- 19 มี.ค. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
(19 มี.ค.) นายยงยุทธ จิตรสำรวย นายอำเภอสิชล เปิดเผยว่าเมื่อวานนี้ (18 มี.ค.)ได้รับแจ้งจากชาวประมงว่ามีโลมาพันธุ์หนังโหนกสีชมพูลอยตายมาขึ้นริมหาดปลายทอน หมู่ 7 ต.ทุ่งปรัง อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช จึงพร้อมด้วยนายสมชาย ฉลาดแฉลม เลขานุการชมรมอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งหาดบางดี อ.สิชล ได้เดินทางไปตรวจสอบในเบื้องต้นเป็นซากโลมาพันธุ์หลังโหนกสีชมพู เพศผู้ ขนาดโตเต็มวัย ยาวประมาณ 2 เมตร น้ำหนักประมาณ 120 กิโลกรัม สภาพพองอืด ผิวหนังเริ่มลอก ส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วบริเวณ เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 10 วัน จึงได้ประสานไปยัง นายสันติ นิลวัฒน์ นักวิชาการชำนาญการ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จังหวัดสงขลา เพื่อที่จะได้เข้ามาเก็บซากทั้งตัว เพื่อไปพิสูจน์ถึงสาเหตุการตายต่อไป
นายยงยุทธ จิตรสำรวย นายอำเภอสิชล กล่าวอีกว่าตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา โลมาหลากหลายสายพันธ์ในพื้นที่ อ.สิชล อ.ขนอม อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ได้ทยอยตายติดต่อกันประมาณกว่า 10 ตัวแล้ว โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอขนอมซึ่งอยู่ติดกับพื้นที่อำเภอสิชลโลมาตายมากที่สุดถึง 9 ตัวแล้ว จึงอยากให้เจ้าหน้าที่เข้ามาดูแลอย่างใกล้ชิด หรือหามาตรการป้องกันให้มีการตายน้อยที่สุด
“ และอยากให้มีการตั้งศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ทะเลหายาก โดยให้มีเจ้าหน้าที่ที่อาศัยอยู่ประจำ เพื่อที่จะสามารถช่วยเหลือโลมาหรือสัตว์ทะเลหายากอื่น ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้องทันท่วงที เพื่อเป็นการอนุรักษ์โลมาและสัตว์ทะเลหายากไว้ให้กับลูกหลานรุ่นหลังต่อไปโดยเฉพาะในกรณีที่เกยตื้นยังไม่เสียชีวิต ทั้งนี้เนื่องจากศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่างสงขลา อยู่ห่างระยะทางไกลกว่า 300กิโลเมตร ทำให้การอนุรักษ์ ดูและช่วยเหลือไม่ทันการณ์ การตั้งศูนย์ช่วยเหลือในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช จะทำให้การอนุรักษ์ ดูแปลและช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉินเป็นไปอย่างถูกต้องทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพมากขึ้น” นายอำเภอสิชล กล่าวย้ำในที่สุด.
ภาพ/ข่าว ยุทธนะ เตมะศิริ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.นครศรีธรรมราช