ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

วันที่24 มี.ค.61  จากกรณีที่ได้มีแพร่ภาพทางโลกโซเชียล การรับส่งนำผู้ป่วย เขตชายแดนไทย-ลาว หรือด่านชายแดนบ้านฮวก อ.ภูซาง จ.พะเยา ซึ่งเป็นจุดผ่อนปรน ที่ได้เข้ามาขอรับการรักษาตัวในเขตพื้นที่ รพ.เชียงคำ อ.เชียงคำ จ.พะเยา ซึ่งเป็น รพ.ในเขตพื้นที่ รับผิดชอบ แต่กลับนำคนไข้ชาวลาว ส่งไปทำการรักษา ตัวยังจังหวัดเชียงราย เพื่อทำการรักษา ทำให้เกิดปัญหา ว่าเป็นการกระทำที่ถูกต้อง หรือไม่ ทั้งนี้การกระทำดังกล่าวพบว่า เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและขั้นตอนการรับส่งผู้ป่วยข้ามแดน ตามที่มีการหารือกันไว้ระหว่างสาธรณสุขเมืองคอบ สปป.ลาว และโรงพยาบาลเชียงคำ จ.พะเยา และเรื่องที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นการกระทำที่ผิด เบื้องต้นทางนายอำเภอลงโทษด้วยการตักเตือนและบันทึก ไว้เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นมาอีก

 

นายอำเภอเต้น!!เข้มด่านบ้านฮวกชายแดนไทย-ลาวหลังเกิดปัญหามีคนป่วยข้ามแดนนอกเวลาปิดด่านชุดกู้ภัยดันนำส่งรพ.ข้ามจังหวัดนอกเขตรับผิดชอบ

 

นายอำเภอเต้น!!เข้มด่านบ้านฮวกชายแดนไทย-ลาวหลังเกิดปัญหามีคนป่วยข้ามแดนนอกเวลาปิดด่านชุดกู้ภัยดันนำส่งรพ.ข้ามจังหวัดนอกเขตรับผิดชอบ

 

นายวิรุฬห์ สิทธิวงศ์ นายอำเภอภูซาง จ.พะเยา กล่าวว่า ด่านชายแดนบ้านฮวก อ.ภูซาง จ.พะเยา เป็นจุดผ่อนปรน กำลังจะยกฐานะเป็น ด่านชายแดนถาวร ได้มีการประชุมกันระหว่างสาธารณสุขเมืองคอบ สปป.ลาว และโรงบาลเชียงคำ ในการที่จะรีเฟอร์หรือส่งต่อผู้ป่วยที่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วน ได้ตกลงกันก่อนแล้ว และทางเจ้าหน้าที่ด่านไทย รับทราบ ว่าจะมีการส่งตัวผู้ป่วย มายัง โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด คือโรงบาลเชียงคำ ที่ เป็นเคสเร่งด่วน ก่อนที่จะนำส่งต่อรักษาโรงพยาบาลอื่น

 

การเปิด-ปิด ด่าน หลังหรือนอกเวลา ก็เป็นอำนาจของนายอำเภอที่จะอนุญาตให้เปิดหรือไม่เปิดแต่ต้องให้มีเหตุจำเป็นที่จะเร่งด่วนจริงๆเช่น เคส ที่มีการที่เจ็บหนักเพราะอาจใช้ดุลพินิจของพนักงานเปิดเพื่อช่วยเหลือชีวิตคนแต่ถ้าหลังจากนั้นแล้วต้องมีการทำเป็นลายลักษณ์อักษรให้กับทางนายอำเภอทราบ ว่า เปิดช่วยเหลือใครไปที่ไหนด้วยเหตุจำเป็นอะไรบันทึกเวลาไว้ว่าใครเป็นผู้อนุญาตเพื่อ แจ้งให้ทางนายอำเภอทราบ และจะได้เช็คกับทางโรงบาลเชียงคำหรือว่า ว่าผู้ป่วยมาถึงแล้วก็กลับสู่ประเทศ สปป.ลาว เมื่อไหร่สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้น เนื่องจาก เกิดความเข้าใจผิด รู้เท่าไม่ถึงการณ์ เรื่องกฎระเบียบของเจ้าหน้าที่ในการรับส่งผู้ป่วย

 

นายอำเภอเต้น!!เข้มด่านบ้านฮวกชายแดนไทย-ลาวหลังเกิดปัญหามีคนป่วยข้ามแดนนอกเวลาปิดด่านชุดกู้ภัยดันนำส่งรพ.ข้ามจังหวัดนอกเขตรับผิดชอบ

 

นายอำเภอเต้น!!เข้มด่านบ้านฮวกชายแดนไทย-ลาวหลังเกิดปัญหามีคนป่วยข้ามแดนนอกเวลาปิดด่านชุดกู้ภัยดันนำส่งรพ.ข้ามจังหวัดนอกเขตรับผิดชอบ

 

หลังเกิดปัญหาขึ้น จะเรียกชุดกู้ภัยของมูลนิธิต่างๆ ที่มีภาระที่เกี่ยวกับ การรับส่งผู้ป่วยมารับทราบข้อระเบียบกำหนดว่ามีระเบียบยังไง เพื่อจะได้ให้ปฏิบัติให้ตรงกันโดยหลักการแล้ว เป็นสิ่งที่ดี แต่ต้องอยู่ในกรอบระเบียบกฎหมาย อะไรที่ทำได้ก็จะแจ้งให้ทราบว่าทำได้อะไรที่ทำไม่ได้ก็ต้องทำไม่ได้ หรือว่า จะมีอะไรก็ต้องมาขออนุญาตทางอำเภอ เพื่อจะรับทราบ ว่ามันเป็นสิ่งที่ถูกต้องในการทำหรือเปล่าไม่ใช่ว่าทำตามอำเภอใจจะไปไหนก็ได้ ซึ่งมันไม่ถูกต้องถ้ายังมีการกระทำผิดอีกจะต้องดำเนินคดีตามกฎหมายทันที

 

สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นก็ได้ทำการบันทึกไว้เป็นหลักฐานแล้วหากมีการกระทำผิดอีกก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522. มาตรา 63. ผู้ใดนำหรือพาคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรหรือกระทำการด้วยประการใดๆ อันเป็นการอุปการะหรือช่วยเหลือ หรือให้ความสะดวกแก่คนต่างด้าวให้เข้ามาในราชอาญาจักรโดยฝ่าฝืนพระราชบัญญัตินี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี และปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท

 

ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่24 ก.พ.61 เวลา19.50น.ที่ผ่านมามีรถตู้ สมาคมกู้ชีพกู้ภัยภูซางการกุศล จ.พะเยา หมายเลขทะเบียน 2 พ 0362 กทม. มารับผู้ป่วย พร้อมด้วยญาติ จากบ้านผาบ่อง เมืองคอบ แขวงไชยบุลี สปป.ลาว จำนวน 4 คนที่ด่านบ้านฮวก ต.ภูซาง อ.ภูซาง จ.พะเยา เพื่อนำตัวผู้ป่วยไปรักษาที่โรงพยาบาลเชียงคำ จ.พะเยา ตามข้อตกลงระหว่างประเทศ คือไม่ว่าผู้ป่วยหรือราษฎร หรือชาวบ้านจะเดินทางได้เฉพาะถึงในเขตอำเภอเชียงคำ เท่านั้น ไม่ให้ออกนอกพื้นที่นอกจากเชียงคำ แต่ทางชุดกู้ภัยฯได้นำเอาตัวผู้ป่วยไปส่งรักษาตัวที่ รพ.ในเขตจังหวัดเชียงรายโดยผิดขั้นตอน อีกทั้งยังถ่ายรูปภาพการรับส่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วยโชว์ในโซเชียล เฟสบุ๊ค ของ สมาคมกู้ชีพกู้ภัยภูซางการกุศล จ.พะเยา จนเป็นเหตุให้มีการตรวจสอบของการกระทำผิดดังกล่าวขึ้น

 

นายอำเภอเต้น!!เข้มด่านบ้านฮวกชายแดนไทย-ลาวหลังเกิดปัญหามีคนป่วยข้ามแดนนอกเวลาปิดด่านชุดกู้ภัยดันนำส่งรพ.ข้ามจังหวัดนอกเขตรับผิดชอบ

 

นายอำเภอเต้น!!เข้มด่านบ้านฮวกชายแดนไทย-ลาวหลังเกิดปัญหามีคนป่วยข้ามแดนนอกเวลาปิดด่านชุดกู้ภัยดันนำส่งรพ.ข้ามจังหวัดนอกเขตรับผิดชอบ

 

ภาพ/ข่าว ปัณณวิชญ์  อยู่ดี  ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์จังหวัดพะเยา