- 27 ก.พ. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
เมษาฯนี้จะร้อนจนลุกเป็นไฟแค่ไหน รัฐจ่อเปิดประมูลอภิมหาโครงการรถไฟเร็วสูง จะส่งกลิ่นโชยหรือไม่..????
ไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมเปิดเผยว่า โครงการรถไฟความเร็วสูง เชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ระยะทาง 220 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 200,000 ล้านบาท ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างจัดทำเงื่อนไขทีโออาร์ เพื่อทำการเปิดประมูลแบบอินเตอร์บิดให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนในโครงการ จะจัดทำทีโออาร์แล้วเสร็จในเดือนมี.ค. เปิดประมูลได้ในเดือนเมษายนนี้ คาดได้ตัวผู้ชนะการประมูลในเดือนสิงหาคม โดยตั้งเป้าที่จะนำเสนอให้คณะรัฐมนตรี(ครม.)อนุมัติก่อนสิ้นปีนี้แน่นอน
โดย ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีระบุว่าขณะนี้มีเอกชนหลายรายสนใจเข้าร่วมลงทุนในโครงการดังกล่าว
โดยวานนี้ 27/2/61 ที่ทำเนียบรัฐบาล อุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม ไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมช.คมนามคม กอบศักดิ์ ภูตระกูล รมต.ประจำสำนักนายกฯ คณิต แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก แถลงผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ครั้งที่ 2/2561 โดยมี ท่านนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน
โดยสรุปสาระสำคัญของการประชุมว่า ที่ประชุมรับทราบความคืบหน้าร่างพระราชบัญญัติเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ขณะนี้ได้ผ่านการเห็นชอบของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และอยู่ระหว่างการนำขึ้นทูลเกล้าฯ
นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้เห็นชอบหลักการให้สำนักงานเพื่อการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (สกรศ.) ไปศึกษาการ ขยายพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษในพื้นที่เชื่อมโยงกับ 3 จังหวัดเดิม โดยให้นำเสนอเข้าที่ประชุมในภายหลังจากที่พระราชบัญญัติมีผลใช้บังคับแล้ว โดยให้ไปศึกษาจังหวัดใกล้เคียงพื้นที่อีอีซี อาทิ สมุทรปราการ ปราจีนบุรี สระแก้ว จันทบุรี และตราด ว่าจังหวัดใดมีความพร้อมที่จะเข้ามาอยู่ในอีอีซีบ้างโดยให้ระยะเวลาในการศึกษา 3 เดือน
“ประเด็นสำคัญที่สุดในวันนี้คือที่ประชุมอนุมัติโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ประกอบด้วย ดอนเมือง สุวรรณภูมิ และ อู่ตะเภา ซึ่งเป็น 1 ใน 5 โครงการเร่งด่วนด้านโครงสร้างพื้นฐานที่มีผลต่อความสำเร็จของอีอีซี ทั้งนี้โครงการนี้พัฒนามาจากโครงการรถไฟความเร็วสูงสายตะวันออก (ลาดกระบัง-ระยอง) ที่เป็นโครงการเดิม โดยได้ปรับปรุงหลักการให้เข้าเชื่อม 3 สนามบินอย่างไร้รอยต่อ อันจะเกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศและประชาชนในอนาคต” รมว.อุตสาหกรรมกล่าว
คณิตกล่าวว่า ในส่วนรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินจะมีความเร็วอยู่ที่ 250 กม.ต่อชั่วโมง โดยเบื้องต้นจะใช้เส้นทางรถไฟในเมืองของแอร์พอร์ตลิงก์ต่อขยายจากดอนเมือง บางซื่อ มา มะกะสัน ไปสุวรรณภูมิ จากนั้นจะมีสถานีรถไฟเชื่อมระหว่างกรุงเทพกับฉะเชิงเทรา ชลบุรี และ ระยอง อีก 5 สถานี คือ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ศรีราชา พัทยา และสิ้นสุดที่อู่ตะเภาในระยะแรก โดยราคาค่าโดยสารเบื้องต้นจากสถานีมะกะสันไปพัทยาราคาอยู่ที่ 270 บาท สถานีมะกะสันไปอู่ตะเภา 330 บาท ขณะที่การลงทุนจะใช้รูปแบบรัฐบาลลงทุนร่วมกับเอกชน (PPP) คือ ภาคเอกชนจะเป็นผู้รับความเสี่ยงในเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนและความล่าช้าของโครงการหากเสร็จล่าช้ากว่ากำหนด ทั้งนี้มูลค่าในการลงทุนโครงการอยู่ที่ 2 แสนล้านบาท มีอายุ 50 ปี เมื่อครอบ 50 ปี รัฐบาลจะเป็นเจ้าของทรัพย์สินทั้งหมด รวมทั้งรถไฟ สถานี และ อสังหาริมทรัพย์ทั้งหมด
“ เบื้องต้นมีการวิเคราะห์ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจตลอดทั้งโครงการคาดว่าอยู่ที่ 7 แสนล้านบาท โดย 50 ปีแรกมีมูลค่าทางเศรษฐกิจ 4 แสนล้านบาท จากนั้นเป็นต้นไปคาดมีมูลค่าทางเศรษฐกิจราว 3 แสนล้านบาทเป็นอย่างน้อย โดยโครงการรถไฟเชื่อม 3 สนามบินกำหนดแล้วเสร็จในปี 2566 ” เลขาฯคณะกรรมการอีอีซีกล่าว
โดยในเดือนมีนาคมจะมีการประกาศทีโออาร์โดยจะมีการเชิญทูตจากทั่วโลกและนักลงทุนที่สนใจเข้าร่วมฟัง ซึ่งตอนนี้มีนักลงทุนจากยุโรป จีน ญี่ปุ่น เกาหลี และหลายประเทศสนใจ จากนั้นจะให้เวลาบริษัทที่สนใจยื่นประมูล 4 เดือนในการนำเสนอรายงานการก่อสร้าง คาดว่าภายปลายไตรมาส 3 น่าจะประมูลแล้วเสร็จ จากนั้นในช่วงกลางปีถึงไตรมาส 3 ก็จะทยอยประกาศทีโออาร์โครงการสำคัญๆที่เหลือในอีอีซี ประกอบด้วย ศูนย์ซ่อมสร้างอากาศยาน สนามบินอู่ตะเภา ท่าเรือมาบตาพุด ท่าเรือแหลมฉบัง ทั้งนี้ตั้งเป้าว่าจะประมูลให้จบและลงนามเซ็นสัญญาทุกโครงการให้ได้ภายในปีนี้