- 24 มี.ค. 2561
กระจ่างไหมคนไทย !!?? "ทนายเดชา" แจงยิบ "โจอี้ บาซู" อ้างเป็นสายให้ตำรวจ แบบนี้ได้เหรอ ลองฟัง!...ชัดเจนหมดข้อสงสัย! (รายละเอียด)
วันนี้ 24 มี.ค. 2561 ที่ สน.โชคชัย พนักงานสอบสวน สน.โชคชัย คุมตัว นายศุรเฎฒณ์ กรณ์งูเหลือมโชต อายุ 49 ปี หรือ โจอี้ บาซู นักร้องชื่อดัง ไปส่งศาลแขวงพระนครเหนือเพื่อให้ศาลมีคำสั่งส่งตัวไปบำบัดในฐานะผู้ป่วยยาเสพติดที่เรือนจำกลางคลองเปรมแดน 13
สืบเนื่องจากกลางดึกคืนวันที่ 22 มีนาคม ผู้กำกับการ สน.โชคชัย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ร่วมกันจับกุมตัว นายศุรเฎฒณ์ พร้อมอุปกรณ์เสพยาเสพติชนิดไอซ์ /ถุงพลาสติกใสใช้บรรจุยาเสพติด/ และไฟแชค 1 อัน ภายในห้องพักแห่งหนึ่ง ซอยนาคนิวาส 37 แขวงและเขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ
ขณะที่ระหว่างคุมตัวมาโจอี้บาซูให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่ายืนยันว่าเสพครั้งแรกและการเสพยาก็เนื่องมาจากมีหน้าที่เป็นสาย ให้กับตำรวจ และพูดว่า มันเป็นเกม ดีใจที่ได้ร่วมงานกับทางราชการ
โดยโจอี้ได้เปิดเผยกับทางทีมผู้สื่อข่าวว่า ตนได้เสพยาไอซ์เป็นครั้งแรกเพื่อ"ช่วยราชการให้จับพ่อค้ายาเสพติดให้ได้"
โจอี้ บาซู ยังพูดอีก ว่าเกมนี้ผมเป็นคนแพ้....ขอเวลาผมอีกสักอาทิตย์หนึ่งเดียวได้เจอกัน และยังยืนยันว่าก็คงจะยังช่วยราชการต่อไป
ทั้งนี้ ทางญาติของโจอี้กล่าวว่าจะทำเรื่องขอประกันตัวต่อกรมคุมประพฤติในวันจันทร์ที่ 26 มี.ค. 2561 เพื่อรอคำสั่งศาลในวันอังคารที่27มีนาคม2561 ว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่อย่างไร
จากเรื่องนี้ทำให้เกิดข้อสงสัยในคำสารภาพที่ว่า "เป็นสายให้ตำรวจ" ล่าสุดทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ได้โพสต์เกี่ยวกับเรื่องนี้ระบุว่า
คดียาเสพติด กฎหมายยาเสพติดเปิดโอกาสให้มีการอำพรางตัว อาจจะเป็นตำรวจร่วมกับ คนธรรมดาในการเข้าล่อซื้อยาเสพติด
บุคคลดังกล่าว ถ้าทำงานตามคำสั่งของตำรวจก็ไม่ถือว่าเป็นผู้กระทำความผิด
แต่การจะเอาเป็นสายลับนั้นก็จะต้องมีพยานหลักฐานชัดเจนพอสมควรว่าตำรวจได้ใช้ให้ล่อซื้อ ส่วนใหญ่ก็ต้องขออนุญาตผู้บังคับบัญชาก่อนล่อซื้อ
เพราะการล่อซื้อคือการเข้าไปเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด อธิบายข้อกฎหมายโดยทนายเดชากิตติวิทยานันท์ทนายคลายทุกข์
#ทนายคลายทุกข์
ที่มา Decha Kittivittayanan