ติดตามเรื่องราวดีๆอีกมากมายได้ที่ https://www.facebook.com/partiharn99/

เรื่องเล่าในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระราชินี ที่มีต่อพระสหายร่วมรุ่น ตลอดจนเหล่าพสกนิกร ทั่วฟ้าเมืองไทย ดังเรื่องที่  ผศ.นพ.ภากร จันทนมัฎฐะ ได้เล่าไว้

-พระราชินีจะใช้หนี้ให้-

ผศ.นพ.ภากร จันทนมัฎฐะ แพทย์ติดตามเสด็จ เล่าว่า ครั้งหนึ่งข้าพเจ้านั่งใกล้พระองค์ท่านจนได้ยินการสนทนา และทราบว่า หญิงชาวบ้านผู้มาเข้าเฝ้าฯ นั้นมีความทุกข์เรื่องหนี้สิน สามีของเธอจากเธอไป และทิ้งเธอให้เผชิญหนี้สินตามลำพัง พร้อมด้วยลูกเล็ก ๆ อีก 2 คน ข้าพเจ้ามองเห็นว่า ความทุกข์ยากแห่งชีวิต ได้ฝากริ้วรอยไว้บนใบหน้าของเธอแววตามีแต่ความสิ้นหวัง ลูก ๆ ปราศจากความเบิกบานอย่างที่เด็ก ๆ ควรจะมี

พระราชินี ทรงรับสั่งถามหญิงชาวบ้านคนดังกล่าวว่า “เป็นหนี้เท่าไร” เธอผู้นั้นไม่ยอมตอบเพียงแต่ทูลว่า หนี้นั้นมากมายเหลือเกิน และข้าพเจ้าได้ยินสมเด็จพระราชินี รับสั่งว่า “ไปบอกเจ้าหนี้นะคะ ว่าพระราชินีจะใช้หนี้ให้”

"บอกเจ้าหนี้นะคะ พระราชินีจะใช้หนี้ให้" ทรงพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์บ่อยครั้ง เพื่อช่วยพสกนิกร และทรงมีน้ำพระทัยต่อเหล่าพระสหายเสมอมา !!!

ข้าพเจ้าถึงกับน้ำตาไหลโดยไม่รู้ตัว ผู้สูงศักดิ์ที่สุดของแผ่นดิน ประทับอยู่ท่ามกลางชาวบ้านยากไร้ ทรงมอบความรัก ความช่วยเหลือให้…เด็ก ๆ จะได้รับขนมแจก, ผู้ป่วยจะมีแพทย์ดูแล, ผู้สูงอายุจะได้รับแว่นสายตา, ผู้ยากไร้จะได้รับพระราชทานความช่วยเหลือเรื่องทุนรอน…ไม่มีผู้ใดที่ไม่ได้รับความช่วยเหลือ ข้าพเจ้าเคยสงสัยว่า ต้องใช้พระราชทรัพย์มากเพียงใด เพราะทุกครั้งที่ราษฎรนำผลผลิตของตนมา ก็ได้รับคำตอบว่า “พระราชินีรับซื้อทั้งหมดค่ะ”

ข้าพเจ้าพบว่า พระองค์ต้องใช้พระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ และเงินที่มีผู้ทูลเกล้าฯ ถวายเข้ามูลนิธิศิลปาชีพหลายล้านบาทต่อวัน ช่วยเหลือผู้คนที่สังคมส่วนใหญ่พากันลืมเลือน ผู้คนที่ไม่มีโอกาส ข้าพเจ้าเชื่อว่า ในสายพระเนตรของพระองค์ ผู้ที่ยากไร้ก็เป็นคนไทยที่พระองค์ทรงรัก ข้าพเจ้าเสียดายที่หลายครั้ง โทรทัศน์ไม่อาจถ่ายทอดความรัก ความเอื้ออาทรของพระองค์ได้

"บอกเจ้าหนี้นะคะ พระราชินีจะใช้หนี้ให้" ทรงพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์บ่อยครั้ง เพื่อช่วยพสกนิกร และทรงมีน้ำพระทัยต่อเหล่าพระสหายเสมอมา !!!

นอกจากนั้น ยังมีเรื่องราวที่บอกเล่าโดย “ลัดดาซุบซิบ” ได้บันทึกไว้ในหนังสือ “ใกล้เบื้องพระยุคลบาท” เล่าเรื่องโดยใช้ชื่อตอนว่า “สมเด็จทรงมีเมตตาต่อพระสหายร่วมรุ่น” ดังนี้

สิ่งหนึ่งที่พระสหายร่วมรุ่นที่มีจำนวนทั้งสิ้น ๓๗ คน ซาบซึ้งกันเป็นอันมากก็คือ น้ำพระทัยเผื่อแผ่ไปถึงเพื่อนๆ จำเพื่อนทุกคนได้จนถึงวันนี้ ทรงถามทุกข์สุขเพื่อนตลอด มีเพื่อนคนหนึ่งเข้าเฝ้าดูหน้าตาเขาซีดๆ ท่านก็รับสั่งว่าเป็นอะไร เมื่อทรงทราบว่าไม่สบาย วันต่อมาทรงให้ ท่านผู้หญิงกรัณย์ สนิทวงศ์ มาติดต่อเพื่อนฝูง ถามว่าบ้านเขาอยู่ไหนแล้วท่านก็ทรงเลี้ยงดูให้เงินเดือนเขามาจนถึงทุกวันนี้ อย่าง มาเซอร์ แอสเตอร์ ท่านพระราชทานเงินให้เดือนละ ๕,๐๐๐ บาท เพราะทราบว่าเป็นเบาหวาน ต้องตัดขา และทรงรับไว้อยู่ในพระราชานุเคราะห์ ให้คุณข้าหลวงในวังไปเยี่ยมเสมอ หลัง มาเซอร์ แอสเตอร์ สิ้น มาเซอร์ เรอเน่ ชรามาก ท่านได้พระราชทานเงินให้เดือนละ ๕,๐๐๐ บาทเหมือนกัน มีเพื่อนคนหนึ่งก่อนนี้ได้รับเดือนละ ๓,๐๐๐ บาท ปีที่แล้วทรงขึ้นให้เป็น ๕,๐๐๐ บาท

อย่างเพื่อนอีกคนมีปัญหาท่านก็พระราชทานเงินให้ ๔,๐๐๐ บาท หรืออย่างไฟไหม้บ้านท่านก็ให้เงินปลูกบ้าน ไม่เคยมีใครไปขอ ท่านเลย ท่านห่วงใย ทรงมีน้ำใจด้วยพระองค์เอง น้ำพระทัยนี้พระ สหายร่วมรุ่นอีกคน ที่หากยังมีชีวิตอยู่จะบอกได้ดีคือ คุณบรรจง  ธันวานนท์ เมื่อทรงทราบว่า คุณบรรจง ล้มป่วย ทรงห่วงใยพระราช ทานความเมตตามากมาย ทรงบันทึกเทปธรรมะด้วยพระสุรเสียงพระ ราชทานแก่คุณบรรจง ซึ่งเธอก็ได้เปิดฟังอยู่ข้างหมอนจนหมดวาระสุดท้าย

"บอกเจ้าหนี้นะคะ พระราชินีจะใช้หนี้ให้" ทรงพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์บ่อยครั้ง เพื่อช่วยพสกนิกร และทรงมีน้ำพระทัยต่อเหล่าพระสหายเสมอมา !!!

ที่มา : หนังสือเย็นศิระเพราะพระบริบาล ลัดดาซุบซิบ