ประชาชนเชียร์ให้เป็นแบบไหน??..3แนวทางข้อดี-ข้อเสีย ถ้า“บิ๊กตู่” จะเป็นนายกต่อไป!!

ถามกันมาโดยตลอด ว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีจะเดินหน้าทางการเมืองหรือไม่.. ทันที่ปรากฏชื่อพรรค “พลังประชารัฐ”เกิดขึ้น แน่นอนทุกสายตาก็ได้จับจองมองไปที่พล.อ.ประยุทธ์ ว่าอยู่เบื้องหลังพรรคนี้หรือไม่  แม้ล่าสุดพล.อ.ประยุทธ์จะออกมาปฏิเสธการเกี่ยวข้องก็ตาม

พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อ13 มี.ค. กรณีการจัดตังพรรคพลังประชารัฐว่า "ผมไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรสักอย่างกับพรรคพลังประชารัฐ ก็รู้จากหนังสือพิมพ์ " เมื่อถามว่า ถ้าจำเป็นต้องตัดสินใจ จะเลือกพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ และจะรับนั่งเก้าอี้ประธานที่ปรึกษาด้วยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ยังไม่รู้เหมือนกัน และวันนี้ก็ยังไม่เห็นมีใครเชิญตนไปนั่งเก้าอี้ประธานที่ปรึกษาพรรคเลย มีแต่พูดกันไป และตนจะตัดสินใจอย่างไรก็ไม่ทราบเช่นกัน ขอเวลาทำงานในส่วนของตนไปก่อน การเมืองยังมีเวลาว่ากันต่อไป

ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงข้อกฎหมายกรณีที่มีข่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะสามารถรับตำแหน่งที่ปรึกษาพรรคการเมืองในขณะนี้ได้หรือไม่ ว่า ในกฎหมายไม่มีอะไรห้ามไว้ ส่วนจะมีเหตุอย่างอื่นหรือไม่อย่างไร ตนไม่ทราบ ไม่รู้เรื่อง และไม่เคยได้ยินด้วย

เมื่อถามว่า นายกฯ สามารถเป็นสมาชิกพรรคการเมืองได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เป็นได้ ไม่เห็นมีปัญหาอะไร เพราะในกฎหมายไม่ได้เขียนห้ามไว้ เพียงแต่จะไปลงสมัครรับเลือกตั้งไม่ได้ หากจะลงต้องลาออกก่อน

ประชาชนเชียร์ให้ไปแบบไหน..3แนวทาง ถ้า“บิ๊กตู่”จะเป็นนายกต่อไป
ถามกันมาโดยตลอด ว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีจะเดินหน้าทางการเมืองหรือไม่.. ทันที่ปรากฏชื่อพรรค “พลังประชารัฐ”เกิดขึ้น แน่นอนทุกสายตาก็ได้จับจองมองไปที่พล.อ.ประยุทธ์ ว่าอยู่เบื้องหลังพรรคนี้หรือไม่  แม้ล่าสุดพล.อ.ประยุทธ์จะออกมาปฏิเสธการเกี่ยวข้องก็ตาม
พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อ13 มี.ค. กรณีการจัดตังพรรคพลังประชารัฐว่า "ผมไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรสักอย่างกับพรรคพลังประชารัฐ ก็รู้จากหนังสือพิมพ์ " เมื่อถามว่า ถ้าจำเป็นต้องตัดสินใจ จะเลือกพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ และจะรับนั่งเก้าอี้ประธานที่ปรึกษาด้วยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ยังไม่รู้เหมือนกัน และวันนี้ก็ยังไม่เห็นมีใครเชิญตนไปนั่งเก้าอี้ประธานที่ปรึกษาพรรคเลย มีแต่พูดกันไป และตนจะตัดสินใจอย่างไรก็ไม่ทราบเช่นกัน ขอเวลาทำงานในส่วนของตนไปก่อน การเมืองยังมีเวลาว่ากันต่อไป 
ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงข้อกฎหมายกรณีที่มีข่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะสามารถรับตำแหน่งที่ปรึกษาพรรคการเมืองในขณะนี้ได้หรือไม่ ว่า ในกฎหมายไม่มีอะไรห้ามไว้ ส่วนจะมีเหตุอย่างอื่นหรือไม่อย่างไร ตนไม่ทราบ ไม่รู้เรื่อง และไม่เคยได้ยินด้วย
เมื่อถามว่า นายกฯ สามารถเป็นสมาชิกพรรคการเมืองได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เป็นได้ ไม่เห็นมีปัญหาอะไร เพราะในกฎหมายไม่ได้เขียนห้ามไว้ เพียงแต่จะไปลงสมัครรับเลือกตั้งไม่ได้ หากจะลงต้องลาออกก่อน

เพราะหากพล.อ.ประยุทธ์ คิดจะเดินหน้าทางการเมืองเป็นนายกรัฐมนตรีต่อ ก็มีช่องทาง3ช่องทางที่จะเป็นได้ นั่นก็คือ
1 การเป็นนายกคนกลาง ตามบทเฉพาะกาลตามรัฐธรรมนูญ ม.272

2 การยอมรับการเสนอชื่อของพรรคการเมือง พรรคใดพรรคหนึ่ง ที่เสนอให้เป็นนายกรัฐมนตรีตาม ม.88 ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์จะมีตำแหน่ง หรือไม่มีตำแหน่งในพรรคนั้นๆก็ได้ หรือ ถ้ามีตำแหน่ง จะเป็นตำแหน่งประธานที่ปรึกษาพรรค หรือ ที่ปรึกษาพรรคก็ได้ แต่แน่นอนว่า พล.อ.ประยุทธ์ ถ้ายังอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หรือหัวหน้าคณะคสช.ก็ไม่สามารถที่จะลงเลือกตั้งได้ หากไม่ลาออกก่อน 90วัน ตามรัฐธรรมนูญ ม. 263

3 นั้นก็คือพล.อ.ประยุทธ์ ลาออกจากทุกตำแหน่งก่อน 90 วันและกระโดดมาเป็นหัวหน้าพรรค พร้อมทั้งได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรนัฐมนตรี ตามม.88ด้วย

ทั้งสามแนวทางก็มีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกัน

วิธีการแรกพล.อ.ประยุทธ์อาจจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีได้ง่ายแต่ไม่มีเสียงสนับสนุนในสภาเลยซึ่งจะทำให้การเป็นนายกรัฐมนตรีลำบากมากเรียกได้ว่าเท้ารอย

วิธีการที่สองก็น่าจะดีกว่าวิธีการแรกเพราะมาจากกระบวนการการเสนอชื่อของพรรคการเมืองแต่ในแง่การสนับสนุนของประชาชนก็อาจจะยังไม่เป็นที่เพราะดูเหมือนกับว่าพลเอกประยุทธ์ไม่ได้ลงมาเต็มตัวด้วยตัวเอง

วิธีการที่สามแน่นอนว่าความเสี่ยงของพล.อ.ประยุทธ์ก็คือขาดจากการเป็นหัวหน้าบคสช. และนายกรัฐมนตรี 90 วันเพื่อลงสู่การเลือกตั้งแต่กระแสการตอบรับของประชาชนน่าจะดีขึ้นส่วนจะมากน้อยเพียงใดนั้นก็เป็นเรื่องที่จะต้องติดตามกันต่อไป

ส่วนประชาชนเชียร์แบบไหน..ก็ต้องดูกระแสของสังคมต่อไปว่าประชาชนจะสนับสนุนแนวทางไหนสำหรับพล.อ.ประยุทธ์ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป

แต่อย่างไรก็ตามทั้ง3 แนวทางอย่างไรเสียพล.อ.ประยุทธ์ ก็ไม่สามารถลงเลือกตั้งได้อยู่แล้วเพราะติดเงื่อนไขตามรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ ว่าสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติจะสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมิได้ เว้นแต่จะได้พ้นจากตําแหน่งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ภายในเก้าสิบวันนับแต่วันประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้