ชี้ช่องทางรวย..!! เกษตรกรชาวไร่ คิดค้นนำเอาตออ้อยที่ไม่ค่อยสมบูรณ์ มาทำเป็นน้ำอ้อยก้อนปรุงรสขาย สร้างรายได้งามเดือนละกว่าแสนบาท (ชมคลิป)

ที่บ้านหนองโน ม.6 ต.ชมสะอาด อ.เมยวดี จ.ร้อยเอ็ด เกษตรกรชาวไร่ ได้นำลำอ้อยตอสอง ตอสาม  ซึ่งได้ปลูกผ่านมาแล้วสอง-สามปีที่ไม่คอยงาม และลำต้นอ้อยไม่สมบูรณ์เท่าที่ควร  ซึ่งขายไม่ได้ราคาด้วย เมื่อถึงฤดูเปิดหีบอ้อยในช่วงเดือน ธ.ค-มี.ค. ได้พากันนำเอามาแปรรูป  โดยบีบคั้นเอาน้ำ แล้วนำไปเคี่ยวต้มปรุงรสด้วยงาและกากมะพร้าว จากนั้นก็ปล่อยให้เย็นแล้วเทลงบล็อก ไม้กระดาน ทำเป็นน้ำอ้อยก้อนขายเป็นอาชีพเสริม หลังเก็บเกี่ยวข้าว ทำรายได้งามเดือนละกว่าแสนบาท

โดยเกษตรกรรายนี้คือ นางยุพิน วงค์สุโท อายุ 61 ปี ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน เลขที่ 74 ม.7 ต.จุมจัง อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ พร้อม ลูกๆ ได้มาปลูกกระต๊อบในกลางท้องไร่ท้องนา ซึ่งไร่และนาอยู่ในเขตรอยต่อระหว่าง อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ กับ อ.เมยวดี จ.ร้อยเอ็ด ส่วนไร่อ้อยกับกระต๊อบ นาอยู่ในท้องที่เขต บ้านหนองโน ม.6 ต.ชมสะอาด อ.เมยวดี จ.ร้อยเอ็ด โดยกระต๊อบอยู่ห่างจากชุมชนประมาณ 1 กม. ซึ่งสะดวกสบายดีไม้ต้องกลับไปนอนที่บ้าน โดยตื่นเช้ามาก็ทำน้ำอ้อยก้อนโบราณขายได้เลย โดยมีลูกเขย ลูกสาวและน้องชาย เป็นลูกมือ 

ซึ่งนางยุพิน วงค์สุโท ได้เล่าให้ฟังว่า วันหนึ่งสามารถผลิตได้ 4 กะทอๆละ 24 กก. โดยมีลูกค้าขาประจำมารับถึงที่ กะทอละ 1,000 บาท คิดเป็นเงินวันละ 4,000 บาท ซึ่งอาชีพทำน้ำอ้อยก้อนได้ทำสืบทอดต่อกันมาตั้งแต่สมัยคุณพ่อ คุณแม่แล้ว ซึ่งช่วงนี้น้ำอ้อยก้อนไม่พอขาย เพราะเป็นเทศกาลข้าวจี่ของชาวอีสานดังคำพญาโบราณพรรณาไว้ดังนี้

“เดือนสามค้อย  เจ้าหัวคอยปั้นข้าวจี่ ข้าวจี่บ่ใส่น้ำอ้อย  จัวน้อยเช็ดน้ำตา”

จากนั้น นางยุพิน วงค์สุโท และลูกสาว ก็ได้อธิบายถึงขั้นตอนการผลิต และ เทคนิคทำให้น้ำอ้อยก้อนที่แสนอร่อย ให้ได้ทราบอีกด้วย โดยขั้นตอนก็คือ การเลือกเอาต้นอ้อยจากไร่จำนวน 10 ต้น ซึ่งเท่ากับ1 มัด อ้อยลำต้องสด และยอดไม่ตาย หากยอดตายจะทำให้น้ำอ้อยมีรสเปรี้ยวไม่หวาน จากนั้นก็นำลำอ้อยที่เลือกมาเข้าหีบหรืออิ้ว เพื่อบีบเอาน้ำ แต่ก่อนใช้มือ ทุกวันนี้ได้ประยุกต์มาเป็นใช้แรงจากเครื่องรถไถนาเดินตามแทน ซึ่งอ้อย 10 ลำจะได้น้ำอ้อย 4 ลิตร ต่อจากนั้นให้กรองน้ำอ้อยที่ได้มาต้ม  เคี่ยวในเตาไฟเดือดๆประมาณ 1-2 ช.ม. ซึ่งน้ำอ้อยจะเริ่มเข้มข้น หลังจากนั้นให้ตักน้ำอ้อยที่ได้ต้มจนเข้มข้น มาปรุงรสด้วยงา และขูดเอาเนื้อมะพร้าวมาโรยเพื่อเพิ่มความหอมอร่อย และขั้นตอนสุดท้าย ให้นำน้ำอ้อยที่ได้ปรุงผสมงาเรียบร้อย มาเทลงในพิมพ์หรือบล็อก  โดยใช้เกรียงไม้ปาดให้เรียบ รอให้เย็นลง แล้วก็เทลงเป็นก้อน บรรจุลงในกระทอเป็นเสร็จ พร้อมจำหน่ายให้ลูกค้าต่อไป ซึ่งสามารถทำรายได้งามเดือนละกว่าแสนบาท

ภาพ / ข่าว สุเทพ ลอยแก้ว ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์  จ.ร้อยเอ็ด
เรียบเรียงโดย / ชูชัย ดำรงสันติสุข สำนักข่าวทีนิวส์