สุดเวทนา 2 แม่ลุกชีวิตรันทด อาศัยกระท่อมขนาด 2 เมตร ริมคลอง ต้องกัดฟัันสู้ชีวิตไม่เว้นวัน วอนขอน้ำใจคนไทยไม่ทิ้งกัน (คลิป)

วันที่ 23 มีนาคม 2561 สุดเวทนาสองแม่ลูกอาศัยกระท่อมขนาด 2 เมตร ริมคลองสาธารณะกลางเมืองเชียงใหม่ เป็นพักอาศัย ลูกสาวต้องตื่นแต่เช้าเดินไปเรียนระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร ส่วนแม่ต้องไปเก็บเศษอาหารจากกองขยะให้ลูกสาวประทังชีวิต แต่ลูกสาวเรียนเก่งได้เกรดเฉลี่ย 3.5 และยังเป็นนักกีฬาระดับจังหวัดได้เรียนมากมาย

 

 

พบสองแม่ลูกสุดเวทนา ลูกสาวชื่อเด็กหญิง จุฑามาศ เสนธรรม อายุ 13 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ปีที่ 3  โรงเรียนเทศบาลวัดศรีดอนไชย จังหวัดเชียงใหม่ พักอาศัยหลับนอน อยู่ในกระต๊อบ ขนาดกว้าง 2 เมตร อยู่ริมลำคลองสาธารณะ ลำคลองสาขาคลองแม่ข่า ติดกับโครงการเจเจมาร์เก็ต ในตัวเมืองเชียงใหม่ พักอยู่กับนาง สุณีย์ เสนธรรม อายุ 59 ปี มารดาพิการสายตา 1 ข้าง และยังป่วยด้วยโรคหัวใจ ซึ่งแต่ละวันมารดา จะออกไปเก็บเศษอาหาร ที่ชาวบ้านทิ้งในถังขยะ และตามศาลพระภูมิในตลาด มาให้ลูกประทังชีวิต รวมทั้งเก็บเศษขยะขาย แต่รายได้ไม่แน่นอน บางวันก็ไม่มีเงินให้ลูกไปเรียน ต้องอดอาหารกลางวัน แต่เด็กหญิงจุฑามาศ เรียนเก่งได้เกรดเฉลี่ย 3.5  และยังเป็นนักกีฬาระดับจังหวัด แข่งขันได้รางวัล ทั้งเหรียญทอง และถ้วยรางวัลมากมายสร้างชื่อเสียงให้กับโรงเรียน และจังหวัดเชียงใหม่ และน้องยังเป็นคนขยันเรียน โดยเดินไปและกลับ โรงเรียนทุกวัน ประหยัดค่าใช้จ่าย  โดยจะตื่นตั้งแต่เช้าตี 5 และเดินไปถึงโรงเรียน ประมาณ 7 นาฬิกา 30 ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ช่วงเย็นก็จะเดินกลับ มาทำการบ้าน และช่วยแม่ ไปเก็บเศษขยะมาขาย ส่วนกลางคืนไม่มีไฟฟ้า ก็จะใช้ไฟฉาย ในการอ่านหนังสือ โดยวอนขอความช่วยเหลือจากสังคม และผู้มีจิตเมตตา ในการช่วยเหลือ เรื่องที่อยู่อาศัย หรือมีเงินทุนให้แม่ ได้ขายของ เพื่อเป็นรายได้

 

 

             พันตำรวจเอก ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เผยว่าขณะลงพื้นที่สำรวจ เพื่อจะนำข้าราชการตำรวจมาพัฒนาขุดลอกคลองแม่ข่า ตามโครงการทำความดีด้วยหัวใจ ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพวรางกูร คลองแม่ข่า มาพบ จึงสงสารพร้อมมอบเงินช่วยเหลือจำนวนหนึ่ง ในเบื้องต้นจำนวนหนึ่ง และจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ความช่วยเหลือต่อไป  และเป็นห่วงน้องด้วย ที่กำลังโตเป็นสาว และที่พักก็ไม่มีรั้วรอบขอบชิด ฝาบ้านก็ไม่มี เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย จึงประสานสื่อ มาช่วยเป็นสื่อกลาง ในการให้ความช่วยเหลือด้วย.

 

 

ภาพ/ข่าว ฟงหวิน  ศักดิ์อัศวิน  ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์  จังหวัดเชียงใหม่