ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://www.partiharn.com

อาลัย..ปราชญ์แห่งแผ่นดิน!! "ศาสตราจารย์ระพี สาคริก" ย้อนเรื่อง "กษัตริย์ผู้ไม่เคยกริ้ว" ดำรงขันติอย่างงดงามตลอดพระชนม์ชีพ กลั้นน้ำตาไม่ไหว!!

 

            ๑๗ กุมภาพันธ์ อาลัย ศาสตราจารย์ระพี สาคริก ผู้เคยถวายงานใกล้ชิดในหลวง รัชกาลที่ ๙ ด้านการศึกษางานเกษตรเพื่อพัฒนา และเป็นผู้เคยร่วมบรรเลงดนตรีส่วนพระองค์ จากไปในวัย ๙๕ ปี ศาสตราจารย์ระพี สาคริก ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้รู้รอบ และพากเพียรในการนำความรู้ด้านวิทยาศาสตร์มาพัฒนางานเกษตรให้ก้าวหน้า เช่น วิจัยกล้วยไม้พันธุ์พื้นเมืองจนกลายเป็นสินค้าเกษตรส่งออกสำคัญ จนได้รับขนานนามว่าเป็นบิดาแห่งกล้วยไม้ไทย และวิจัยพันธุ์ข้าว พันธุ์ผัก ยาสูบ ด้วยสำนึกว่าเป็นการทำประโยชน์เพื่อพสกนิกรของในหลวง พร้อมนำความรู้ด้านดนตรีและศิลปะมาจรรโลงใจ เช่นเดียวกับที่ได้สัมผัส

 

อาลัย..ปราชญ์แห่งแผ่นดิน!! "ศาสตราจารย์ระพี สาคริก" ย้อนเรื่อง "กษัตริย์ผู้ไม่เคยกริ้ว" ดำรงขันติอย่างงดงามตลอดพระชนม์ชีพ กลั้นน้ำตาไม่ไหว!!

อาลัย..ปราชญ์แห่งแผ่นดิน!! "ศาสตราจารย์ระพี สาคริก" ย้อนเรื่อง "กษัตริย์ผู้ไม่เคยกริ้ว" ดำรงขันติอย่างงดงามตลอดพระชนม์ชีพ กลั้นน้ำตาไม่ไหว!!

 

          ศ.ระพี สาคริก เคยให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองอธิการบดีฝ่ายบริหารมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ท่านเล่าถึงในหลวง เรื่องที่เด็กเกษตรไปขัดกลางพิธีเพื่อถวายฏีกา แล้วพระองค์ให้อภัย ท่านได้เล่าว่า

"สมัยผม(ศ.ระพี)ดำรงตำแหน่งรองอธิการบดีฝ่ายบริหารมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ก็มีนโยบายบริหารและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์มากกว่าพัฒนาวัตถุสิ่งก่อสร้าง มีอยู่วันหนึ่งพระองค์ท่านมาทรงดนตรีที่เกษตรฯ มีนิสิตคนหนึ่งชื่อ สุเทพ ลักขณาวิเชียร ประธานสภานิสิตเกษตรฯ มายื่นซองขาวถวายฎีกา ช่วงที่ประทับทรงดนตรี ในหลวงทรงรับซองแล้วส่งให้คนด้านหลัง ไม่ได้สนใจ ต่อมาอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มีคำสั่งให้คัดชื่อนักศึกษาผู้นี้ออก ข้อหาหมิ่นพระบรมราชานุภาพ...

...ปรากฏว่า วันรุ่งขึ้นในหลวงเสด็จฯ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ จ.เชียงใหม่ ทรงมาที่สวนสองแสนที่อยู่ข้างๆ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ที่ทรงซื้อจากชาวบ้านคนหนึ่ง ราคา ๒ แสนบาท และพระราชทานให้มหาวิทยาลัยเกษตรฯ พัฒนาวิจัยพืช แต่วันนั้นไม่มีใครไปรับเสด็จเลย มีแต่ผมคนเดียวยืนพิงลวดหนามข้างประตู...


...จนเวลา ๔ โมงเย็น ได้ยินเสียงฝีพระบาทมากันหลายพระองค์ ในหลวง สมเด็จพระราชินีฯ พร้อมด้วยฟ้าหญิงสองพระองค์และหม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี  พระองค์ท่านรับสั่งกับผม ไม่เปลี่ยนจริงเหรอ ตอนนั้นผมเป็นรองอธิการบดี ไม่ทราบเรื่องนี้ แต่จะกราบทูลฯ ว่าไม่ทราบก็ไม่ได้ จึงได้แต่กราบที่พระบาท...

...ทรงรับสั่งถามอีกครั้ง หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ โทษคืออะไร ทรงรับสั่งครั้งที่สาม ถ้าจะให้ฉันตัดสิน เด็กคนนั้นไม่ได้หมิ่นพระบรมเดชานุภาพหรอก มหาวิทยาลัยเกษตรฯ ต่างหากที่หมิ่น 

จากรับสั่งนั้นจึงมีการนำมาสู่อธิการบดีเปลี่ยนคำสั่งให้นิสิตรายนั้นเป็นผิดวินัย เรื่องเรียบร้อยไป  ในวันนั้นโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งโต๊ะเสวยอาหารหลังพระตำหนัก ซึ่งมีผมระพีนั่งร่วมโต๊ะด้วย ทรงเปิดเพลงความฝันอันสูงสุดให้ฟัง

อาลัย..ปราชญ์แห่งแผ่นดิน!! "ศาสตราจารย์ระพี สาคริก" ย้อนเรื่อง "กษัตริย์ผู้ไม่เคยกริ้ว" ดำรงขันติอย่างงดงามตลอดพระชนม์ชีพ กลั้นน้ำตาไม่ไหว!!

 

"นี่แหละมหาราชครู พระองค์ไม่เคยกริ้ว ทรงมีพระเมตตามาก นิสิตคนนั้นมารู้เรื่องนี้ทีหลัง ผมตามหาลูกศิษย์คนนี้มา ๑๕ ปี ไม่เจอตัว เพราะเขาหนีเข้าป่าและบวชเป็นพระในเวลาต่อมา มาเจอตอนเป็นพระแล้ว เขาเล่าว่า วันนั้นแม่ฟังข่าวเขาทางวิทยุตอนกำลังจะหุงข้าวพอดี ถึงกับตกใจ ทำหม้อที่เป็นหม้อดินตกแตก เพราะเขาเป็นความหวังของแม่ ว่าเรียนจบแล้วจะส่งน้องๆ เรียนต่อได้ เขาบอกอีกว่า ยังคิดว่าผมเป็นคนช่วยเขา ไม่รู้ว่าในหลวงท่านเป็นคนช่วย"