เปิดอีกคลิป อิทธิพลคับทะเลไทย ! ประมงผิดกฎหมายปิดล้อมข่มขู่เจ้าหน้าที่กลางทะเล ก่อนยึดคืนของกลางเกลี้ยง (ชมคลิป)

                จากกรณีที่มีกลุ่มชาวประมงใน จ.นครศรีธรรมราช โดยเฉพาะอ่าวปากปากพนัง-ปากนคร ทำประมงโดยใช้เครื่องมือผิดกฎหมาย เช่น เรืออวนรุนหัว ลอบพันหรืออ้ายโง่และโพงพาง จนนายพระศักดิ์ ศักดิ์ธานี ประมงจังหวัดนครศรีธรรมราช นำเรือตรวจการณ์ประมง พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบจับกุมตรวจยึดเครื่องมือผิดกฎหมายโดยเฉพาะบอลพับหรืออ้ายโง่ได้ประมาณ 60-70 ชุด แต่ถูกกลุ่มชาวประมงที่ทำประมงผิดกฎหมายระดมเรือหางยาวกว่า  20 ลำ ทำการผิดล้อมเรือตรวจการประมง เรือกางยาวและเรือยางของเจ้าหน้าที่ ก่อนพุ่งชนเรือตรวจการณ์ประมงจนใบพัดหัก ก่อนจะข่มขู่บังคับยึดลอบพับหรือไอ้โง่ ของกลางที่เจ่าหน้าที่ตรวจยึดได้คืนไปทั้งหมด เมื่อวันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา จนกลายเป็นที่วิพากวิจารณ์ถึงกลุ่มอิทธิพลที่ยึดพื้นที่ชายฝั่งทำประมงผิดกฎหมายมายาวนานหลายสิบปี  โดยเจ้าหน้าที่ไม่สามารถป้องกันปราบปรามได้ ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศรวมทั้งชาวบ้านที่ทำประมงอย่างถูกต้องตามกฎหมายเป็นอย่างมาก

(23 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังเกิดเหตุนายพรศักดิ์ ศักดิ์ธานี ประมงจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้รายงานเหตุการณ์ให้นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราชและผู้บังคับบัญชาทราบ ในขณะที่สื่อมวลชนที่ร่วมเดินทางไปสังเกตการณ์ทำข่าวเกี่ยวกับการป้องกันปราบปรามการทำประมงผิดกฎหมายตามนโยบายของรัฐบาล โดยกำหนดให้พื้นที่ อ.ปากพนัง เป็นพื้นที่นำร่อง หรือ “ปากพนังโมเดล” สามารถบันทึกภาพนิ่งและภาพวีดีโอเหตุการณ์ทั้งหมดเอาไว้ได้อย่างละเอียด  โดยพบว่ามีเรือประมงที่ร่วมก่อเหตุอย่างน้อย 19 ลำ และปรากฏภาพของกลุ่มประมงที่ทำผิดกฎหมายและร่วมก่อเหตุขับเรือหางยาวปิดล้อมบังคับข่มขู่เจ้าหน้าที่ได้อย่างชัดเจน  และมีการนำภาพและคลิปมาเผยแพร่ทางสื่อมวลชนและโลกโซเชี่ยล จนมีผู้ให้ความสนใจอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะมีคลิปหนึ่งที่เรือหางยาวของกลุ่มประมงผิดกฎหมายสามารถเข้ามาจับล็อคเรือตรวจการณ์ของเจ้าหน้าที่เอาไว้ได้ พร้อมตะโกนให้เพื่อน ๆ เข้ามาช่วยดึง ในขณะที่เข้าหน้าที่บนเรือตรวจการณ์พยายามขอร้องให้ปล่อยเรือตรวจการณ์และให้ไปเจรจาตกลงกันท่าท่าเทียบเรือสะพานปลา แต่กลุ่มประมงผิดกฎหมายไม่ยอมพร้อมตะโกนด่าทอตำหนิและชี้หน้าเจ้าหน้าที่ แม้สื่อมวลชนที่อยู่ในเรือตรวจการณ์จะถ่านภาพและคลิปวีดีโอไว้อย่างละเอียดทุกขั้นตอน แต่กลุ่มประมงผิดกฎหมายก็ไม่ได้สนใจหรือเกรงกลัวแม้แต่น้อย เมื่อเจ้าหน้าที่ตัดสินใจเร่งเครื่องยนต์จนหลุดออกมาจากวงล้อมของกลุ่มประมงผิดกฎหมายได้ ทางเรือหางยาวกลุ่มประมงผิดกฎหมายได้เร่งเครื่องไล่ล่าติดตามเรือตรวจการณ์ของเจ้าหน้าที่ไปติด ๆ สุดระทึกขวัญ

                “โดยผู้ที่เข้ามาชมคลิปต่างวิพากวิจารณ์พร้อมระบุถึงอิทธิพลในพื้นที่ซึ่งไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมืองใด ๆ เลย และมีพฤติกรรมป่าเถื่อน เย้ยกฎหมายเป็นอย่างมาก  จึงเรียกร้องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ดำเนินการแจ้งความเอาผิดโดยมีภาพถ่ายและคลิปวีดีโอเป็นหลักฐานมัดตัวแน่นหนา รวมทั้งให้ประสานงานขอกำลังจากกองทัพภาคที่ 4 กองทัพเรือ  ตำรวจน้ำ และหน่วยงานกระทรวงธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมบูรณาการร่วมปฏิบัติ โดยสนธิกำลังกวาดล้างการทำประมงผิดกฎหมายในจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยเฉพาะในพื้นที่ปากพนัง ปากนคร อย่างเด็ดขาด  เพื่อสนองนโยบายโครงการ “ปากพนังโมเดล” ให้เป็นรูปธรรมอย่างแท้จริงไม่ใช่แค่ได้ชื่อว่า “ปากพนังโมเดล” แต่สิ่งที่มีอยู่จริงคือการทำประมงผิดกฎหมายกระจายเกลื่อนป่าวปากพนัง-ปากนคร หากจะพูดว่า “ปากพนังโมเดล” คือการทำประมงโดยเครื่องมือผิดหมายจะถูกต้องกว่าปากพนังโมเดลที่มีการกวาดล้างปราบปรามการทำประมงผิดกฎหมาย”

นักอนุรักษ์ทรัพยากรชายฝั่งใน จ.นครศรีธรรมราชคนหนึ่ง กล่าวว่า พฤติการณ์และการก่อเหตุของกล่มประมงผิดกฎหมายในพื้นที่ อ.ปากพนัง ปรากฏชัดเจนเป็นที่ประจักษ์ โดยอิทธิพลที่กล้าต่อกรและตอบโต้กับเจ้าหน้าที่ของรัฐได้ถึงขนาดนี้ถ้าเขาไม่แน่จริงคงไม่กล้าตอบโต้กับเจ้าหน้าที่ได้ถึงเพียงนี้  จังหวัดนครศรีธรรมราชผ่านผู้ว่า ณ ประมงจังหวัดรวมทั้งประมงอำเภอปากพนังมาแล้วกี่คนทุกคนไม่มีขีดความสามารถเพียงพอที่จะปราบปรามกลุ่มอิทธิพลที่ทำประมงโดยใช้เครื่องมือผิดกฎหมายได้  เพราะการเป็นข้าราชการมีขัดจำกัดในการปฏิบัติหากมีการตอบโต้รุนแรงหรือจัดการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด ก็จะถูกต่อต้านพร้อมกล่าวหาว่าทำเกินกว่าเหตุ รังแก่ประชาชนที่หาเช้ากินค่ำทุกคนจึงไม่กล้าเสี่ยงกับกลุ่มอิทธิพลเหล่านี้ หากมีการต่อต้านลุกลามรุนแรง ท้ายที่สุดเจ้านายระดับสูงก็จะมีคำสั่งย้ายเจ้าหน้าที่พ้นจากพื้นที่ เป็นอย่างนี้มาทุกครั้งนับ 10 ครั้ง เจ้าหน้าที่ผู้ปฎิบัติจึงไม่กล้าปฏิบัติการอย่างจริงจัง ทำแบบปากว่าตาขยิบหรือผักชีโรยหน้า นับวันอิทธิพลจะมีบารมีเพิ่มมากขึ้นยิ่งใหญ่คับห้าคับทะเลไปในที่สุด ในครั้งนี้คงเห็นกันชัดเจนแล้วว่าเจ้าหน้าที่และกฎหมายบ้านเมืองไม่มีความหมายใด ๆ สำหรับคนกลุ่มนี้  หากเจ้าหน้าที่แค่เก้าคนสิบคนอย่าออกไปไล่จับกุมกลุ่มประมงผิดกฎหมายในทะเลเมืองคอนเลย โดนกลุ่มประมงผิดกฎหมายปิดล้อมบังคับข่มขู่อายชาวโลกเปล่า ๆ

                “จริง ๆ แล้วเจ้าหน้าที่ไม่ได้ต่อสู้กับชาวประมงพื้นบ้านที่ตั้งใจจะทำผิดกฎหมาย แต่ทั้งหมดเป็นเพราะมีนายทุนอยู่เยื้องหลัง ใช้ชาวบ้านเป็นเครื่องมือ และอาจจะมีเจ้าหน้าที่บางคนรู้เห็นเป็นใจหรือมีผลประโยชน์ร่วมด้วย  หากเปรียบเทียบระหว่างชาวประมงที่ทำประมงถูกต้องตามกฎหมายโดยใช้อวนลอย ใช้เงินลงทุนซื้ออ้วนลอยปากละ 13,000 บาทก็ออกทะเลไปทำประมงได้แล้ว ในขณะที่กลุ่มที่ทำประมงโดยใช้เครื่องมือผิดกฎหมายจะเห็นได้ชัดเจนว่าชาวบ้านหรือชาวประมงธรรมดาจะมีเงินทุนเพียงพอในการผลิตลอบพับหรืออ้ายโง่ชาวประมงแต่ละคนจะต้องใช้ลอบพับหรืออ้ายโง่คนละ 100-200 ลูกไปวางดักกลางทะเล ก่อนจะขับเรือหางยาวตระเวนกู้ปลาหรือสัตว์น้ำที่ติดอวนพับหรืออ้ายโง่  โดยอ้ายโง่หรือลอบพับ ต้องใช้คน100-200 ลูก โดยการผลิตลอบพับหรืออ้ายโง่ตกลูกละ 800 บาทแต่ละคนจะต้องใช้เงินลงทุนอย่าน้อย 100,000 บาทขึ้นไปชาวบ้านทั่วไปจะเอาเงินที่ไหนมาลงทุน ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้เพราะนายทุนลงทุนให้ หรือพุดให้ชัด ๆ ก็คือชาวบ้านเป็นแค่ลูกจ้างของนายทุนเท่านั้น เจ้าหน้าที่ไม่ได้ต่อสู้กับชาวชาวหรือชาวประมงธรรมดา แต่กำลังสู้กับนายทุนทำให้ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ การที่ชาวบ้านต่อต้าน ไม่ยอมและไล่ล่าปิดล้อมข่มขู่บังคับเจ้าหน้าที่เป็นคำสั่งของนายทุนทั้งนั้น หากจะเอากันจริง ๆ ต้องดำเนินการทั้งทางน้ำและทางบกระดมกำลังเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบตามบ้านของชาวประมงที่มีการผลิคลอบพับหรืออ้ายโง่  โดยมีแหล่งผลิตใหญ่อยู่ไม่กี่แห่ง หากพบก็จับกุมดำเนินคดีได้ทันทีเพราะถือว่าผิดกฎหมายแล้ว..

ภาพ/เจ้าหน้าที่ประมงจังหวัดนครศรีธรรมราช

ข่าว ยุทธนะ เตมะศิริ  ผู้สื่อข่าวภูมิภาค  สำนักข่าวทีนิวส์  จ.นครศรีธรรมราช