ดูจะจะยุคไหนดัชนีโกงพุ่ง?! "เพจดัง"เปิดตัวเลข"ดัชนีติดสินบน" หลังมีคนอ้างยุค คสช.โกงพุ่ง 5 -15 % ต่างกันลิบกับยุค"หญิงปู" ที่สูงถึง 25-35 %

 

ดูจะจะยุคไหนดัชนีโกงพุ่ง?! "Kittitouch Chaiprasith" เพจเฟซบุ๊กชื่อดัง ซึ่งเกาะติดประเด็นการเมือง โดยเฉพาะความเคลื่อนไหวของฟากฝั่งคนเสื้อแดง และองคาพยพของระบอบทักษิณมานาน  ได้ออกมาเปิดตัวเลข "ดัชนีการติดสินบน" ซึ่งกำลังเป็นประเด็นเขย่ารัฐบาล คสช.อยู่ในขณะนี้ เพราะมีคนอ้างผลสำรวจของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เรื่องดัชนีคอร์รัปชันไทยเดือนธันวาคม 2560 โดยอ้างว่า ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นในยุครัฐบาล คสช.เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 3 ปีนับตั้งแต่ปี 2558 เมื่อ 2 - 3 วันก่อน

 

ต่อเรื่องดังกล่าว "Kittitouch Chaiprasith" ได้ออกมาเปิดเผยตัวเลขแบบจะจะ ซึ่งก็สอดคล้องกับตัวเลขที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยสำรวจมา แต่ "Kittitouch" ก็ฉายให้เห็นว่า ถึงอย่างไรดัชนีการโกงของยุค คสช. ที่ขยับเพิ่ม 5-15 % ก็ยังน้อยกว่าปลายยุครัฐบาลอภิสิทธิ์  และตลอดช่วงรัฐบาลยิ่งลักษณ์ จนยุบสภา ซึ่งอัตราจ่ายสินบนใต้โต๊ะช่วงนั้นสูงถึง 25-35 % แน่

 

โดยรายละเอียดทั้งหมดที่ "Kittitouch Chaiprasith" ระบุไว้ คือ

มีข่าวสำคัญ 2 ข่าวที่มีผู้คนสอบถาม
ผ่าน inbox กันค่อนข้างเยอะ จนทำให้
ผมคิดว่าต้องนำเรื่องนี้มาเขียนเสียหน่อย

1. ข่าวเรื่องอัตราการจ่ายสินบนขยับตัวขึ้น
ซึ่งหลายคนอ่านแต่พาดหัว โดยไม่พิจารณา
รายละเอียดก็อาจทำให้เข้าใจผิดกันยกใหญ่
(คือใช่ มันขยับตัวขึ้น แต่ขึ้นจากไหนนี่สิ...)

 

2. ข่าวเรื่องนายวิษณุ เครืองามไปบรรยาย
เรื่องเขตเศรษฐกิจพิเศษในงานที่จัดขึ้นโดย
สมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์
จนมีคนเอาประเด็นเรื่องการถือครองที่ดิน
มาปั่นกระแสประมาณว่ารัฐบาลขายชาติ
ยกแผ่นดินและทรัพย์สมบัติให้ต่างชาติ
--------------------------

1. โพสท์นี้ผมจะขอพูดเรื่องแรกก่อน
เรื่องดัชนีการจ่ายสินบนขยับตัวสูงขึ้น
โดยพาดหัวข่าวของบางสำนักข่าว
อาจจะสั้นและไม่ได้ใจความหมด
ทำให้หลายคนคิดกันไปว่า...

 

เอ๊ะ....ทำไมรัฐบาล คสช.บอกว่า
เข้ามาจัดระเบียบความวุ่นวายการเมือง
เข้ามาจัดการกับกองกำลังติดอาวุธและ
เข้ามาจัดระเบียบเรื่องระบบข้าราชการ
แล้วทำไมคอรัปชั่นพุ่งสูงกว่าที่ผ่านมา?

ใต้โต๊ะพุ่ง2แสนล้าน หอการค้าสำรวจพบตัวเลขขยับเพิ่ม 5-15%
www.posttoday.com/economy/540511
คอร์รัปชันยุค คสช. ทำสถิติสูงสุดในรอบ 3 ปี
www.thairath.co.th/content/1207272

- ทั้งนี้ถ้าท่านอ่านแต่ #พาดหัวข่าว
แล้วใช้อารมณ์นำ อยากจะโพสท์แรงๆ
เพื่อเรียกกระแสดราม่าทางการเมืองนั้น
ท่านควรจะย้อนกลับไปดูเนื้อหาข่าวและ
รายงานผลสำรวจทั้งหมดที่แสดงมนข่าว
ก่อนจะออกมาแสดงอารมณ์กันต่างๆนานา

- ทั้งที่เนื้อหาข่าวและกราฟฟิก
ที่ทางสำนักข่าวทำมาก็ถือว่าชัดเจน
แต่คงจะมีน้อยคนนักที่จะเข้าไปอ่านกัน...
--------------------------

- ผลสำรวจอัตราการจ่ายเงินสินบนอันนี้
รายงานจาก มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
ซึ่งเก็บสถิติการจ่ายเงินสินบนใต้โต๊ะตั้งแต่
ปี 2553-2556 ซึ่งก็คือปลายรัฐบาลอภิสิทธิ์
และตลอดช่วงรัฐบาลยิ่งลักษณ์ (จนยุบสภา)

- ซึ่งอัตราจ่ายสินบนใต้โต๊ะช่วงนั้นสูงถึง
25-35%!! หรือประมาณ 2.5-3.5 แสนล้าน
ก่อนที่หลังการรัฐประหารเดือน พ.ค.2557
เมื่อเข้าสู่เดือน มิ.ย.2557 อัตราจ่ายใต้โต๊ะ
ลดลงมาเหลือ 15-25% ก่อนที่ปลายปี 57
จะปรับตัวลงมาเหลือแค่ 5-15% เท่านั้น

- และหลังจากปี 2558-2559 ปรับลดลง
เหลือแค่ 1-15% หรือเฉลี่ยเพียงแค่ 10%
(ประมาณ 1-1.5 แสนล้าน) ซึ่งลดลงชัดเจน
จากเดิมที่ 25-35% ในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์
ลงมาเหลือ 1-15% หรือเฉลี่ยประมาณ 10%

(เฉลี่ยลดลงมากว่า 20% จากของเดิม)

ซึ่งก็สอดคล้องกับรายงานผลสำรวจปี 2559
ที่รายงานโดย ม.หอการค้าไทย (เจ้าเดิม)

"ไทยจ่ายใต้โต๊ะลดลงเหลือ 10%
หนุนดัชนีโกงดีขึ้น มากสุดรอบ 6 ปี"
www.thairath.co.th/content/571649

--------------------------

- สำหรับการออกมารายงานผลสำรวจปีนี้
ตัวเลขขยับขึ้นจริง แต่เป็นสัดส่วนขั้นต่ำคือ
จาก 1-15% มาเป็น 5-15% เหมือนหลังปี 57
ซึ่งอธิการบดี ม.หอการค้าไทย ได้ตั้งข้อสังเกต
ว่าหลังจากที่เริ่มมีโครงการขนาดใหญ่เกิดขึ้น
การจ่ายสินบนก็เริ่มมีการขยับตัวขึ้นเล็กน้อย

- จากเดิมที่กำลังไปได้ดี
และค่อยๆ ปรับลดระดับเรื่อยๆ
จนต่ำสุดในช่วงปี 2558-2559
แต่มาตอนนี้เริ่มมีการขยับขึ้นบ้าง

- ซึ่งท่าทีการออกมาให้สัมภาษณ์
ก็เป็นไปในเชิงการให้ข้อมูล+เตือนว่า
ภาครัฐไม่ควรนิ่งนอนใจ ว่าที่ผ่านมานั้น
แม้ว่าดัชนีคอรัปชั่นลดลงเป็นอย่างมาก
ก็ไม่สามารถจะปล่อยปละละเลยไปได้

*** เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องกวดขัน
และสังคมต้องคอยสอดส่องอยู่ตลอดเวลา
แม้ว่าหัวไม่ส่าย-หางไม่กระดิกจะช่วยได้มาก
แต่การจะดำเนินการควบคุมการคอรัปชั่นนั้น
ยังคงต้องอาศัยกลไกอื่นๆ อีกมากและ
ต้องใช้เวลาต่อสู้กันอีกยาวนาน.....

(โดยเฉพาะค่านิยมกับโครงสร้างอำนาจ
ของระบบการเมืองและข้าราชการในไทย)

*** เพราะวันไหนที่คนนิ่งนอนใจ
ความโลภ และ ฉ้อฉลของมนุษย์
ก็พร้อมจะผุดขึ้นมาเอาเปรียบผู้อื่น
และสร้างความเสียหายต่อส่วนรวม
และประเทศชาติอยู่เสมอๆ

ขอบคุณข้อเขียน : "Kittitouch Chaiprasith"