วอนช่วยเหลือ 2 หนูน้อย เลนส์นัยน์ตาดับสนิทตั้งแต่แรกเกิด พร้อมโรคเส้นเลือดหัวใจตีบและสารพัดรุมเร้า ท่ามกลางครอบครัวฐานะยากจน

สองหนูน้อยชาวสตูลวัยขวบเศษ และ 9 เดือน ต้องเผชิญกับโรคร้ายที่เกาะกินตั้งแต่แรกเกิด อาศัยอยู่ภายใต้ครอบครัวที่ยากจนค้นแค้น สภาพบ้านปูนสร้างอย่างง่าย ๆพอซุกตัวนอนตั้งอยู่ในป่ายางพาราห่างจากถนนใหญ่ 1 กิโลเมตร

เลขที่ 409 หมู่ที่ 10 ต.ควนกาหลง อ.ควนกาหลง จ.สตูล ซึ่งมีนายสราวุธ บูอีตำ อายุ 36 ปีผู้เป็นพ่อ และนางกมลวรรณ (ก๊อป) แก้วสวัสดิ์ อายุ 23 ปี ผู้เป็นแม่และคนในครอบครัวปู่และย่าที่มาช่วยดูแลหลาน ๆ และหาเลี้ยงชีพคนในบ้านที่อาศัยรวมกัน 8 คน ทำงานได้เพียง 2 คน มีรายได้จากการรับจ้างกรีดยางพารา และหาปลา เก็บหมากตากแดดขายเลี้ยงคนในครอบครัวรวมทั้งน้องน้ำหวาน และน้องเวียร์

 

คุณแม่ก๊อป หรือนางกมลวรรณ แก้วสวัสดิ์ เล่าว่า แรกเริ่มน้องน้ำหวานบุตรสาวเกิดมาซึ่งเป็นลูกคนกลาง เนื่องจากตนมีลูกติดกับสามีแรกมาด้วยหนึ่งคนแต่ปกติดี คุณหมอบอกว่าเลนส์แก้วในตาข้างขวาของน้องแตก จากนั้นผ่านไป 20 วัน เลนส์ในตาข้างซ้ายก็แตกตาม ผ่านมาอีก 27 วันหมอตรวจพบว่าในสมองของน้ำมีโพรงน้ำผิดปกติ ต้องการทำผ่าตัดใส่ท่อระบายจากสมองไปที่ท่อปัสสาวะ และยังพบโรคที่แทรกซ้อนมากับน้องคือโรคหัวใจตีบ 60 เซ็นต์ กล้ามเนื้อแขนและขาอ่อนแรง โรคหอบหืดภูมิแพ้ จนปัจจุบันนี้น้องอายุ 1 ขวน 9 เดือน ก็ยังไม่สามารถนั่งหรือคลานเหมือนเด็กทั่วไปได้ อาหารไม่ทานทานแต่นมผง

ขณะที่คนเล็กผู้ชายซึ่งอายุเพียง 9 เดือน ชื่อน้องเวียร์ แม้ดวงตาทั้งสองข้างจะปกติดีในขณะนี้แต่ไม่รู้ว่าจะมีอะไรแทรกซ้อนอีกหรือไม่นอกจากอาการโรคหัวใจตีบ เช่นเดียวกันกับคนพี่น้องน้ำหวาน และโรคภูมิแพ้ หอบหืด ต้องทานขนมผลตามแพทย์สั่งจะช่วยบรรเทาอาการกระป๋องละ 380 บาท -400 บาท ซึ่งทานได้คนเดียวเพียงแค่ 2 วันนมก็หมด ซื้อให้ลูกได้เพียงแค่ 7 กระป๋องต้องนี้ต้องเลิกกินแล้วเพราะสู้ราคาไม่ได้

คุณแม่ก๊อป หรือนางกมลวรรณ แก้วสวัสดิ์ กล่าวว่า มีความหวังลึก ๆ ว่าอยากให้ลูกเดิน หรือนั่งได้ แม้ดวงตาจะมองไม่เห็นแล้วก็ตามก็ยอมรับสภาพที่เกิดขึ้นกับบุตรของตนเองทั้งสอง และไม่อยากให้มีโรคอะไรมาแทรกซ้อนไปมากกว่านี้อีกแล้ว ขณะนี้มีทางพมจ.สตูล ได้เข้ามาช่วยเหลือเงินบ้างแล้ว และทาง กศน.ที่ควนกาหลง มาช่วยสอนเรื่องการนวดกล้ามเนื้อให้น้อง ซึ่งที่คุณแม่ต้องประสบคือ การเดินทางไปพบหมอที่รพ.มอ.จ.สงขลา เดือนละ 3-4 ครั้งตามแพทย์นัด ด้วยครอบครัวอยากจนก็ลำบากในเรื่องค่าใช้จ่ายในการเดินทาง การนม ตอนนี้มีความต้องการรถเข็ญแบบนอนให้น้อง เพราะน้องไม่ยอมนั่ง เดินทางไปก็ลำบาก รอพบหมอต้องให้น้องนอนอยู่ตลอด สร้างความลำบากมากแต่ก็ต้องทน

แต่หากมีผู้ใจบุญอยากให้ช่วยเทพื้นบ้านที่เป็นดินเพราะนำเสื่อมาปูทับแล้ว ก็ยังเป็นฝุ่น น้องนอนเล่นกับพื้นไม่ได้เลยเพราะกลัวจะมีโรคอื่นมาแทรกซ้อนอีก ทางครอบครัวก็หมดหนทางที่จะทำแล้ว   นางชิดชนก อินทรินทร์ คุณย่า บอกว่า ตนเห็นหลานแล้วสงสารจับใจ ตาที่มองไม่เห็นแล้วยังมาเจอโรคร้ายอีก ได้แต่หวังอยากให้หลานเดิน และนั่งได้ ส่วนเรื่องดวงตาเหมือนจะหมดหวังไปเลย ซึ่งตนเองก็ป่วยเป็นโรคความดันทำงานไม่ได้เหมือนกันเลยมาช่วยลูกหลานเลี้ยงดูหลาน ๆ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระได้ตามกำลัง

นายปิยะชาติ ศรีภักดี ชาวบ้าน.. ทันทีที่ทราบข่าวได้เดินทางมาดูและหดหู่ใจมาก กับโรคที่น้องน้ำหวานและน้องเวียร์ สองพี่น้องในครอบครัวนี้ต้องประสบพบเจอ และต้องช่วยกันดูแลรักษากันไปตามกำลังแม้จะเป็นครอบครัวที่ยากจน ก็ไม่ได้นิ่งเชยช่วยกันทำมาหากินตามกำลัง และอะไรที่นอกเหนือกำลังก็เห็นแล้วว่าหากมีผู้ใจบุญยื่นมาช่วยเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเพื่อแบ่งเบาภาระก็น่าจะดีไม่น้อย

สำหรับท่านใดที่อยากจะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือแบ่งเบาภาระครอบครัวน้องน้ำหวานและน้ำเวียร์ สองพี่น้องสามารถติดต่อโดยตรงได้ที่เบอร์คุณแม่ก๊อป ของน้องทั้งสองที่โทร.097-270-1506 หรืออยากส่งเงินคนละเล็กน้อยมาได้ที่เลขบัญชีคุณแม่ก๊อป ธนาคารกรุงไทย 919-0-37808-3 ชื่อบัญชี น.ส.กมลวรรณ แก้วสวัสดิ์ สาขาควนกาหลง

เอนก  ขันทสิกรรม   ผู้สื่อข่าวภูมิภาค  สำนักข่าวทีนิวส์    จังหวัดสตูล