"ณัฐวุฒิ"โต้กลับ"นิพิฏฐ์"อิงเผด็จการ เรียก"บัวเต่าคาย" เต่าปลาที่ไหนก็กินไม่ลง

9 มี.ค 61 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โต้กลับกรณีที่นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า นายณัฐวุฒิ แยกไม่ออกระหว่าง"เผด็จการ-ประชาธิปไตย" เปรียบเหมือน "บัวใต้น้ำ" ว่า....
 

"เพิ่งเห็นข่าว นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ เขียนถึง...

ท่านนี้หรือชื่อนิพิฏฐ์ เคยผิดหวังเขาไม่ตั้งเป็นรัฐมนตรี ประกาศใช้หนี้นายทุนแทนพรรคเดือนละ 500 บาท นาน 100,000 ปี เอาเถิดเราจะเจรจาด้วย

นิพิฏฐ์บอกว่าเผด็จการมีทั้งในและนอกสภา แล้วยกตัวอย่างว่าฮิตเลอร์มาจากการเลือกตั้ง ขี้เกียจโต้แย้งประเด็นนี้เดี๋ยวยาว เอาเป็นว่าหาเวลาอ่านหนังสือเรื่อง “ในสาธารณรัฐไวมาร์ฮิตเลอร์ ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง” แล้วตั้งสติดีๆ ดูสิว่าเส้นทางสู่อำนาจของจอมเผด็จการคนนี้คืออะไรกันแน่

ส่วนวาทกรรม เผด็จการเสียงข้างมาก เผด็จการรัฐสภา ซึ่งนิพิฏฐ์และพวกใช้กันมากช่วง 10 ปีมานี้ผมไม่เคยยอมรับ เผด็จการเสียงข้างมากมีที่ไหน แล้วเผด็จการประสาอะไรโดนเสียงข้างน้อยสมคบอำนาจนอกระบบล้มได้ทุกที ที่ชี้ว่าเข้าไปติดคุกกันมากก็เพราะไม่ใช่เผด็จการไงเล่า ลองยกตัวอย่างหน่อยสิว่าเผด็จการแท้ๆในประเทศไทย ใครติดคุกบ้าง ? 

อย่าหลับหูหลับตาชี้ทักษิณ ยิ่งลักษณ์ เข้าล่ะ (รู้ทัน) อันนั้นทั่วโลกเขาเรียกเหยื่อเผด็จการ เลยเปิดบ้านต้อนรับทั้ง 2 คนอย่างที่เห็นไง 

อุดมการณ์พรรคประชาธิปัตย์ว่ายังไงผมไม่รู้ แต่ถ้ามีพรรคไหนบอยคอตเลือกตั้ง 2 ครั้ง เป็นสะพานให้เกิดรัฐประหาร 2 หน ตั้งรัฐบาลในค่ายทหารก็เอา ทั้งหมดเกิดขึ้นในเวลาไม่ถึง 10 ปี จะมาพูดเรื่องอุดมการณ์ผมคงฟังไม่เข้าใจ และถ้าใครมาบอกว่าดีไม่ดีจะยกมือให้เผด็จการสืบทอดอำนาจด้วย ผมพร้อมจะเชื่อ 

ที่แนะนำให้ผมไปหาหัวหน้าพรรคให้ได้ก่อน คงหมายถึงพรรคเพื่อไทย ผมไม่รู้ว่าเขาจะประกาศเป็นใคร เมื่อไหร่ แต่คิดว่าไม่ต้องรีบ เพราะตั้งแต่ปี 2544 เอาใครมาก็ชนะหัวหน้านิพิฏฐ์ทุกที 

ผมชัดเจนมาตลอดว่าอย่างไหนคือประชาธิปไตย อย่างไหนคือเผด็จการ ปัญหาคือบางพวกแยกไม่ออก แถมไปรับผลประโยชน์จากเผด็จการด้วย แต่ไม่เป็นไร ผมมั่นใจว่าประชาชนส่วนใหญ่เขามองเห็น

นักการเมืองถ้าอิงเเอบเผด็จการ เรียกบัวใต้น้ำยังไม่ได้ ต้องเรียกบัวเต่าคาย เพราะเต่าปลาที่ไหนก็กินไม่ลง"
 

 

 

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง  http://www.tnews.co.th/contents/423857

 

ขอบคุณเฟซบุ๊ก "นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ"