เปิดภาพนาทีเฉียดตาย !! หลังธรณีถล่มทับคนงานขุดฐานพระนานเกือบ 2 ชั่วโมง ชาวบ้านเชื่อเป็นอิทธิฤทธิ์หลวงพ่อเณร (มีคลิป)

เกิดเหตุระทึกขวัญที่สำนักสงฆ์หลวงพ่อเณร อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ดินฐานองค์พระพุทธรูปถล่มทับคนงานฝังทั้งเป็นนานเกือบ 2 ชั่วโมง ในที่สุดถูกช่วยขึ้นมาได้อย่างปลอดภัย ในขณะที่ชาวบ้านเชื่อเกิดจากอิทธิฤทธิ์ของหลวงพ่อเณรที่ไม่ต้องการให้มีการเปลี่ยนการหันหน้าขององค์พระพุทธรูปที่สร้างมานานอยู่คู่กับวัดกว่า 80 ปี

 

โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 12.00 น.วันนี้ ( 24 มี.ค. 61 )ที่สำนักสงฆ์บางปริง (หลวงพ่อเณร) ม.3  ต.ทุ่งรัง อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ได้เกิดเหตุดินถล่มทับคนงานก่อสร้างกำลังขุดดินรอบฐานองค์พระพุทธรูปหน้าตักประมาณ 4 เมตรเพื่อปรับปรุงฐานองค์พระที่ทรุดเอียง ขณะที่คนงานกำลังขุดดินอยู่นั้นดินได้เกิดทรุดตัวถลมลงทับนายวีระยุทธ  บุญสุวรรณ อายุ 54 ปี 1ในคนงานจำนวน 5 คนที่กำลังขุดดิน ดินได้ถล่มทับคนงานถึงลำคอ เพื่อนๆและอาสาสมัครกู้ภัยที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุได้เข้าทำการช่วยเหลือและได้ใช้ฝาครอบอ๊อกซิเย่นครอบใบหน้าผู้เคราะห์ร้ายขณะที่กำขุดดินอยู่นั้นดินได้เกิดถล่มรอบ 2แต่ครั้งนี้องค์พระได้ทรุดตัวและล้มลงอีกทางหนึ่งแต่ก็มีดินส่วนหนึ่งได้ไหลลงทับคนงานจนมิดหายไปทั้งร่าง

 

ทางเจ้าหน้าที่จึงได้เร่งระดมการช่วยเหลือ ซึ่งก็นับว่าโชคยังดีที่ผู้เคราะห์ร้ายมีสายอ๊อกซิเย่นติดอยู่ที่ปากและจมูกจึงไม่หมดอากาศหายใจ ซึ่งการช่วยเหลือเป็นไปอย่างค่อนข้างลำบากเนื่องจากต้องระวังดินถล่มลงรอบที่3  และร่างผู้เคราะห์ถูกฝังอยู่ใต้ดิน หน่วยกู้ภัยต้องจอบและเสียมขุดดินออกแต่ด้วยดินจำนวนมากจึงใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง จึงสามารถช่วยเหลือผู้เคราะห์ร้ายขึ้นมาได้ท่ามกลางการลุ้นระทึกของบรรดาไทยมุง

 

 

หลังช่วยเหลือผู้เคราะห์ขึ้นมาแล้ว นางสาวนัยนา คงสาย ที่ยืนดูเหตุการณ์เกิดอาการผิดปกติ พร้อมส่งเสียงระบุว่าตนเป็นหลวงพ่อเณรผู้ก่อตั้งสำนักสงฆ์แห่งนี้ และระบุว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเพียงแค่ลงโทษสั่งสอนกับคนที่ล่วงเกินที่จะดำเนินการเคลื่อนย้ายเปลี่ยนทิศขององค์พระที่ตั้งประดิษฐานอยู่  พร้อมระบุว่าเคยเตือนไปแล้วอย่าไปยุ่งปล่อยให้อยู่อย่างนั้นซึ่งครั้งนี้เป็นเพียงแค่สั่งสอนไม่เอาถึงตาย  ส่วนองค์พระที่เสียหายนั้นกำชับให้นำกลับมาซ่อมแซมไม่ต้องสร้างใหม่และให้หันหน้าไปทางทิศเดิมจากนั้นได้ออกจากทรงไป

 

 

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามคณะกรรมการของสำนักสงฆ์แห่งนี้ก็ได้คำตอบว่าเป็นเรื่องจริงที่ทางคณะกรรมส่วนใหญ่เห็นด้วยที่จะปรับปรุงฐานองค์พระที่เกิดทรุดตัวพร้อมกลับจะหันเปลี่ยนทิศของหน้าองค์พระจริง ซึ่งก่อนหน้านี้ทางเจ้าอาวาสได้เตือนแล้วว่าอยู่ไปยุ่งท่านอยู่อย่างนั้นก็ปล่อยให้อยู่อย่างนั้นแต่ทางคณะกรรมการไม่ยอมเชื่อฟังจึงเกิดเหตุขึ้น   หลังเกิดเหตุชาวบ้านต่างวิพากท์วิจารย์กันแซดถึงเรื่องดังกล่าวว่าไม่เชื่ออย่าลบหลู่

 

 

 

 

 

 

ภาพข่าว  ณัฐธิดา  เริ่มฤกษ์   ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.สุราษฎร์ธานี