หัวอกแม่ปวดไปทั้งใจ !! โรคร้ายกลับมาระบาดหนัก คร่าชีวิตลูกสาววัย 16 ปี กว่าจะตรวจเจอก็สายไปแล้ว (คลิป)

ผวาไข้เลือดออกขั้นรุนแรง คร่าชีวิตนักเรียนสาววัย 16 ปี รายแรกในกระทุ่มแบน
 เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันที่ 23 มีนาคม 2561 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ศาลา 1 วัดสุวรรณรัตนาราม (แคราย) ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร หลังรับทราบว่า มีผู้เสียชีวิตด้วยโรคไข้เลือดออก 1 ราย  เป็นนักเรียนสาววัย 16 ปี โดยเมื่อไปถึงก็ได้พบกับนายพรศักดิ์ คงเจริญ อายุ 40 ปี และนางปัญญา คงเจริญ อายุ 37 ปี บิดามารดาของเด็กหญิงณัฐธิดา หรือน้องนัท คงเจริญ อายุ 16 ปี บุตรสาวที่เป็นไข้เลือดออก ซึ่งตอนนี้กลายเป็นเพียงร่างไร้วิญญาณอยู่ภายในโลงศพที่พ่อแม่กับญาติพี่น้อง ตั้งบำเพ็ญสวดกุศลศพเป็นเวลา 7 คืน นับตั้งแต่วันที่ 18 – 24 มีนาคม 2561 และจะทำการฌาปนกิจศพ ในวันที่ 25 มีนาคม 2561 ที่จะถึงนี้  

 

นางปัญญา คงเจริญ แม่ของน้องนัท เล่าให้ฟังด้วยความสะเทือนใจว่า ตนเองพร้อมสามีและลูกสาว 2 คน ที่มีน้องนัท เป็นลูกคนโต  อาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 24/48 หมู่ที่ 5 ต.คลองมะเดื่อ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ซึ่งน้องนัทกำลังศึกษาอยู่ที่โรงเรียนมัธยมวัดหนองแขม ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 กำลังจะขึ้น ม.5 ในช่วงเปิดเทอมที่จะถึงนี้ น้องเป็นเด็กดี น่ารัก ตั้งใจเรียนหนังสือ ช่วยงานพ่อแม่เท่าที่จะทำได้  เป็นที่รักของเพื่อนๆ และคุณครูที่โรงเรียน และน้องเพิ่งจะผ่านการอบรมจิตอาสา การช่วยฟื้นคืนชีพและการใช้เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ จากโรงพยาบาลวิชัยเวชฯ อีกด้วย น้องนัทมีความใฝ่ฝันอยากจะเป็นล่ามภาษา อย่างที่แม่แนะนำ แต่เมื่อน้องมาเสียชีวิตลงด้วยโรคไข้เลือดออกนั้น พ่อกับแม่ก็ใจก็แทบจะสลายตามไปด้วย แต่ก็ต้องยืนหยัดต่อไปเพราะต้องดูแลลูกสาวคนกลาง ที่อยู่ด้วยกัน กับ ลูกชายคนเล็กที่อยู่ต่างจังหวัดอีก 1 คน

 

 

 

 

 

 นางปัญญาฯ เล่าถึงอาการโรคไข้เลือดออกขั้นรุนแรงของน้องนัทว่า พอน้องปิดเทอมได้ประมาณ 1 สัปดาห์ หรือเมื่อประมาณวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา น้องก็มีอาการอาเจียน มีไข้ ท้องเสีย ปัสสาวะเป็นเลือด พ่อกับแม่จะพาน้องไปโรงพยาบาล แต่น้องไม่ยอมขอให้พาไปที่คลินิกแทน ซึ่งเมื่อไปหาหมอตรวจดูอาการแล้ว หมอบอกว่า อาการของน้องน่าจะมาจากอาหารเป็นพิษ จึงให้น้ำเกลือ ฉีดยา และให้ยากลับมารับประทานที่บ้าน พอรุ่งเช้าวันที่ 13 ก่อนที่พ่อกับแม่จะออกไปขายของ ก็ได้เข้าไปดูอาการของน้อง ซึ่งน้องก็มีอาการดีขึ้น ยิ้มแย้มแจ่มใสเหมือนเดิม พ่อกับแม่จึงคิดว่าน้องค่อยยังชั่วแล้ว ก็ออกไปขายของกันตามปกติ กระทั่งในช่วงบ่ายพอกลับมาจากขายของก็ไปดูน้องนัทที่นอนอยู่ในห้อง กลับพบว่าลูกสาวมีอาการเหมือนเดิมคือ เป็นไข้ ตัวร้อน อาเจียน ท้องเสีย ปัสสาวะเป็นเลือด จึงพาไปพบหมอที่คลินิกอีกครั้ง แต่คราวนี้หมอบอกว่า ไม่ว่าจะอย่างไรน้องก็ต้องไปโรงพยาบาล ซึ่งน้องก็ขอนอนให้น้ำเกลือที่คลินิกก่อน หมอจึงยอมให้น้ำเกลือน้องก่อนเพื่อให้น้องมีแรงขึ้น แต่ก็บอกว่าถ้าให้น้ำเกลือเสร็จแล้ว ให้พ่อกับแม่รีบพาน้องไปโรงพยาบาลทันที

 

ซึ่งพอน้องให้น้ำเกลือได้ประมาณครึ่งเดียวเท่านั้น ปรากฏว่าน้องมีอาการเกร็ง ชัก ตาค้าง ทางคลินิกจึงได้รีบให้รถโรงพยาบาลกระทุ่มแบนมารับตัวน้อง โดยเมื่อน้องมาถึงโรงพยาบาลกระทุ่มแบนแล้ว แพทย์ได้ทำการตรวจเลือดอย่างละเอียด จึงพบว่าน้องมีเชื้อไข้เลือดออกขั้นรุนแรง ซึ่งทางแพทย์ก็ได้พยายามให้การรักษาอย่างเต็มที่ จนกระทั่งวันที่ 15 มีนาคม ทางครอบครัวก็ขอย้ายน้องนัทไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลศิริราช จนถึงช่วงเย็นของวันที่ 17 มีนาคม น้องนัทก็เสียชีวิตลง โดยแพทย์ระบุสาเหตุว่า น้องนัทเป็นโรคไข้เลือดออกชนิดรุนแรง เนื่องจากร่างกายของน้องไม่แข็งแรงด้วย เพราะน้องมีโรคธาลัสซีเมีย เป็นโรคประจำตัว จึงทำให้เชื้อโรคแพร่กระจายและทำลายอวัยวะกับภูมิคุ้มกันภายในอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาการไข้เลือดออกชนิดรุนแรงที่น้องนัทเป็นจนเสียชีวิตนั้น เป็นอาการเดียวกันกับที่  ปอ ทฤษฎี เป็นแล้วเสียชีวิตลง

 

 

 

 

 

 นางปัญญาฯ เล่าเพิ่มว่า อาการไข้เลือดออกที่น้องนัทเป็นนี้ เชื่อได้ว่าน่าจะเป็นในช่วงที่น้องปิดเทอมแล้ว โดยเป็นจากที่บ้านไม่เกี่ยวกับที่โรงเรียน เพราะสภาพแวดล้อมโดยรอบบ้านนั้น จะมีทั้งทุ่งนา ป่าปรือ และโรงงานอยู่ใกล้เคียง ทำให้มียุงชุมมาก อีกทั้งตอนกลางวันเวลาที่น้องนัทอยู่บ้าน ก็จะชอบเปิดหน้าต่างเปิดมุ้งลวดของห้องนอน ทำให้ยุงเข้าไปกัดได้ ซึ่งหลังจากที่น้องเสียชีวิตลงแล้ว ทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขก็ได้เข้ามาทำการฉีดพ่นยากำจัดยุงลาย มอบทรายอะเบท และสอนคนในครอบครัวว่าต้องทำอย่างไรบ้าง เพื่อไม่ให้เกิดเหตุสลดซ้ำซ้อนได้อีก นอกจากนี้ก็ยังมีหลานสาวอีกคนที่พักอาศัยอยู่ไม่ไกลกันมากนั้น ป่วยเป็นไข้เลือดออกเหมือนกัน ในระยะเวลาใกล้เคียงกับน้องนัท แต่ไม่ถึงขั้นเสียชีวิตและปลอดภัยแล้ว ขณะที่ทางด้านของนายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช นายอำเภอกระทุ่มแบน ก็ให้สัมภาษณ์ว่า

 

หลังจากที่รับทราบว่ามีผู้ป่วยด้วยโรคไข้เลือดออกในพื้นที่อำเภอกระทุ่มแบนนั้น ก็ได้ส่งทีมเจ้าหน้าที่ลงไปสำรวจข้อมูลและดำเนินการควบคุมโรคทันทีตามมาตรการ 037 คือ ฉีดพ่นยาตั้งแต่วันแรกที่เกิด และต่อมาในวันที่ 3 กับวันที่ 7 ก็ทำการฉีดพ่นหมอกควันซ้ำ พร้อมกับขยายเป็นบริเวณกว้างขึ้นไป อีกทั้งยังได้มีการประชาสัมพันธ์ให้ผู้นำท้องถิ่น กับ อสม.ทุกแห่ง สำรวจพื้นที่ว่ามีจุดใดเสี่ยงต่อการเป็นไข้เลือดออกหรือไม่ และเฝ้าระวังประชาชนในหมู่บ้านหรือชุมชน ที่เสี่ยงต่อสถานการณ์ไข้เลือดออก หรือมีอาการต้องสงสัยว่าจะเป็นไข้เลือดออกก็ขอให้รีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขรับทราบ หรือรีบพามาตรวจที่โรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน เพื่อให้สามารถรักษาได้อย่างทันท่วงที และได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนอกจากเด็กที่เสียชีวิตแล้ว ยังพบผู้ป่วยที่เป็นโรคไข้เลือดออกอีก 1 ราย แต่ได้รีบนำตัวมารักษาและหายขาดแล้ว ส่วนเด็กนักเรียนที่เสียชีวิตรายนี้ เนื่องด้วยเด็กมีโรคประจำตัว จึงทำให้เชื้อไข้เลือดออกแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นโรคไข้เลือดออกขั้นรุนแรงและเสียชีวิตลง ซึ่งก็นับเป็นรายแรกของอำเภอกระทุ่มแบน

 

 

 

 

ภาพ/ข่าว ชูชาต แดพยนต์ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.สมุทรสาคร