ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

ผ้ายันต์ค่ายกล สุดอาถรรพ์หลวงพ่อกวย

ผ้ายันต์ค่ายกล หรือผ้ายันต์แดงอันร้ายกาจ ของอาฬวกยักษ์ ยักษ์ท่านนี้มีบันทึกอยู่ในพุทธประวัติ อยู่ในบทสวดพาหุง ห้องที่สองที่ขึ้นต้นว่ามาราติเร ในประวัติกล่าวว่าท่านสิงสถิตอยู่ที่ต้นไทรใหญ่ ได้รับพรจากองค์ท้าวเวสสุวัณ ให้อนุญาตสามารถจับสัตว์หรือมนุษย์ ที่เข้ามาในบริเวณต้นไทรกินได้ ท่านก็จับสัตว์และมนุษย์มากินเป็นเวลาหลายปี จนพระพุทธเจ้าเล็งญาณแล้วเห็นว่าสามารถโปรดได้ พระพุทธเจ้าจึงเสด็จมาที่ต้นไทรนี้ อาฬวกยักษ์ใช้ฤทธิ์ต่างๆก็ทำร้ายพระพุทธเจ้าไม่ได้

ผ้ายันต์ค่ายกลอาฬวกยักษ์ "หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม"จากตำนานยักษผู้เรืองฤทธิ์..ลองยิงกี่ครั้งไม่เคยออก ห้ามเอาตีหัว บ้าทันที.

หลวงพ่อกวย

สุดท้ายใช้ผ้าพันคอสีแดง ที่มีอิทธิฤทธิ์มาก ว่ากันว่า ถ้าโยนขึ้นไปอากาศฝนจะแล้งสิบสองปี ถ้าโยนลงพื้นดิน จะทำให้ต้นไม้แห้งตายสิบสองปี ถ้าโยนลงในน้ำ จะทำให้น้ำแห้งขอด ถ้าโยนภูเขา ภูเขาจะพังราบ แต่เมื่อมาใช้กับพระพุทธเจ้ากลับทำอะไรพระองค์ไม่ได้ เหตุที่พระพุทธเจ้าไม่ยอมใช้ฤทธิ์กับอาฬวกยักษ์ เพราะทราบว่ายักษ์ตนนี้มีนิสัยกระด้างกระเดื่องมาก ถ้าใช้ฤทธิ์ปราบก็จะยอมแค่ชั่วคราว พระพุทธเจ้าจึงใช้ขันติบารมี ปราบอาฬวกยักษ์ เปรียบเหมือนบิดาปราบลูก ใช้ความเมตตาความเข้าใจ จนอาฬวกยักษ์ใจอ่อนลง ยอมฟังธรรมของพระพุทธเจ้า จนสำเร็จเป็นโสดาบัน

ในทางไสยศาสตร์ทั้งคาถาอาวุธ๔ อาวุธ๕ ล้วนกล่าวถึงอาฬวกยักษ์กับผ้าพันคอสีแดง วิชาผ้ายันต์ค่ายกล ผู้ที่สร้างทีแรกและมีชื่อเสียงโด่งดัง คือ หลวงพ่อเฒ่า(ปั้น) วัดค้างคาว จากข้อมูล อ.เฒ่า สุพรรณ กล่าวว่าเป็นผ้ายันต์ที่แพงที่สุดในโลก เพราะมีคนแบ่งตัดมาขาย อักขระหนึ่งตัวราคาหนึ่งร้อยบาท ในปี๒๔๖๐ เงินหนึ่งร้อยบาทในสมัยนั้น เทียบกับสมัยนี้น่าจะประมาณหมื่นหนึ่ง และดูในผ้ายันต์ทั้งหมดมีกี่ตัว ที่มีคนกล้าสู้ราคา เพราะแม้ตัดแบ่งออกมา มีคนไปลองยิงก็ไม่ออก

ผ้ายันต์ค่ายกลอาฬวกยักษ์ "หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม"จากตำนานยักษผู้เรืองฤทธิ์..ลองยิงกี่ครั้งไม่เคยออก ห้ามเอาตีหัว บ้าทันที.

หลวงพ่อกวยท่านไม่ทันหลวงพ่อเฒ่า(ปั้น) แต่ท่านได้ตำรามา ท่านจึงลองมาทำดูบ้าง แต่แปลกท่านไม่ยอมใช้ผ้าแดง คงกลัวอาถรรพ์จะแรงไป ตอนออกผ้ายันต์มาใหม่ ก็มีคนไปลองยิงเหมือนกัน แต่ยิงไม่ออก ผ้ายันต์ค่ายกล จะมีขนาดใหญ่มาก คนจึงไม่นิยมพกพา ประสบการณ์จึงมีน้อย ไม่เหมือนผ้ายันต์แบบอื่นของท่าน เช่นผ้ายันต์แปดทิศ คนพกไปรบที่ลาว มีประสบการณ์จนเล่าไม่หมด มีครูอยู่คนหนึ่ง ถูกฟ้องร้องด้วยคดีเช็คและคดีอย่างอื่นอีก พยานหลักฐานแน่นหนามาก วันที่เขาจะขึ้นศาล เหลือบไปเห็นผ้ายันต์ค่ายกล จึงหยิบมาอธิษฐานถึงหลวงพ่อกวย และอานุภาพผ้ายันต์ค่ายกล และจึงหยิบมาเช็ดหน้าเช็ดตา พอฟังคำพิพากษาทำให้งงมาก ศาลตัดสินยกฟ้องเฉยเลย มีอีกคนหนึ่งได้เช่าผ้ายันต์จากวัดมา ได้เผลอทำตกพื้น วันนั้นทั้งวันบ้านเขามีเรื่องทะเลาะกันทั้งวัน เพราะผ้ายันต์ค่ายกลมีข้อห้ามอยู่สองอย่างคือ ห้ามเอาไปตีหัวคน อาจจะทำให้คนที่โดนตี สติป้ำๆเป๋อๆหรือเป็นบ้าได้ ห้ามทำตกพื้นดิน อาจจะกลัวว่าอาจจะเกิดอาถรรพ์ทำให้ต้นไม้ตายก็ได้

ผ้ายันต์ค่ายกลอาฬวกยักษ์ "หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม"จากตำนานยักษผู้เรืองฤทธิ์..ลองยิงกี่ครั้งไม่เคยออก ห้ามเอาตีหัว บ้าทันที.

ผ้ายันต์ค่ายกล

ขอขอบพระคุณท่านเจ้าของภาพ และที่มาเนื้อหาข้อมูลมา ณ ที่นี้

ศิษย์สายวัดสะพานสูง

เพื่อเผยแผ่กิตติคุณครูเป็นสังฆบูชา และเทิดทูนเกียรติคุณครูบาอาจารย์