โวยแหลก ! ชาวบ้านสุดทน จวกผู้รับเหมาทำงานชุ่ย ลอบขุดลอกปล่อยน้ำจากหนองทิ้ง ทำนาปรังเสียหายหลายร้อยไร่ แถมปัดรับผิดชอบ

วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2561  ผู้สื่อข่าวรับแจ้งจากนายเตียงชัย เพริศแก้ว ผู้ใหญ่บ้านหนองตาไก้ หมู่ 11 ต.อากาศอำนวย จ.สกลนคร ว่าชาวบ้านหนองตาไก้ 54 ครัวเรือน ได้ทำนาปรังนอกเขตชลประทาน มีพื้นที่ทั้งหมด 258 ไร่ ซึ่งใช้น้ำจากฝายห้วยหินดินดำตอนล่าง ได้ประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำหล่อเลี้ยงต้นข้าว เหตุเนื่องจากมีผู้รับเหมาที่ขุดลอกห้วยหินดินดำตอนบน ได้มาระบายน้ำจากห้วยหินดินดำตอนล่างออก และเกิดปัญหาน้ำลดเหลือน้อยลง ขณะนี้น้ำเริ่มแห้งขอดไม่เพียงพอต่อการเพาะปลูกทำข้าวนาปรังในพื้นที่ มีบางเจ้าต้องปล่อยให้ตายและทิ้งเสีย ขณะเดียวกันได้ร้องยังผู้รับเหมาเร่งให้การช่วยเหลือและแก้ไขแต่กลับเมิน อ้างรอคำสั่งจากหน่วยเหนือ จึงทนไม่ไหวทำหนังสือแจ้งยังอำเภอท้องที่และกรมทรัพย์ยากรน้ำ ภาค 3 อุดรธานี ต่อมาได้รับการช่วยเหลือจากกรมทรัพยากรน้ำ ภาค 3 อุดรธานี นำเครื่องสูบน้ำ 1 เครื่อง คือผันน้ำจากลำน้ำยามไปสู่แปลงหนองน้ำ ก่อนที่ชาวบ้านที่ทำนาข้าวสูบไปยังแปลงนาของตนเอง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน แต่ปัญหาคือขาดน้ำมันเชื้อเพลิงใช้กับเครื่องสูบ ขอการสนับสนุนหรือช่วยเหลือจากหน่วยงานหรือแม้แต่ผู้รับเหมาก็เงียบ จึงทำให้ผู้ปลูกข้าวได้รับความเดือดร้อนหนัก ซึ่งรวมจำนวนพื้นที่ทั้งหมดที่ปลูกข้าวนาปรังรอบบริเวณหนอง มี พื้นที่บ้านหนองตาไก้ ต.อากาศ และพื้นที่หมู่บ้านเขตอำเภอนาหว้า จ.นครพนมรวมกว่า 500 ไร่

นายเตียงชัย เพริศแก้ว ผู้ใหญ่บ้านหนองตาไก้ เผยว่า ตลอดทุกปีหมู่บ้านหนองตาไก้ หมู่ 11 หลักคือปลูกข้าวนาปรัง เพราะที่นี่เป็นที่ลุ่มน้ำท่วมซ้ำซาก แต่ทุกปีก็ไม่เคยขาดแคลนน้ำ หรือแห้งขอด และปีนี้รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณดำเนินการทำการขุดลอกหนองและสร้างฝาย โดยมีผู้รับเหมารับเหมาดำเนินการขุดลอกและทำสันนพ แต่ปรากฏว่าผู้รับเหมาได้ดำเนินการปล่อยน้ำออก จนทำให้น้ำภายในหนองลดลงแห้งขอด เหตุเพื่อต้องการที่จะขุดลอกหนองใหม่ ผู้รับเหมาไม่สอบถามชาวบ้านในพื้นที่ผู้ใช้น้ำโดยตรง อ้างว่าบอกผ่านนายสมหวัง นามเสาร์ กำนันตำลบเหล่าพัฒนา อ.นาหว้า จ.นครพนม อนุญาตให้ลดระดับปริมาณน้ำลง 50 ซม.ได้ จากนั้นผู้รับเหมาได้ใช้รถแบ็กโฮทำการขุดระบายน้ำออก ห่างจากสปริงเวย์จุดเดิมเพียง 20 เมตร ปรากฏว่าบริเวณที่ขุดน้ำกัดเซาะลึกจนไม่สามรถปิดน้ำได้ ทำให้ปริมาณน้ำภายในหนองลดลงอย่างรวดเร็ว จนวิกฤตน้ำแห้งขอด แต่ผู้รับเหมาปัดความรับผิดชอบ จึงทำให้ผู้ที่ปลูกข้าวนาปรังในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนขาดแคลนน้ำ จึงขอความช่วยเหลือจากอำเภออากาศอำนวย เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาและช่วยเหลือ

ต่อมาผู้รับเหมาได้นำเครื่องสูบน้ำจำนวน 2 เครื่อง ผันจากลำน้ำยามลงสู่หนอง เพื่อให้เกษตรกรได้สูบน้ำต่อไปยังแปลงนาข้าวของตนเอง แต่ทำได้ 2 วัน ก็ยกเครี่องสูบน้ำหนีหายไป จึงร้องไปยังกรมทรัพยากรน้ำ ภาค 3 อุดรธานี เพื่อขอความช่วยเหลือ จากนั้นได้เครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ 1 เครื่อง ผันน้ำจากลำน้ำยามลงไปสู่หนอง โดยใช้ท่อยางยางขนาดใหญ่ เริ่มใช้งานเมื่อวันที่ 8 และวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2561 ดำเนินการได้ 2 วันก็หยุดเดินเครื่องอีกรอบ เพราะไม่มีน้ำมันเชื้อเพลิง ขณะที่ผู้รับเหมาช่วยน้ำเชื้อเพลิงรอบแรกเพียง 120 ลิตร เท่านั้น ซึ่งทราบว่ามีการตกลงระหว่างกรมทรัพยากรน้ำ ภาค 3 อุดรธานี จะสนับสนุนช่วยเหลือเฉพาะเครื่อง ส่วนน้ำมันเชื้อเพลิงผู้รับเหมาจะต้องรับผิดชอบ เมื่อเป็นเช่นนั้นชาวบ้านที่ทำนาปรังต่างลงทุนและช่วยเหลือกันเอง จนทุกคนทนไม่ไหวที่จะต้องแบกรับภาระอีกต่อไป จึงขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือผู้รับเหมา ได้จ่ายค่าน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อใช้ในการปั้นเครื่องยนต์ผันน้ำจากลำน้ำยามสู่หนอง เพื่อช่วยเหลือผู้ทำนาปลูกข้าวอยู่รอดต่อไปได้ ขณะนี้พบว่าบางเจ้าพื้นที่อยู่ห่างไกลท่อระบายน้ำไปไม่ถึง จึงจำเป็นต้องปล่อยทิ้งให้เสียไป และยังบอกต่อด้วยว่า ระยะเวลายังเหลืออีกประมาณเดือนกว่าหรือประมาณกลางเดือนเมษายนถึงจะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ หากยังไม่ได้รับการช่วยเหลือเบื้องต้นตอนนี้ เชื่อว่านาข้าวที่ปลูกและกำลังเจริญเติบโตงอกงามเสียหายตายหมดเกลี้ยง

ไมตรี  แก้วบุญมี   สำนักข่าวทีนิวส์   จ.สกลนคร