นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ จ.นครปฐม ตรวจเยี่ยมศูนย์รวบรวมน้ำนมดิบทุ่งลูกนก

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี.   ตรวจเยี่ยมศูนย์รวบรวมนำ้นมดิบทุ่งลูกนก สหกรณ์โคนมกำแพงแสน จำกัด ต.ทุ่งลูกนก อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 

เมื่อวันที่ 21 กพ.2561 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี.   ตรวจเยี่ยมศูนย์รวบรวมนำ้นมดิบทุ่งลูกนก สหกรณ์โคนมกำแพงแสน จำกัด ต.ทุ่งลูกนก อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม พร้อมด้วยคณะโดยมี ผวจ.นครปฐม หัวหน้าส่วนราชการ สมาชิกสหกรณ์ ประชาชน ให้การต้อนรับ

จากนั้นนายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐมได้กล่าวรายงานและ นายนัยฤทธิ์ จำเล ในนามตัวแทนคณะกรรมการและมวลสมาชิกสหกรณ์โคนมกำแพงแสน จำกัด 
ที่ได้มาตรวจเยี่ยมสมาชิกสหกรณ์

 

 

 

 

ได้รับการจดทะเบียนเป็นสหกรณ์ เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2531  มีสมาชิกแรกตั้งจำนวน 50 ครอบครัว รวบรวมน้ำนมดิบจากสมาชิกได้
วันละ 3 ตัน ปัจจุบันมีสมาชิกจำนวน 342 ครอบครัว รวบรวมน้ำนมดิบจากสมาชิกได้
วันละ 42 ตัน มีประชากรโคนมทั้งสิ้น จำนวน 9,406 ตัว จำนวนโคนมรีด 3,681 ตัว  
ในปี 2559 ที่ผ่านมา สหกรณ์มีผลการดำเนินงาน กำไรสุทธิ จำนวน  26,600,000.-บาท โดยดำเนินธุรกิจจำนวน  6 ธุรกิจ  ดังนี้
1. ธุรกิจรวบรวมน้ำนมดิบ มีกำไรเฉพาะธุรกิจ จำนวน       7,900,000.- บาท ธุรกิจแปรรูปน้ำนมดิบ มีกำไรเฉพาะธุรกิจ จำนวน   23,500,000.-บาท ธุรกิจผลิตอาหารสัตว์
ขาดทุนเฉพาะธุรกิจ   จำนวน  1,500,000.-บาท เนื่องจากสหกรณ์  ได้ทำการปรับปรุงโรงงาน และซ่อมแซมระบบไฟฟ้าและเครื่องจักร และมีค่าเสื่อมอาคาร  ธุรกิจจัดหาสินค้ามาจำหน่าย มีกำไรเฉพาะธุรกิจ   จำนวน    3,300,000.-บาท ธุรกิจสินเชื่อ
มีกำไรเฉพาะธุรกิจ จำนวน     280,000.-บาท ธุรกิจบริการผสมเทียม มีกำไรเฉพาะธุรกิจ     จำนวน    40,000.-บาท การดำเนินงานของสหกรณ์ฯ ได้มุ่งเน้นช่วยเหลือสมาชิกและเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมในจังหวัดนครปฐม และใกล้เคียง  ให้มีรายได้เพียงพอในการเลี้ยงครอบครัว และมีความมั่นคง  ในการประกอบอาชีพ สหกรณ์ฯ ได้ร่วมบูรณาการทำงาน กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อประโยชน์ของสมาชิก ให้ครอบคลุมทุกมิติ โดยมุ่งเน้นช่วยเหลือสนับสนุนข้อมูลทางวิชาการ ให้คำปรึกษากับสมาชิกด้านการพัฒนาฟาร์ม การพัฒนาสายพันธุ์ ด้านอาหารโคนม จนทำให้สามารถพัฒนาคุณภาพน้ำนมดิบ และเพิ่มผลผลิตได้

 

 

 

 

สหกรณ์และสมาชิก ได้เข้าร่วมโครงการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ใช้เป็นอาหารหยาบให้โคนม เพื่อลดทุนการผลิต เพิ่มปริมาณ และคุณภาพของน้ำนมดิบ บนพื้นที่รวมประมาณ 
500 ไร่ เข้าร่วมโครงการเกษตรแปลงใหญ่โคนม เพื่อขอกู้เงินทำกิจกรรมจัดซื้อเครื่องล้างถังนมแบบอัตโนมัติ และจัดซื้อแม่พันธุ์โคนมให้กับสมาชิก เพื่อเพิ่มผลผลิต ลดค่าใช้จ่าย  และลดแรงงาน
และในปี 2561 นี้ สหกรณ์มีแผนผลักดันในธุรกิจผลิตนมยู เอช ที ให้ดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพ และมั่นคง  โดยการพัฒนาผลิตภัณฑ์นม เชิงพาณิชย์จำหน่ายให้กับ
ประเทศเพื่อนบ้าน สหกรณ์ฯ มีศูนย์รับน้ำนมดิบทุ่งลูกนก ขนาด 40 ตันต่อวัน ซึ่งสามารถรับน้ำนมดิบได้ถึง 45 ตันต่อวัน ปัจจุบันรับน้ำนมดิบจากสมาชิกที่มาส่งให้สหกรณ์ฯ วันละ 42 ตัน     คาดว่า คงไม่เพียงพอในการรองรับปริมาณน้ำนมที่เพิ่ม ในอนาคต ข้างหน้า   เนื่องจากสหกรณ์ฯ ส่งเสริมด้านอาหารหยาบให้สมาชิกเพิ่มผลผลิต และเพิ่มจำนวนโคนม รวมถึงการเปิดรับเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมรายใหม่ ที่ประสงค์จะเข้ามาเป็นสมาชิกสหกรณ์       จึงมีความจำเป็นต้องขยายศูนย์รวบรวมน้ำนมดิบเพิ่ม เพื่อรองรับปริมาณน้ำนมดิบในอนาคต
และช่วงเวลาปิดเทอม สหกรณ์ประสบปัญหาในการหาที่จำหน่ายน้ำนมดิบ 

 

ดังนั้น เพื่อเป็นการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของสมาชิกและสหกรณ์ในระยะยาว สหกรณ์จึงริเริ่มโครงการก่อสร้างโรงงงานผลิตนม ยู.เอช.ที ขนาด 3 ตันต่อชั่วโมง เพื่อต่อยอดธุรกิจ และพัฒนาผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ โดยสหกรณ์มีการประมาณการค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง  ทั้งสิ้นประมาณ 120 ล้านบาท
ปัจจุบันสหกรณ์ได้ขอกู้เงินจากสถาบันการเงินเพื่อนำมาดำเนินการ ซึ่งได้รับ
การอนุมัติเงินกู้ เพียงจำนวน 70 ล้านบาท
ดังนั้น เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวสหกรณ์ฯ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องการหา
แหล่งเงินทุน หรืองบประมาณเพิ่มเติม เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานตามโครงการดังกล่าวให้สำเร็จตามวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างรากฐานที่มั่นคงในอาชีพการเลี้ยงโคนมและสร้างให้ชุมชนเกิดความเข้มแข็ง สมาชิกมีความเป็นอยู่ที่ดี และมีความ "มั่นคง มั่งคั่ง อย่างยั่งยืน”อีกด้วย 

 

 

 

ภาพ/ข่าว ปนิทัศน์ มามีสุข นส.ปณิดา มามีสุข ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์  จ.นครปฐม