"มหาธีร์" อดีตผู้นำมาเลเซีย เชื่อ "MH370" ถูกสั่งควบคุมจากระยะไกลให้บินออกนอกเส้นทาง หลังเครื่องบินถูกจี้

วันที่ 25 มี.ค. 61 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า นายมหาธีร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย วัย 92 ปีได้ออกมาให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ ดิ ออสเตรเลียน สื่อของออสเตรเลียถึงเรื่องเครื่องบินโดยสารโบอิ้ง 777 เที่ยวบินที่ MH370 ของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ ที่หายสาบสูญไปอย่างลึกลับเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมาว่า มีความเป็นไปได้ที่เครื่องบินลำนี้จะถูกหน่วยงานใดสักแห่งควบคุมจากระยะไกลให้บินออกนอกเส้นทาง เพื่อสกัดความพยายามการจี้เครื่องบิน

 

"มหาธีร์" อดีตผู้นำมาเลเซีย เชื่อ "MH370" ถูกสั่งควบคุมจากระยะไกลให้บินออกนอกเส้นทาง หลังเครื่องบินถูกจี้

นายมหาธีร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย

 

นายมหาธีร์ ได้ให้ความเห็นอีกว่า มันเป็นเรื่องที่แปลกมากที่เครื่องบินทั้งลำหายไปโดยไม่ทิ้งร่องรอยอะไรไว้เลย ซึ่งเมื่อปี 2549 มีข่าวออกมาว่า โบอิ้งได้รับอนุญาตให้เข้าควบคุมเครื่องบินที่ถูกจี้ขณะกำลังบินอยู่ ตนจึงสงสัยว่า MH370 จะเป็นแบบเดียวกับเหตุการณ์นี้หรือไม่ ซึ่งถ้าหากพูดถึงศักยภาพและเทคโนโลยีในการทำเช่นนั้นมันมีอยู่จริง เพราะในปัจจุบันนี้เราสมัยนี้ควบคุมเครื่องบินได้โดยไม่ต้องใช้นักบิน ซึ่งแม้แต่เครื่องบินขับไล่ก็ไม่ต้องใช้นักบินกันแล้ว เแต่ทว่าเป็นความลับความสำคัญทางยุทธวิธี และยังไม่ได้ถูกเปิดเผย 

ทั้งนี้ เมื่อปี 2549 โบอิ้งเคยได้รับสิทธิบัตรจากสหรัฐฯ เกี่ยวกับระบบควบคุมพิเศษ เมื่อเครื่องบินถูกจี้ สามารถเปิดใช้งานแล้วจะดึงการบังคับเครื่องบินพาณิชย์มาจากกัปตันและลูกเรือได้

 

"มหาธีร์" อดีตผู้นำมาเลเซีย เชื่อ "MH370" ถูกสั่งควบคุมจากระยะไกลให้บินออกนอกเส้นทาง หลังเครื่องบินถูกจี้

 

สำหรับเครื่องบินโดยสารโบอิ้ง 777 เที่ยวบินที่ MH370 ของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ ได้หายสาบสูญอย่างลึกลับจากจอเรดาร์ 1 ชั่วโมง หลังจากเครื่องบินทะยานขึ้นจากสนามบินในกรุงกัวลาลัมปอร์ ไปยังกรุงปักกิ่ง พร้อมกับผู้โดยสาร และลูกเรือจำนวน 239 คน เมื่อวันที่ 8 มี.ค. 2557

 

"มหาธีร์" อดีตผู้นำมาเลเซีย เชื่อ "MH370" ถูกสั่งควบคุมจากระยะไกลให้บินออกนอกเส้นทาง หลังเครื่องบินถูกจี้

 

หลังจากนั้น ประเทศออสเตรเลียได้เป็นผู้นำในการลงมือสำรวจน่านน้ำ 120,000 ตารางกิโลเมตรในมหาสมุทรอินเดียตอนใต้ นาน 28 เดือน ซึ่งสามารถพบชิ้นส่วนเครื่องบินที่ยืนยันได้ว่ามาจาก MH370 เพียง 3 ชิ้น โดยทั้งหมดพบที่บริเวณชายฝั่งมหาสมุทรอินเดียตะวันต่อมาได้ยกเลิกภารกิจการค้นหาไปในเดือน ม.ค. 2560

ต่อมาในเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา บริษัท โอเชียน อินฟินิตี (Ocean Infinity) ของสหรัฐฯ ได้เข้ามารับหน้าที่คลี่คลายปริศนาทางการบินครั้งใหญ่อีกครั้ง ภายใต้เงื่อนไขว่า ถ้าหากพบซากเครื่องบินภายใน 3 เดือน ทางการมาเลเซียจะต้องจ่ายเงินให้บริษัท โอเชียน อินฟินิตี้ ตามที่ตกลงกับรัฐบาล 20 ล้านดอลลาร์ ต่อพื้นที่ค้นหา 5,000 ตารางกิโลเมตร, 30 ล้านดอลลาร์ ต่อพื้นที่ค้นหา 15,000 ตารางกิโลเมตร, 50 ล้านดอลลาร์ ต่อพื้นที่ 25,000 ตารางกิโลเมตร และ 70 ล้านดอลลาร์ หากพบเครื่องบินนอกพื้นที่ที่กำหนด แต่ถ้าหากไม่พบซากเครื่องบินก็ไม่ต้องมีการจ่ายเงิน

 

"มหาธีร์" อดีตผู้นำมาเลเซีย เชื่อ "MH370" ถูกสั่งควบคุมจากระยะไกลให้บินออกนอกเส้นทาง หลังเครื่องบินถูกจี้

เรือของบริษัทซีเบด คอนสตรัคเตอร์ (The Seabed Constructor) ที่ใช้ค้นหาซาก MH370

 

และเมื่อช่วงต้นเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา นายปีเตอร์ แม็คมาฮอน วิศวกรเครื่องกลชาวออสเตรเลีย ผู้มีความเชี่ยวชาญด้านการค้นหาซากเครื่องบิน ได้ออกมาเปิดเผยว่า พบซากเครื่องบินลำดังกล่าว จากการอาศัยข้อมูลและภาพถ่ายจากองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐฯ (NASA) และ Google Maps ในการค้นหา ตกอยู่ห่างจากเกาะราวน์ด ประมาณ 10 ไมล์ ซึ่งเป็นเกาะเล็กๆในประเทศมอริเชียส ตั้งอยู่นอกชายฝั่งแอฟริกา ในมหาสมุทรอินเดียตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งเขาจะทำการส่งข้อมูลดังกล่าวนี้ ไปยังสำนักงานคมนาคมและความปลอดภัยของออสเตรเลีย เพื่อยืนยันการพบซากเครื่องบิน

 

"มหาธีร์" อดีตผู้นำมาเลเซีย เชื่อ "MH370" ถูกสั่งควบคุมจากระยะไกลให้บินออกนอกเส้นทาง หลังเครื่องบินถูกจี้

ข้อมูลและภาพถ่ายจากองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐฯ (NASA) และ Google Maps