ไหนว่าห่วงใยรถ ห่วงใยคุณ!!! หนุ่มใหญ่โวยแหลก ศูนย์บริการลืมขันน็อตล้อแมกซ์หน้า ทำ 2 ชีวิตเกือบตายกลางถนน ฟังเฮียเล่าเข้าใจเลยทำไมโกรธขนาดนี้

สืบเนื่องจากกรณีที่กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในโลกโซเชียล สำหรับกรณีที่มีการโพสต์ภาพและคลิปวิดีโอระบุว่า ศูนย์โตโยต้าท่าจีน คุณกำลังคิดอะไร? กับ อาจารย์โช เหรอ? เอารถไปเข้าศูนย์เช็กระยะ ถ่ายน้ำมันเครื่อง คุณไม่ขันน็อตล้อแม็กซ์หน้า รถกำลังเข้าเลนกลางใช้ความเร็วพอสมควรดีที่ตบรถเข้าซ้ายทันเมื่อรู้ตัว เกือบตายเหมือนกัน

ครั้งแรกให้อภัยคุณทำกรอบป้ายทะเบียนแตก เห็นว่าเล็กน้อยของเปลี่ยนกันได้ ครั้งสองบอกให้เช็กระยะเอารถไปให้เป็นสัปดาห์กลับมาจากเชียงใหม่จะมาเอารถคุณบอกว่า ลืม แล้วมาขอโทษก็ให้อภัยทุกครั้ง ไม่เคยต่อว่าใดๆ ให้อภัยหลายครั้ง หลายเรื่อง วันนี้เกือบถึงชีวิตบนท้องถนน คุณจะรับผิดชอบยังไง ถ้าจอดไม่ทันอุบัติเหตุแน่ สังคมมีคนแบบนี้อยู่ไม่ใส่ใจในชีวิตและทรัพย์สินผู้อื่น บทเรียนราคาแพง ต่อไปจะหาขับรถยี่ห้ออื่น

ล่าสุด เฟซบุ๊ก อาจารย์โช ได้โพสต์ข้อความว่า อยากรู้ว่าผู้บริหารโตโยต้าจะมองคุณค่าชีวิตคนสองคนเป็นแค่ถ่ายน้ำมันเครื่องฟรี 5 ครั้ง ตามที่เคยเสนอให้เราในตอนแรก หรือ จะตีค่าชีวิตคนเป็นเงิน 1 พัน 1 แสน 1 ล้าน 1 ร้อยล้าน หรือ 1 พันล้าน อยากรู้ว่าคุณเห็นชีวิตลูกค้ามีค่าแค่ไหน เงินเท่าไรก็แลกกับชีวิตคนไม่ได้ แต่หากออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนด้วยการขอโทษ แสดงความรับผิดชอบออกสื่อและหากให้เป็นตัวเงินที่เหมาะสม เพื่อทำให้สังคมได้รับรู้ว่าคุณห่วงใย ใส่ใจ ในชีวิตลูกค้าจริงๆ

เงินจำนวนที่ให้ อาจารย์โช มาทั้งหมด อาจารย์จะนำเงินทุกบาท ทุกสตางค์ ไปทำบุญกับมูลนิธิต่างๆ ไม่ขอเก็บไว้เองแม้แต่บาทเดียว พร้อมกับจะถ่ายโชว์ใบเสร็จ หรือ ใบอนุโมทนาบัตร ลงในหน้าเพจ เพื่อแสดงเจตนารมณ์ว่า การที่ออกมาเรียกร้องครั้งนี้ไม่ได้ทำเพราะอยากเรียกร้องเอาเงินจากความโลภ แต่จะใช้ความเป็นผู้เสียหายที่ เกือบตายบนท้องถนน เพราะการบริการของคุณที่ไม่ใส่ใจในชีวิตลูกค้า ให้ได้รับบทเรียนในครั้งนี้ คุณจะได้มีสติกับการทำงาน ตรวจสอบคุณภาพงานทุกขั้นตอน ไม่ประมาทเลินเล่อ และเห็นชีวิตพี่น้องประชาชนมีค่าเสียที จะคนรวยหรือจนไม่ว่าจะอยู่ในฐานะใดชีวิตล้วนมีคุณค่าเสมอ

 

แล้วอย่ามาพูดอีกว่า แต่วันนี้อาจารย์ก็ไม่ได้เป็นอะไรไม่ใช่เหรอ ไหนบอกว่าอาจารย์เป็นผู้ให้ไง จะมาเรียกร้องเอาอะไร ให้พวกคุณมากี่ครั้งแล้ว ตั้งแต่ทำกรอบป้ายทะเบียนแตก ทำงานไม่เรียบร้อยแล้วโทรมาบอกว่าเรียบร้อย จนต้องเข้าไปซ้ำแล้วซ้ำอีก จะทำงานทำการก็ต้องสลับเวลาใหม่ทั้งหมดเพียงเพราะต้องวนเวียนชีวิตเข้าแต่ศูนย์บริการ ไม่เคยโวยวาย ไม่เคยปริปากพูดจาไม่ดีสักคำ ให้อภัยมาโดยตลอดทุกครั้งด้วยความรัก ความเมตตา มาวันนี้เหมือนคนอกหัก ทุ่มเทความรักให้แต่เขาไม่ใส่ใจใยดีในความรัก ความไว้วางใจที่เรามีให้แม้แต่นิดเดียว ครั้งล่าสุดนี้มันอันตรายเกือบถึงชีวิต ขืนปล่อยไว้ชีวิตพี่น้องประชาชนคนไทย ลูกหลานไทยจะอยู่อย่างไร จะมีใครจะต้องพบเจอกับชะตากรรมแบบนี้อีกไหม แล้วถ้าเขาเสียชีวิตคุณจะสามารถทำให้ชีวิตเขาฟื้นคืนชีพได้หรือไม่ วันนี้ดีใจที่ได้กลับมาเห็นหน้าลูกสาวในวันคล้ายวันเกิดของเขา พ่อกับแม่เกือบเอาชีวิตไม่รอดลูกเอ๋ย อุทาหรณ์สอนใจ

ขอบคุณที่มา :อาจารย์โช