วัดแห่งนี้แหละ เป็นวัดเดียวที่ไม่มีใครกล้าเข้าไป แม้แต่พระที่เข้ามา ก็ไม่มีพระรูปไหนสามารถอยู่ได้ !!

วัดแห่งนี้แหละ เป็นวัดเดียวที่ไม่มีใครกล้าเข้าไป แม้แต่พระที่เข้ามา ก็ไม่มีพระรูปไหนสามารถอยู่ได้ !!

 สำนักสงฆ์ร้างแห่งนี้  อยู่ที่  อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา เจ้าอาวาสวัดเล่าว่า พื้นที่บริเวณนี้เป็นมรดกตกทอดจากบิดาของพระอาจารย์ซ่วน ปัญญาธโล อดีตเจ้าอาวาสวัดท่าลาดใต้ พระเกจิดังเรื่องปลัดขิกเมื่อหลายสิบปีก่อน แต่เนื่องจากท่านเป็นพระที่มุ่งปฏิบัติสมาธิภาวนา "กสิญสิบ" สื่อสารกับดวงวิญญาณ-ภูตผี จนทำให้ไม่มีเวลาปฏิบัติกิจของสงฆ์ จึงลาสิกขาบท ออกมาตั้งสำนักสงฆ์แห่งนี้ จากนั้นมาพระอาจารย์ซ่วนก็มุ่งมั่นปั้นรูปปั้นต่างๆขึ้น เช่น กุมารทอง, นางกวัก, ตุ๊กตาเด็ก

วัดแห่งนี้แหละ เป็นวัดเดียวที่ไม่มีใครกล้าเข้าไป แม้แต่พระที่เข้ามา ก็ไม่มีพระรูปไหนสามารถอยู่ได้ !!

วัดแห่งนี้แหละ เป็นวัดเดียวที่ไม่มีใครกล้าเข้าไป แม้แต่พระที่เข้ามา ก็ไม่มีพระรูปไหนสามารถอยู่ได้ !!

วัดแห่งนี้แหละ เป็นวัดเดียวที่ไม่มีใครกล้าเข้าไป แม้แต่พระที่เข้ามา ก็ไม่มีพระรูปไหนสามารถอยู่ได้ !!

วัดแห่งนี้แหละ เป็นวัดเดียวที่ไม่มีใครกล้าเข้าไป แม้แต่พระที่เข้ามา ก็ไม่มีพระรูปไหนสามารถอยู่ได้ !!

รูปปั้นนับร้อยที่พระอาจารย์ซ่วนได้ปั้นขึ้น จะมีการลงอักขระอาคมไว้ทั้งหมด บางตัวมีส่วนผสมของชิ้นส่วนคนตาย โดยเฉพาะผิวหนังของร่างคนตายที่สักยันต์ แต่เผาไม่ไหม้ จะถูกนำมาเป็นมวลสารในการปั้น และทุกตัวจะมีช่องสำหรับนำอัฐิคนตายบรรจุไว้ด้านใน หากญาติผู้เสียชีวิตแจ้งความประสงค์อยากให้วิญญาณสถิตอยู่ในรูปปั้นเหล่านี้ พระอาจารย์ซ่วนก็จะประกอบพิธีบรรจุอัฐิให้

วัดแห่งนี้แหละ เป็นวัดเดียวที่ไม่มีใครกล้าเข้าไป แม้แต่พระที่เข้ามา ก็ไม่มีพระรูปไหนสามารถอยู่ได้ !!

วัดแห่งนี้แหละ เป็นวัดเดียวที่ไม่มีใครกล้าเข้าไป แม้แต่พระที่เข้ามา ก็ไม่มีพระรูปไหนสามารถอยู่ได้ !!

วัดแห่งนี้แหละ เป็นวัดเดียวที่ไม่มีใครกล้าเข้าไป แม้แต่พระที่เข้ามา ก็ไม่มีพระรูปไหนสามารถอยู่ได้ !!

วัดแห่งนี้แหละ เป็นวัดเดียวที่ไม่มีใครกล้าเข้าไป แม้แต่พระที่เข้ามา ก็ไม่มีพระรูปไหนสามารถอยู่ได้ !!

 

กระทั่งปี 2536 พระอาจารย์ซ่วนมรณภาพลง ตั้งแต่นั้น สถานปฏิบัติธรรมแห่งนี้ก็ไร้พระสงฆ์เข้ามาจำวัด หลายครั้งที่ทางวัดให้พระสงฆ์เข้ามาฟื้นฟูสถานที่ แต่ไม่เคยมีพระรูปไหนอยู่ได้ อ้างพบเห็นสิ่งที่ชวนพิศวง ทั้งงูยักษ์เลื้อยผ่าน ได้ยินเสียงดังแปลกๆ คล้ายเสียงคนพูดคุยกัน จนสุดท้ายจำเป็นต้องปล่อยให้ทิ้งร้าง

แต่ก็มักมีคนแอบเข้ามาในสถานปฏิบัติธรรมแห่งนี้ เพราะทั้งรูปปั้นและปลัดขิกขนาดใหญ่ ต่างเป็นที่จับจ้องของกลุ่มคนบูชาเครื่องรางของขลัง เคยถึงขั้นมีคนลอบนำรถเครนเข้ามา หวังยกปลัดขิกนำกลับไปบูชา แต่ก็ไม่สำเร็จ ยกเท่าไหร่ก็ยกไม่ขึ้น แม้จะใช้คนนับ 10 ชีวิต ที่สุดก็ต้องถอยกลับไป

 

วัดแห่งนี้แหละ เป็นวัดเดียวที่ไม่มีใครกล้าเข้าไป แม้แต่พระที่เข้ามา ก็ไม่มีพระรูปไหนสามารถอยู่ได้ !!

วัดแห่งนี้แหละ เป็นวัดเดียวที่ไม่มีใครกล้าเข้าไป แม้แต่พระที่เข้ามา ก็ไม่มีพระรูปไหนสามารถอยู่ได้ !!


ขอบคุณภาพ : อุทยานหุ่นปั้น สำนักสงฆ์ร้างอาจารย์ซ่วน