สปก.แพร่ แจงด่วน!!! หลังชาวบ้านปางมะโอ ร่วมหารือเรื่องห้ามไม้สัก (ชมคลิป)

ตามที่ชาวบ้านใน หมู่ 12 บ้านปางมะโอ ต.แม่พุง อ.วังชิ้น จ.แพร่ จำนวน 253 ราย ที่ถือครองที่ดินของตนเองมานับ 100 ปี และมีการขึ้นทะเบียน สปก.4-01 แล้ว ต่อมาในปี 2537 ได้รับการส่งเสริมให้ปลูกป่าเศรษฐกิจ ส่งเสริมการปลูกไม้สัก โดยมีเงินช่วยเหลือจำนวนไร่ละ 3,000 บาท ยังมีการอบรมให้ความรู้วิธีการปลูกและช่องทางการตลาดในอนาคต ชาวบ้านจำนวนมากนำที่ดินที่ได้รับเอกสารสิทธิ์ สปก.4-01 นอกจากนั้นยังมีชาวบ้านที่ได้เพียงเอกสารเป็นใบสอบสวนสิทธิ์ของ สปก.4-01 คือ รางวัดแล้วรอการออกเอกสารสิทธิ์ นำไปเข้าโครงการปลูกป่าเศรษฐกิจดังกล่าว ตามที่ป่าไม้อำเภอวังชิ้น และ ป่าไม้จังหวัดแพร่ เข้าไปส่งเสริมในช่วงของนายสมาน ทนันไชย รักษาการณ์ป่าไม้จังหวัดแพร่ ทำหน้าที่ดังกล่าว เวลาได้ผ่านไปนานถึง 24 ปี ทำให้ไม้สักมีขนาดใหญ่เส้นรอบวงของลำต้นถึง 100 เซนติเมตรแล้ว พร้อมที่จะตัดออกจำหน่าย แต่ชาวบ้านที่เป็นเจ้าของสวนป่าไม่สามารถขอใบอนุญาตได้เนื่องจาก ป่าไม้และ สำนักงาน สปก.จังหวัดแพร่ไม่ออกใบอนุญาตให้ จนชาวบ้านเชื่อว่าเป็นกลวิธีของภาครัฐที่จะยึดที่ดินคืนจากชาวบ้านโดยวิธีฉ้อโกงหลอกให้ทำโครงการปลูกป่าเศรษฐกิจแล้วห้ามตัด ซึ่งเป็นพื้นที่ทำกินที่ปลูกไม้สักไปในช่วงดังกล่าว กว่า 1,500 ไร่

 

 

 

 

และเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2561 ที่ศาลาการเปรียญวัดปางมะโอ มีนางธัญพร แพมงคล ปฏิรูปที่ดินจังหวัดแพร่ นางสาวอภิยดา อารินทร์ นิติกรชำนาญการ นายประพันธุ์ สมพินิจ นักวิชาการปฏิรูปที่ดินชำนาญการพิเศษ เพื่อชี้แจงให้ชาวบ้านเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว มีชาวบ้านเข้าฟัง จำนวน 150 คน โดยนายรัญ สงวนต๊ะ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 12 พระฐาปนพงษ์ ฐานิสสฺโร รักษาการณ์เจ้าอาวาสวัดปางมะโอ ร่วมฟังการชี้แจงด้วย โดยเจ้าหน้าที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินได้กล่าวว่าถึงความเป็นมาของการออกรังวัดเอกสารสิทธิ์ สปก.4-01 ซึ่งมีการขอใช้ที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติในพื้นที่ที่ชาวบ้านทำกินอยู่นับหมื่นไร่ ตามนโยบายของรัฐซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการรังวัดที่ดินทำกินของชาวบ้านและบางส่วนได้ออกใบ สปก.ให้แล้ว แต่ต่อมาปรากฎว่ามีการอนุมัติที่ดินป่าสงวนแห่งชาติให้เพียง 2,000 ไร่เศษเท่านั้นทำให้ที่ดินที่รังวัดและออกใบ สปก.4-01 บางส่วนไปแล้ว กลายเป็นเอกสารที่ทับที่ของป่าไม้จำแนกออกเป็น 3 กรณี คือ 1อยู่นอกเขต สปก. 2. คาบเกี่ยวกับที่ดินป่าไม้ และ3. อยู่ในเขต สปก. ในพื้นที่ที่ทับซ้อนและอยู่นอกเขต สปก. จึงไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้ ทางสำนักงานปฏิรูปที่ดินยังไม่เพิกถอนสิทธิของชาวบ้านแต่จะรอโครงการ one map เสียก่อนซึ่งอาจเป็นประโยชน์ต่อชาวบ้านได้   ทางนางธัญพร แพมงคล ปฏิรูปที่ดินจังหวัดแพร่ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า กรณีดังกล่าวถือเป็นปัญหาที่ค้างคาอยู่ทั่วประเทศ ในส่วนของจังหวัดแพร่ ได้หารือกับนายพงษ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ แล้ว ขณะนี้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ มีเจตนาจะให้เกิดการแก้ไขปัญหาให้ชาวบ้านโดยเร็ว ซึ่งหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งแก้ได้ ต้องมีการประชุมร่วมกันทุกฝ่าย โดยผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่พร้อมในการเป็นประธานในการแก้ปัญหาครั้งนี้

 

 

 

 

พระฐาปนพงษ์ ฐานิสสฺโร รักษาการณ์เจ้าอาวาสวัดปางมะโอ กล่าวว่า ถ้าทางราชการให้ความรู้ทำความเข้าใจกับชาวบ้านอย่างต่อเนื่องก็คงจะได้แก้ปัญหาคลี่คลายปัญหาไปนานแล้วแต่ไม่รู้ว่าทางราชการทำอะไรกันอยู่ถึงปล่อยให้ปัญหาที่ทางราชการสร้างขึ้นจนส่งผลต่อความยากจนของชาวบ้านไปแล้วในขณะนี้ ความผิดที่เกิดขึ้นชาวบ้านไม่ได้ก่อแต่ต้องมารับกรรม อย่างไรก็ตามกรณีที่ สปก.มาชี้แจงก็ถือว่าเป็นผลดี ซึ่งทำให้เราทราบว่า กฎหมายป่าไม้เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แต่การที่ป่าไม้เองก็ยังเข้ามาส่งเสริมปลูกป่าเศรษฐกิจ แสดงว่าน่าจะมีส่วนหลอกให้ชาวบ้านออกจากที่ทำกิน เรื่องนี้จะรอฟังแนวทางของท่านผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ที่จะแก้ปัญหานี้ให้เร็วที่สุด โดยทางชาวบ้านได้เสนอให้การประชุมแก้ปัญหาให้แต่งตั้งตัวแทนชาวบ้านเข้าร่วมด้วยเพื่อเป็นเรื่องของบูรณาการและความชอบธรรมและเป็นเครื่องยืนยันว่าจะไม่หลอกชาวบ้านอีกต่อไป

 

 

 

 

ภาพ/ข่าว ธีรพงษ์ ธงออน ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จังหวัดแพร่