“โค้ชดม” พอใจโต๊ะเล็กสาวไทยปรับจังหวะจบสกอร์เฉียบขาดขึ้น เชื่อทีมพร้อมก่อนอุ่นเครื่องเวียดนาม 29 มี.ค.นี้ (คลิป)

ความเคลื่อนไหวของทีมฟุตซอลหญิงทีมชาติไทย ชุดเตรียมลุยศึกฟุตซอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย 2018 ที่ ประเทศไทย ระหว่างวันที่ 2-12 พ.ค. 61 โดยทีมชาติไทย อยู่ร่วมกลุ่ม เอ กับ อินโดนีเซีย, ฮ่องกง, มาเก๊า โดยเมื่อวันที่ 14 มี.ค.61 ทีมโต๊ะเล็กสาวไทยยังคงฝึกซ้อมกันอย่างต่อเนื่อง ที่ศูนย์วิทยาการกีฬาชั้น 3 กกท.  โดยมี “โค้ชดม” อุดม ทวีสุข กุนซือใหญ่ของทีมคุมซ้อมอย่าใกล้ชิด โดยวันนี้ทีมได้เน้นในเรื่องของจังหวะเข้าทำในรูปแบบต่างๆ เป็นหลัก 

หลังเสร็จสิ้นการฝึกซ้อม ทาง อุดม ทวีสุข กุนซือใหญ่ของทีมได้เผยว่า “ตอนนี้จุดที่น่าพอใจคือเรื่องของเกมรุกที่เราทำได้ดีขึ้นเรื่อยๆ เหลือเพียงแค่ปรับความเข้าใจในระบบการเล่นของผู้เล่นเก่าและใหม่อีกเพียงเล็กน้อย รวมถึงสปีดการเล่นที่ต้องทำให้เร็วขึ้น ซึ่งตนเชื่อว่าก่อนจะถึงเกมอุ่นเครื่องกับเวียดนาม ที่เรามีเวลาอีกประมาณ 2 สัปดาห์ ทีมน่าจะมีความพร้อมทั้งพละกำลัง และจังหวะการเล่น ก่อนที่จะเจอกับ เวียดนาม ในวันที่ 29 มี.ค. นี้ ที่จะเป็นการอุ่นเครื่อง และวัดระดับศักยภาพทีมอย่างเป็นทางการครั้งแรก”

ด้าน จิระประภา ทับสุริย์ กัปตันทีมฟุตซอลหญิงทีมชาติไทย กล่าว่า “จากที่เราได้อุ่นเครื่องมา 2 นัด การเจอคู่แข่งที่เป็นทีมระดับโรงเรียนทำให้ทีมได้เน้นในเรื่องของเกมรุกมากกว่าเกมรับ ด้วยศักยภาพของทีมคู่แข่งทำให้ยังไม่เห็นจุดอ่อนในเรื่องของเกมรับ แต่ตนเชื่อมั่นว่าก่อนที่เราจะมีแมตช์อุ่นเครื่องกับ เวียดนาม ในช่วงปลายเดือนนี้ ทีมจะมีความพร้อมมากขึ้น เพราะนักเตะแต่ละคนสามารถปรับตัวเข้ากับแท๊กติกของโค้ชได้ดีขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงบางคนที่มีอาการบาดเจ็บก็กลับมาฟิตเต็มที่อีกครั้ง ส่วนการแข่งขันชิงแชมป์เอเชีย ที่เราอยู่ร่วมสายกับ อินโดนีเซีย ต้องยอมรับว่า พวกเขาเป็นทีมที่มีพัฒนาการที่ดี รวมถึงมีลีกการแข่งขันภายในประเทศด้วย ซึ่งทำให้เราจะประมาทพวกเขาไม่ได้เลย เพราะเป้าหมายของทีมชาติไทยคือคว้าแชมป์มาครองให้ได้”

 

ด้าน จิระประภา ทับสุริย์ กัปตันทีมฟุตซอลหญิงทีมชาติไทย กล่าว่า “จากที่เราได้อุ่นเครื่องมา 2 นัด การเจอคู่แข่งที่เป็นทีมระดับโรงเรียนทำให้ทีมได้เน้นในเรื่องของเกมรุกมากกว่าเกมรับ ด้วยศักยภาพของทีมคู่แข่งทำให้ยังไม่เห็นจุดอ่อนในเรื่องของเกมรับ แต่ตนเชื่อมั่นว่าก่อนที่เราจะมีแมตช์อุ่นเครื่องกับ เวียดนาม ในช่วงปลายเดือนนี้ ทีมจะมีความพร้อมมากขึ้น เพราะนักเตะแต่ละคนสามารถปรับตัวเข้ากับแท๊กติกของโค้ชได้ดีขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงบางคนที่มีอาการบาดเจ็บก็กลับมาฟิตเต็มที่อีกครั้ง ส่วนการแข่งขันชิงแชมป์เอเชีย ที่เราอยู่ร่วมสายกับ อินโดนีเซีย ต้องยอมรับว่า พวกเขาเป็นทีมที่มีพัฒนาการที่ดี รวมถึงมีลีกการแข่งขันภายในประเทศด้วย ซึ่งทำให้เราจะประมาทพวกเขาไม่ได้เลย เพราะเป้าหมายของทีมชาติไทยคือคว้าแชมป์มาครองให้ได้”

 

 

ขอบคุณ: สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย