ติดตามรายละเอียด : FB. Deeps News

ครูปรีชา ใคร่ครวญ และนางรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือเจ๊บ้าบิ่น ผู้ต้องหาแจ้งความเท็จในคดีสลากกินแบ่งรัฐบาล มูลค่า 30 ล้านบาท เดินทางมายังกองปราบปราม เพื่อขอให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำเพิ่มเติมในบางประเด็นเพื่อประกอบสำนวนคดีแจ้งความเท็จเป็นเหตุให้ผู้อื่นรับโทษทางอาญา

 

ปากดีจริง ๆ !! "ครูปรีชา" ลั่นคำกลางกองปราบ โดนโน้มใจรับสารภาพ ทำผิดคดีหวย 30 ล้าน รองผู้การฉุนกึ้กเข้าข่ายหมิ่น?? (คลิป)

 

โดยภายหลังยื่นหนังคำร้องขอแล้ว ครูปรีชา เปิดเผยว่า วันนี้มาขอหลักฐานบันทึกการจับกุมที่ยังขาดอยู่ รวมทั้งจะให้ทนายยื่นหนังสือขอคัดสำนวนคดีเพื่อนำไปให้กระทรวงยุติธรรม ทั้งนี้ยอมรับว่ารู้สึกสบายใจมากขึ้น หลังจากที่ได้เดินทางไปร้องขอความเป็นธรรมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงยุติธรรม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยเป็นการกระทำตามสิทธิที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ และขอขอบคุณคนไทยทุกคนที่ติดตามคดี

 

ปากดีจริง ๆ !! "ครูปรีชา" ลั่นคำกลางกองปราบ โดนโน้มใจรับสารภาพ ทำผิดคดีหวย 30 ล้าน รองผู้การฉุนกึ้กเข้าข่ายหมิ่น?? (คลิป)

 

ส่วนการแจ้งความเท็จที่ตนตกเป็นผู้ต้องหานั้น ก็ยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ จนกว่าศาลจะตัดสิน อีกทั้งเศาลแพ่งที่เขาเป็นโจทก์ฟ้องร้องอีกฝ่ายยังไม่ได้มีการชี้ชัดว่าสลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นของใคร พร้อมกันนี้ ครูปรีชา ยังปฏิเสธว่า เคยกล่าวหาตำรวจกองปราบบังคับให้สารภาพ แต่บอกเพียงว่าเคยถูกโน้มน้าวชักจูงใจให้รับสารภาพเท่านั้น

 

ซึ่งหลังจากยื่นเรื่องที่กองปราบปรามแล้ว วันนี้จะเดินทางไปเยี่ยมนางสาวกนกพรรณ หมวกไสว หรือ ฟ้า ที่ถูกดำเนินคดีตามความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เพราะรู้สึกเป็นห่วงและไม่กลัวว่านางสาวกนกพรรณ จะให้การกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.)เกี่ยวกับคดีของตนเอง

 

ขณะที่พ.ต.อ.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผู้บังคับการกองปราบปราม กล่าวว่า ครูปรีชาและทนายมาขอให้ตำรวจสอบปากคำพยานเพิ่มเติมอีก 2 ปาก เป็นพยานที่เคยสอบไปแล้ว 1 ราย และเป็นพยานใหม่ที่ยังไม่เคยสอบปากคำอีก 1 ราย ซึ่งประเด็นที่ร้องขอให้สอบเพิ่มนั้น ก็เคยสอบปากคำไปแล้ว แต่เมื่อร้องขอมาตำรวจก็ยินดี พร้อมให้ความเป็นธรรมกับฝ่ายผู้ต้องหา

 

ทั้งนี้ กรณีที่ครูปรีชาและเจ๊บ้าบิ่น ได้ร้องเรียนตามหน่วยงานต่างๆ ก็สามารถทำได้ตามสิทธิ หากรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม แต่ยืนยันว่าทางตำรวจไม่เคยข่มขู่ โน้มน้าวหรือบังคับให้ใครรับสารภาพแน่นอน โดยในส่วนนี้จะต้องมีการดำเนินคดีหรือไม่นั้น ขอตรวจสอบการให้สัมภาษณ์ของนายปรีชาก่อน ว่ามีถ้อยคำใดที่เข้าข่ายลักษณะหมิ่นประมาทหรือไม่

 

ซึ่งทางกระทรวงยุติธรรม หรือ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI จะรับคดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษหรือไม่ ก็เป็นดุลยพินิจของหน่วยงาน แต่คงไม่กระทบกับตัวสำนวนที่ทำอยู่ และหากผลออกมาว่าทาง DSIรับคดี ทางกองปราบก็จะส่งสำนวนทั้งหมดให้ดีเอสไอไปดำเนินการต่อ


นอกจากนี้ ครูปรีชา และทนาย ได้ขอสำเนาบันทึกการจับกุมจากพนักงาน เนื่องจากผู้ต้องหาจำไม่ได่ว่าบันทึกการจับกุมที่ตำรวจเคยให้ไปแล้วนั้น อยู่กับใคร