ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://www.partiharn.com

อัศจรรย์ยิ่ง!! เมื่อ "หลวงปู่ขวัญ" พบ "ดวงพระวิญญาณพระเจ้าเสือ" บอกปริศนา "ควายสองตัวหันหัวชนกัน" ที่ซ่อนสมบัติของพระองค์ให้เป็นทุนสร้างพระ

               หลวงพ่อขวัญ หรือ พระครูพิมลธรรมานุศิษฐ์ อุปสมบทเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๗๐ เดือน ๔ แรม ๘ ค่ำ ที่วัดบ้านนา หลวงพ่อขวัญ เคยเป็นศิษย์ของหลวงพ่อเงิน พุทธโชติ พระเกจิชื่อดังระดับประเทศแห่งวัดบางพาน อ.โพทะเล และหลวงพ่อขวัญ ยังได้รับการยอมรับจากครูบาเจ้าศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา ว่าเป็นพระที่มีพุทธานุภาพและอาคมแรงกล้า ท่านเป็นพระนักพัฒนาและพระนักก่อสร้าง ท่านให้ความช่วยเหลือสังคมโดยการบริจาคทรัพย์ในการก่อสร้างที่ศาสนสถาน สถานศึกษา โรงพยาบาล และหน่วยงานทางราชการต่าง ๆ โดยท่านได้สร้างวัตถุมงคลให้ไว้เป็นที่ระลึกแก่ผู้ร่วมบริจาคสมทบ ได้แก่ พระสมเด็จเพชรหลีก , ตะกรุด และที่นิยมโดยทั่วไป ได้แก่ แหวนพระพิรอด แต่คนส่วนมากมักจะเรียกว่า แหวานตะกร้อ ท่านละสังขารเมื่อวันที่ ๑๙ ธันวาคม ๒๕๔๘ รวมสิริอายุได้ ๙๗ ปี

อัศจรรย์ยิ่ง!! เมื่อ "หลวงปู่ขวัญ" พบ "ดวงพระวิญญาณพระเจ้าเสือ" บอกปริศนา "ควายสองตัวหันหัวชนกัน" ที่ซ่อนสมบัติของพระองค์ให้เป็นทุนสร้างพระ

                 สำหรับปาฏิหาริย์ที่หลวงปู่ขวัญพบดวงพระวิญญาณพระเจ้าเสือ ถูกถ่ายทอดโดย พระอริญฺชโยภิกขุ วัดโพธิ์ประทับช้าง ท่านได้เล่าว่า เรื่องราวนี้เกิดขึ้น เมื่อประมาณ ปี พ.ศ.๒๕๑๗ มีชายคนหนึ่ง ได้ลายแทงสมบัติมาจากอยุธยา ซึ่งในลายแทงก็ได้บอกว่า สมบัติของสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ ๘ ซ่อนอยู่ในบริเวรวัดโพธิ์ประทับช้าง เขาก็เลยขึ้นไปหา แต่ในขณะขุดๆ ค้นๆ อยู่นั้น เขาก็เกิดอาการตัวบวมและปวดท้อง แบบไม่ทราบสาเหตุ พวกลูกหาบเห็นดังนั้น ก็ได้หามไปหาหลวงปู่ขวัญ ที่วัดบ้านไร่

                 ขณะที่หลวงปู่กำลังทำน้ำมนต์ รดอยู่ ก็ปรากฏว่า ชายคนที่ถูกหามไป ได้ลุกขึ้นแล้วพูดว่า

"พระคุณเจ้า ไอ้นี่มันเป็นคนเลว คิดจะเอาสมบัติแผ่นดิน กระผมได้รับคำสั่งให้ลงโทษมัน"

หลวงปู่จึงถามว่า

"โยมเป็นใครล่ะ"

ชายคนนั้นตอบว่า

"กระผมเป็นภูติเฝ้าสมบัตินั้นอยู่ขอรับ"

หลวงปู่จึงถามว่า

"โยม อาตมาต้องการช่วยเขา มีวิธีไหม"

ชายที่ถูกสิงพูดว่า

"ท่านต้องไปขอจากสมเด็จพระเจ้าเสือขอรับ" 

หลวงปู่ท่านถามว่า

"แล้วทำไงล่ะ" 

ชายคนนั้นตอบว่า

"นิมนต์พระคุณเจ้า เอาเจ้านี่ไปวัดโพธิ์ประทับช้าง คืนนี้ ก่อนสองยามกระผม จะไปทูลพระเจ้าเสือ ท่านต้องออกมาพบพระคุณเจ้าแน่ขอรับ"

 

อัศจรรย์ยิ่ง!! เมื่อ "หลวงปู่ขวัญ" พบ "ดวงพระวิญญาณพระเจ้าเสือ" บอกปริศนา "ควายสองตัวหันหัวชนกัน" ที่ซ่อนสมบัติของพระองค์ให้เป็นทุนสร้างพระ

              หลวงปู่ก็ตกลง และ ก็ให้ลูกหาบ หามชายหาสมบัติไป รอที่วัดโพธิ์ประทับช้าง ส่วนวันนั้น ทั้งวัน หลวงปู่ขวัญ ก็นั่งกรรมฐานโดยไม่ออกมาพบปะผู้คนเลย จวนได้เวลาโพล้เพล้ จึงได้ออกจากกุฎิ เดินทางไปที่วัดโพธิ์ประทับช้าง พอสักประมาณสองยาม หลวงปู่ก็นั่งแผ่เมตตาว่า พุทโธ กรรมฐาโม กรรมจุติ สัมพุทโธ พลันก็เกิดลมพัดใหญ่ สักพักก็พบชายร่างกายกำยำ สวมเสื่อผ้าเป็นไหมปักดิ้นทอง เดินมายกมือก้มกราบ

 

อัศจรรย์ยิ่ง!! เมื่อ "หลวงปู่ขวัญ" พบ "ดวงพระวิญญาณพระเจ้าเสือ" บอกปริศนา "ควายสองตัวหันหัวชนกัน" ที่ซ่อนสมบัติของพระองค์ให้เป็นทุนสร้างพระ

"กระผมชื่อนายเดื่อ ผู้เป็นเจ้าของสมบัติ"

              หลวงปู่ขวัญท่านรู้แล้วว่า ผู้ที่มาอยู่ต่อหน้า ท่านเป็น "พระพุทธเจ้าเสือ" ท่านจึงได้เอ่ยปาก บิณฑบาตขอชีวีตคนหาสมบัติไว้ พระพุทธเจ้าเสือก็ไม่ว่าอะไร ให้ตามที่ขอ แต่ให้หลวงปู่บอกคนหาสมบัติว่า "ให้สร้างพระพุทธรูปอุทิศกุศลให้ เพราะปัจจุบัน เป็นเพียงภุมเทวดาอยู่" หลวงปู่ก็รับปาก

พระเจ้าเสือ ตรัสว่า

"งั้นโยมจะเอาสมบัติให้มันไป เพื่อเป็นทุนสร้างพระ อุทิศให้โยม แต่พระคุณเจ้า จะต้องทายปริศนาก่อนว่าสมบัติโยมอยู่ที่ไหน" 

หลวงปู่ขวัญก็ถามกลับ

"ก็แล้วสมบัติมหาบพิตรอยู่ที่ใดเล่า" 

พระเจ้าเสือตรัสว่า

"สมบัติโยมอยู่ที่ ควายสองตัว หันหัวชนกันล่ะขอรับ"

หลวงปู่ขวัญจึงตอบว่า

"อาตมาภาพรู้แล้ว สมบัติอยู่ที่ ต้นมะขวิดสองต้น ที่หันหน้าชนกัน หน้าพระอุโบสถ นี่เอง"

พระเจ้าเสือ จึงตรัสว่า

"ใช่ขอรับ แล้วยกมือไหว้หลวงปู่ ว่ากระผมขอลาไปก่อนและอย่าลืมบอกให้เจ้านั่นจัดการให้กระผมด้วยขอรับพระคุณเจ้า"

อัศจรรย์ยิ่ง!! เมื่อ "หลวงปู่ขวัญ" พบ "ดวงพระวิญญาณพระเจ้าเสือ" บอกปริศนา "ควายสองตัวหันหัวชนกัน" ที่ซ่อนสมบัติของพระองค์ให้เป็นทุนสร้างพระ

            แล้วพระวิญญาณก็หายไป ชายคนนั้นก็หายจากอาการตัวบวม และเมื่อขุดที่ตรงระหว่างต้นมะขวิดหันหน้าชนกัน ก็พบทองคำเท่าลูกบวบ แล้วก็กระโถน ข้างในมีเศษรกแห้ง หลวงปู่ท่านจึงให้ชายคนนั้น เอาทองลูกบวบไปขาย เอาเงินไปสร้างพระถวายพระเจ้าเสือ ที่อยุธยา ส่วนกระโถนใบนั้น หลวงปู่ท่านได้มอบให้นายอำเภอ เพราะเป็นที่ใส่รกของพระเจ้าเสือเมื่อพระองค์ประสูติ

            

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.baanjompra.com

                           ร้อยเรื่องราว ไปกับ เจ้าประคุณปราบสุราพินาศ