ประกาศ ฉ.2 !! กรมอุตุฯ เตือนประเทศไทยมีอากาศแปรปรวน จะมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงหลายพื้นที่ ก่อนอุณหภูมิลดลง 2 - 4 องศาฯ (รายละเอียด)

ประกาศ ฉ.2 !! กรมอุตุฯ เตือนประเทศไทยมีอากาศแปรปรวน จะมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงหลายพื้นที่ ก่อนอุณหภูมิลดลง 2 - 4 องศาฯ (รายละเอียด)

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
"อากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทยตอนบน (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 21-24 กุมภาพันธ์ 2561)" 
ฉบับที่ 2 ลงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2561
     ในช่วงวันที่ 21-24 กุมภาพันธ์ 2561 ประเทศไทยตอนบนจะมีอากาศแปรปรวน โดยมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงได้บางพื้นที่ ในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส โดยเริ่มในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะได้รับผลกระทบในวันถัดไป จึงขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ในขณะเกิดฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ในช่วงวันและเวลาดังกล่าว สำหรับเกษตรกรควรระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย
        ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนและทะเลจีนใต้ในขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้

        จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด 

       

        ประกาศ ณ วันที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 เวลา 05.00 น.

        กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับต่อไปใน วันที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 เวลา 11.00 น.

       

        (ลงชื่อ) วันชัย ศักดิ์อุดมไชย

        (นายวันชัย ศักดิ์อุดมไชย) 

        อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา

 

     ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีอากาศร้อนกับมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นบางพื้นที่ สำหรับภาคเหนือตอนบนยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า ส่วนภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วย

     อนึ่ง ในช่วงวันที่ 21-24 กุมภาพันธ์ 2561 ประเทศไทยจะมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียสกับมีลมแรง โดยเริ่มจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนภาคอื่นๆ จะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป สำหรับกรุงเทพมหานครและปริมณฑลจะมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่ง ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

     กระแสลมฝ่ายตะวันออกพัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมประเทศไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ส่วนภาคเหนือตอนบนยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า

 

ประกาศ ฉ.2 !! กรมอุตุฯ เตือนประเทศไทยมีอากาศแปรปรวน จะมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงหลายพื้นที่ ก่อนอุณหภูมิลดลง 2 - 4 องศาฯ (รายละเอียด)

 

     ภาคเหนือ    
ทางตอนบนของภาค มีอากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า 
อุณหภูมิต่ำสุด 12-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส 
ทางตอนล่างของภาค มีอากาศร้อน 
อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส 
บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-12 องศาเซลเซียส 
ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

     ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ    
มีอากาศร้อนกับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ 
ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ และศีรสะเกษ 
อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส 
บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-14 องศาเซลเซียส 
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

     ภาคกลาง    
มีอากาศร้อน กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดลพบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สมุทรสาคร สมุทรสงคราม ราชบุรี และกาญจนบุรี 
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส 
อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส 
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

     ภาคตะวันออก    
มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ 
ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา สระแก้ว ชลบุรี และระยอง 
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส 
อุณหภูมิสูงสุด 29-36 องศาเซลเซียส 
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. 
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

     ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)    
มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ 
ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี 
นครศรีธรรมราช และสงขลา 
อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส 
อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส 
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. 
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

     ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)    
มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ 
ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต 
อุณหภูมิต่ำสุด 18-25 องศาเซลเซียส 
อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส 
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. 
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

     กรุงเทพมหานครและปริมณฑล    
มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ 
อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส 
อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส 
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.