม่ปลิ้นปล้อน แต่สังคมก็วิจารณ์ไปแบบนั้นเอง ซึ่งทุกวันนี้ผมก็โดนด่า บางทีก็เข้ามาด่าผมในเพจแบบหยาบๆ มาบอกว่าผมลืมอุดมการณ์ผมก็ยังขำ”

พิธีกรถามว่า “พี่แอ๊ด ไม่เคยประกาศตนว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ ผุดผ่อง อยู่แล้วใช่ไหมครับ”

แอ๊ด ตอบว่า “สำหรับตัวผมมีทั้งดีทั้งชั่ว ผมเป็นคนๆหนี่งที่มีทั้งดีทั้งชั่ว แต่ก็พยายามทำความดีให้มากและไม่เคยทำความชั่ว สิ่งที่เคยทำมาอย่างเคยไปล่าสัตว์ เคยลงไปชกไปตีเขา เคยปากร้าย ด่าพ่อล่อแม่เขา ใจร้อน ผมเลิกหมดแล้ว เพราะผมหันหน้าเข้าหาธรรมะมา 3-4 ปี แล้ว”

พิธีกร ถามว่า “สำหรับพี่แอ๊ด มีหลายภาคมาก ทั้งนักดนตรี นักแต่งเพลง นักธุรกิจ อะไรที่อยากให้คนจำมากที่สุด”

แอ๊ด ตอบว่า “ไม่ต้องจำ เพราะในที่สุดผมก็ต้องตายและจบไป ไม่ต้องมาจำ ทุกวันนี้ผมลดตัวเองลง ไม่เหลืออะไรเลย ใครด่าผมก็ยังขอบคุณ แล้วจะมาจำผมทำไม ไม่ต้องมาจำผมหรอก พูดอย่างนี้อาจจะงงและไม่เข้าใจ แต่ถ้าได้ศึกษาธรรมมาบ้างแล้วจะเข้าใจ เพราะคนเราเกิดมาก็ต้องตาย ชื่อเสียงเป็นของจอมปลอมทั้งนั้น ไม่จำเป็นต้องจำอะไรทั้งสิ้น”

แอ๊ด กล่าวว่า “ถ้าผมยังมีตัวตนหรืออัตตาและพยายามยกมันไว้ โดยพยายามให้คนจดจำในฐานะที่ข้าเป็นวีรบุรุษเหมือนฮีโร่ในอดีต เราจะหนักแล้วจะเป็นภาระ แต่ถ้าเราไม่ต้องการให้เขามาจดจำอะไร เราก็จะอยู่อย่างไรก็ได้ เมื่อของมันหนัก แล้วเราวาง เราก็จะมีความสุข ชีวิตก็อยู่ไปวันต่อวัน หาความสุขให้ได้แต่ละวัน”

พิธีกรถามว่า “หลายปีที่ผ่านมาคนจดจำพี่แอ๊ดในหลายบทบาทมาก ซึ่งวันนี้พี่แอ๊ด ก็มีคาราบาวแดง ซึ่งโกอินเตอร์ โดยเป็นภาพของนักธุรกิจ”

แอ๊ด กล่าวว่า “นี่ก็เข้าหลักกฎไตรลักษณ์ ทุกสิ่งเกิดมาตั้งอยู่ดับไป แต่คนเราก็มักจะยึดว่าคุณเป็นแอ๊ด คาราบาว คุณก็ต้องเป็นแอ๊ด คาราบาวตลอดชีวิต คุณดูแล้วเหมือนจะเป็นขวัญใจคนจน คุณจะต้องจน แต่ผมไม่เคยคิดว่าผมจะต้องยากจนไปตลอดชีวิต เกิดมาผมก็อยากจะรวยเหมือนกัน ที่ผมมาเล่นดนตรีเพราะผมอยากจะรวย เพราะก่อนหน้านั้นผมทำงานเป็นสถาปนิกอยู่การเคหะ ได้เงินเดือนแค่ 3,030 บาท ผมต้องออกมาหาเงินให้ได้ ผมอยากมีที่ดินเป็นของตัวเอง มีรถเป็นของตัวเอง ปลูกบ้าน ผมถึงมาเล่นดนตรี”

แอ๊ด กล่าวว่า “ที่ผมต้องมาทำคาราบาวแดง เพราะว่ามีพี่เสถียร (เศรษฐสิทธิ์) เป็นเพื่อนรัก แล้ววันหนึ่งเขาก็ถามผมว่า มันปลอมซีดีกันอย่างนี้ วันหนึ่งมึงจะอยู่ยังไงวะ ผมตอบว่าก็เล่นคอนเสิร์ตต่อไปเรื่อยๆ พี่เขาบอกว่าแต่เดี๋ยวมึงก็แก่นะ จากนั้นก็เลยมาชวนกันทำ ซึ่งผมบอกว่าธุรกิจผมไม่เป็นนะ เงินก็ไม่มี เขาก็ค้ำประกันให้ผมไปกู้แบงก์ ทำทุกอย่างเพื่อให้ผมมีวันนี้ ผมมีวันนี้เพราะมีเพื่อนที่ดี แต่ผมก็ต้องเป็นคนดีก่อน ทำให้เขาเห็นว่าผมเป็นคนดี น่าคบ ดังนั้น เราต้องทำตัวให้เป็นคนดีก่อน คือดีในด้านของคุณนั้นแหละ เพราะคนเราไม่ได้ดีทุกด้านหรอก คุณต้องทำดนตรีให้ดี ทำนิสัยให้ดี เอื้อเฟื้อ เสียสละ ซื่อสัตย์”

“แอ๊ด” ตอบทุกเสียงวิจารณ์ “ผมไม่ได้ทำเพื่ออุดมการณ์” เกิดมาผมก็อยากรวยเหมือนกัน