ทรัมป์กำลัง “ชะล่าใจ” !! ทำเนียบขาวเชื่อ จะมีการพบกันระหว่าง ‘ทรัมป์-คิม’ ฮิลลารีเตือนทรัมป์ ไม่ตระหนัก “อันตราย” โสมแดง!

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

ทำเนียบขาวมั่นใจการพบกันระหว่าง “ปธน.ทรัมป์” กับ “ผู้นำคิม” จะเกิดขึ้นตามกำหนดภายในเดือนพ.ค. นี้ ขณะที่อดีตคู่แข่งเลือกตั้ง “ฮิลลารี” เตือนทรัมป์กำลัง “ชะล่าใจ” ไม่ตระหนักถึงความอันตรายในการหารือเรื่องการปลดอาวุธนิวเคลียร์กับเปียงยาง

นางซาราห์ แซนเดอร์ส โฆษกหญิงของทำเนียบขาว กล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ 12 มีนาคม 2018 ว่า สหรัฐฯ มีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าการพบกันระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กับนายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนภายในเดือนพ.ค. นี้ โดยการพบกันเป็นไปตามข้อเสนอจากโสมแดงที่รัฐบาลวอชิงตันตอบรับ และหวังว่ารัฐบาลเปียงยางจะยึดมั่นตามคำสัญญา เพื่อให้การพบกันเกิดขึ้นตามแผนการที่วางไว้

ทั้งนี้การแถลงของนางซาราห์มีขึ้นหลังจากนายแบค แท-ยอน โฆษกของเกาหลีใต้ ออกมาบอกว่า ยังไม่ได้รับการติดต่อประสานจากเกาหลีเหนือเกี่ยวกับการเตรียมจัดการพบหารือระหว่าง 2 ผู้นำสหรัฐฯและโสมแดง ขณะเดียวกันยังไม่มีความเคลื่อนไหวจากสื่อมวลชนของเกาหลีเหนือด้วย

ด้านสำนักข่าวกลางเกาหลี (เคซีเอ็นเอ) ได้รายงานเกี่ยวกับการเยือนกรุงเปียงยางของคณะผู้แทนจากเกาหลีใต้ ที่ได้เข้าพบกับนายคิม จอง-อึน แต่ยังไม่เคยรายงานเรื่องการเตรียมพบกันระหว่างผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือกับผู้นำของสหรัฐฯ

อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าวระหว่างการพบกับนายชอง อวี-ยอง ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของเกาหลีใต้ ซึ่งเข้าพบที่มหาศาลาประชาชน ในกรุงปักกิ่ง ว่าแผนการครั้งนี้ยังอยู่ในขั้นเริ่มต้น จึงขอให้ทุกฝ่ายอย่าเพิ่งรีบร้อน และเตือนว่าโอกาสครั้งนี้ “มีความสำคัญอย่างมาก” ทั้งนี้ นายชอง อวี-ยอง เป็นผู้ประกาศที่กรุงวอชิงตัน เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้วว่าจะมีการพบกัน “ครั้งประวัติศาสตร์” ระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐกับผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ

อนึ่ง ประธานาธิบดีมุน แจ-อิน ผู้นำเกาหลีใต้ และนายคิม จอง-อึน มีกำหนดพบหารือกันที่หมู่บ้านปันมุนจอม บนเขตปลอดทหาร (ดีเอ็มซี) ในช่วงปลายเดือนเม.ย. นี้ ซึ่งเป็นกำหนดการที่ทั้งสองประเทศต่างยืนยัน โดยจะถือเป็นการพบกันอย่างเป็นทางการเป็นครั้งที่ 3 ระหว่างผู้นำของทั้งสองประเทศ ต่อจากเมื่อปี 2000 และ 2007 แต่จะเป็นครั้งแรกที่ผู้นำสองเกาหลีมาพบกันที่ปันมุนจอม

ด้านนางฮิลลารี คลินตัน อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสมัยปธน.บารัก โอบามา และเป็นคู่แข่งเลือกตั้งประธานาธิบดีของทรัมป์ กล่าวในการสัมภาษณ์กับสื่อ Algemeen Dagblad ที่อัมเตอร์ดัมและตีพิมพ์ในเนเธอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2018 เกี่ยวกับการเจรจาของทั้ง 2 ผู้นำที่อาจจะเกิดขึ้น โดยเธอเตือนว่า คณะบริหารของปธน.ทรัมป์กำลังไม่ตระหนักถึงความอันตรายในการหารือเรื่องการปลดอาวุธนิวเคลียร์กับกรุงเปียงยาง และกล่าวว่า วอชิงตันขาดนักการทูตที่มีประสบการณ์พอจะดูแลการเจรจานี้

“หากคุณต้องการคุยกับ คิม จองอึน เกี่ยวกับอาวุธนิวเคลียร์ของเขา คุณต้องมีนักการทูตที่เชี่ยวชาญ เป็นกลุ่มคนที่คุ้นเคยกับเรื่องนี้และรู้จักชาวเกาหลีเหนือและภาษาของพวกเขา”

พร้อมกับนี้เธอยังกล่าวถึงกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯว่า กำลังถูกกัดเซาะ นักการทูตที่เชี่ยวชาญด้านเกาหลีเหนือเหลืออยู่ไม่กี่คน ส่วนใหญ่ออกไปหมดแล้ว

“คุณไม่อาจทำการทูตโดยไม่มีนักการทูต รัฐบาลทรัมป์ไม่ตระหนักถึงความอันตรายนี้”

ความคิดเห็นของคลินตันสอดคล้องกับความคิดเห็นของนักการทูตผู้เชี่ยวชาญและอดีตเอกอัครราชสหรัฐฯประจำสหประชาชาติ บิล ริชาร์ดสัน ที่บอกกับสำนักข่าวเอเอฟพีเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2018 โดยเตือนว่า การเจรจากับเกาหลีเหนือ “ไม่ใช่รายการเรียลลิตีโชว์”

“มันเป็นโอกาสอย่างแท้จริง ผมกังวลเกี่ยวกับความไม่พร้อมและความไม่มีวินัยของท่านประธานาธิบดี แต่ผมชื่นชมท่านสำหรับกล้าหาญอย่างมากของท่านในการตอบรับคำเชิญ แต่นี่ไม่ใช่รายการ ‘ดิ แอพเพรนติส’ หรือรายการเรียลลิตีโชว์ มันเป็นการเจรจากับผู้นำที่คาดเดาไม่ได้และมีอาวุธนิวเคลียร์อย่างน้อย 20 ลูกและเคยข่มขู่คุกคามสหรัฐฯด้วย” เขากล่าว