ลูกชายตัวแสบ ซื้อขาย"เสือกระต่าย"สัตว์ใกล้สูญพันธุ์ ผ่านเฟซบุ๊ก-ไลน์ โอนเงินเข้าบัญชีแม่ นำกำลังบุกค้นบ้าน อึ้งหนัก..นี่ไม่ธรรมดาซะแล้ว

เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 61 นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช สั่งการให้ นายนุวรรต  ลีลาพตะ รองหัวหน้าชุดปฏิบัติการปราบปรามการกระทำผิดด้านสัตว์ป่า(เหยี่ยวดง) สำนักสัตว์ป่าและพันธุ์พืช พร้อมด้วย นายนาวี ช้างภิรมย์ นักวิชการป่าไม้ชำนาญการ สำนักป้องกันปราบปรามและควบคุมไฟป่า นายจักรพันธุ์ เพื่อนฝูง เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาน้อย - เขาประดู่ พร้อมเจ้าหน้าที่อนุกรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่ 11 พิษณุโลก ร่วมกับสายตรวจสัตว์ป่าจังหวัดอุตรดิตถ์ นำหมายศาลจังหวัดอุตรดิตถ์ เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 61/1 หมู่ 7 บ้านพญาปันแดน ต.พญาแมน อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ หลังสืบทราบว่าบ้านหลังนี้ มีการลักลอบเลี้ยงและซื้อขายสัตว์ป่าคุ้มครองหลายชนิดที่ผิดกฏหมาย พร้อมโฆษณาประกาศจำหน่ายสัตว์ป่าผ่านทางเฟสบุ๊คและไลน์ ชื่อ นายวีระชาติ วิริยวงศ์ ด้วยการชวนเชิญซื้อสัตว์ป่าคุ้มครอง อาทิ นกแก้วโม่ง นกแก้วหัวแพร ลูกนกเค้าจุก ลูกเหยี่ยว เหยี่ยวทุ่ง และ เสือกระต่าย ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้ม ครอง ตาม พรบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 มาตรา 19 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

โดยมีนางสำราญ วิริยะวงษ์ อายุ 72 ปี เจ้าของบ้าน พร้อมด้วยนายวีระชาติ วิริยะวงษ์ อายุ 35 ปี (ลูกชาย) เป็นผู้นำตรวจค้นที่ใต้ถุนบ้านไม้ยกพื้นสูงและที่บริเวณโรงเรือน สำหรับใช้เลี้ยงนกยูงไก่และไก่ฟ้า เจ้าหน้าที่พบสัตว์ป่าคุ้มครองประกอบด้วย นกแก้วหัวแพร 8 ตัว นกกวัก 1 ตัว นกตีนเทียน 1 ตัว นกขุนทอง 1 ตัว นกคุ้มสี 4 ตัว เป็ดลาย 7 ตัว เป็ดแดง 7 ตัว เหยี่ยวขาว 1 ตัว ลูกนกหัวขวานสี่นิ้วหลังทอง 2 ตัว และลูกนกแก้วหัวแพร 17 ตัว รวม 9 ชนิด จำนวน 49 ตัว อยู่ภายในกรงเหล็กและกรงไม้รวม 6 กรง พร้อมกล่องพลาสติก จำนวน 1 กล่อง จึงทำการยึดสัตว์ป่าของกลางทั้งหมดเอาไว้ 

สอบสวนนายวีระชาติ ให้สารรับสารภาพว่า สัตวป่าคุ้มครองที่พบเห็นส่วนหนึ่งเลี้ยงไว้ดูเล่นเพื่อความสวยงามเพราะชอบสัตว์ป่า ส่วนหนึ่งเลี้ยงไว้เพื่อจำหน่ายขายจริง อาศัยซื้อต่อจากผู้อื่นตามเว็บออนไลน์บ้างและหาในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์บ้าง แล้วประกาศขายต่อผ่านทางเฟสบุ๊ค เมื่อมีผู้ซื้อก็จะให้โอนเงินผ่านสมุดบัญชีธนาคารออมสิน สาขาพิชัย นางสำราญ โดยผู้เป็นแม่ไม่ทราบเรื่องการซื้อขายผ่านสมุดบัญชีธนาคารในครั้งนี้

รับสารภาพว่า เคยถูกเจ้าหน้าที่จับกุมมาแล้วครั้งหนึ่ง และเคยถูกศาลตัดสินจำคุก แต่ให้รอลงอาญาเป็นเวลา 2 ปี และอยู่ระหว่างการรอลงอาญา แต่ก็มากระทำผิดซ้ำอีกครั้งเจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหานางสำราญพร้อมนายวีระชาติ (ลูกชาย) ร่วมกันมีสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันค้าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมนำตัวผู้ต้องหาส่งมอบให้กับ พ.ต.ท.สังวาลย์  งอกศิลป์ สารวัตรเวรสถานีตำรวจภูธรพญาแมน เพื่อดำเนินคดีต่อไป

 
ผู้สื่อข่ารายงานว่า ก่อนเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการปราบปรามการกระทำผิดด้านสัตว์ป่า(เหยี่ยวดง) นำหมายศาลเข้าตรวจค้นพร้อมจับกุมนางสำราญและนายวีระชาติ 2 แม่ลูกนั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการล่อซื้อเสือกระต่าย ซึ่งมีรูปร่างลักษณะหูยาวเหมือนกระต่าย แต่มีรูปร่างเล็กเหมือนแมว ชาวบ้านส่วนใหญ่เรียกว่า "แมวป่า" ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองหายากมากในประเทศไทย และคาดว่ามาหลงเหลืออยู่ในประเทศไทยไม่เกิน 10 ตัว ล่อซื้อเสือกระต่าย จำนวน 2 ตัว เป็นเงินจำนวน 80,000 บาท ผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัวของนายวีระชาติ ด้วยการโอนเงินผ่านธนาคารออมสินในนามบัญชีของนางสำราญ ผู้เป็นแม่ พร้อมส่งมอบของที่บริเวณสถานีขนส่งหมอชิต 2 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพ ผ่านคนขับรถทัวร์ บริษัท พิษณุโลกยานยนต์ จำกัด ถูกจับกุมตัวได้ที่กรุงเทพมหานครเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พร้อมนำเสือกระต่ายตรวจสอบยืนยันชนิดพันธุ์อีกครั้งหนึ่ง ก่อนแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มอีก 1 กระทง จากการกระทำความผิดต่างกรรมต่างวาระ ในข้อหาร่วมกันค้าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต 

ภาพ/ข่าว  สมภพ  สินพิพัฒนฤดี  ผู้สื่อข่าวภูมิภาค  สำนักข่าวทีนิวส์  จังหวัดอุตรดิตถ์