ถลกหนัง"เอกชัย-แดงหมิ่นไร้ราคา"ตามราวีนาฬิกา"เสี่ยป้อม"ไม่เลิก แต่ไม่เคยเห็นหัวตอน"หญิงปู"ซุกแพงระยับ2.5ล้าน แบบนี้ยังกล้าอ้างรักความถูกต้อง

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

 

เอาความจริงมาพูดกันให้หมดเปลือก?! "เอกชัย หงส์กังวาล" อดีตนักโทษแดงคดี ม.112 ผู้ตามราวีนาฬิกาหรูของ "เสี่ยป้อม"ไม่เลิก ดูจะกลายเป็นพวก 2 มาตรฐาน และเป็นนักเคลื่อนไหวที่ไร้ราคาไปในทันที เมื่อเขาเลือกปฏิบัติ เล่นไม่เลิกกรณีนาฬิกาหรู พล.อ.ประวิตร  แต่กลับไม่เคยเห็นหัวเลยสักครั้ง ในกรณีคล้าย ๆ กันนี้ เมื่อ "น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรีผู้เป็นดั่งเทพธิดาของพวกเขา ก็ซุกนาฬิกาหรูซึ่งแพงระยับถึงเรือนละ 2.5 ล้านบาท และไม่แจ้งต่อ ป.ป.ช. ตั้งแต่ครั้งดำรงตำแหน่งนายกฯ เช่นกัน

 

แม้ตัวเขาอาจจะอ้างว่า...ห้วงเวลาดังกล่าวคือในช่วงปี 2557 ที่ ป.ป.ช.เริ่มไต่สวนกรณีนี้...อาจจะคาบเกี่ยวกับช่วงที่ตัวเองถูกจองจำอยู่ในคุกจากการขาย "ซีดีหมิ่น" จึงไม่มีโอกาสมาเคลื่อนไหว...นั่นยิ่งสะท้อนความไร้ราคาหนักยิ่งขึ้น เพราะขณะนี้แม้เวลาจะผ่านมากว่า 3 ปี แต่ปมนาฬิกาหรูของ "หนูปู" ยังอยู่ในชั้นอนุกรรมการไต่สวนของ ป.ป.ช.

 

และหากรักความถูกต้อง อยากเห็นความเป็นธรรม เพื่อยกบรรทัดฐานของสังคมจริง...ย่อมเคลื่อนไหวเรียกร้อง...กรณีของ "หนูปู" คู่กับของ "เสี่ยป้อม" ไปได้เลย...ไม่ใช่สร้างกระแสโจมตีรัฐบาล คสช.ซึ่งเป็นผู้ล้มรัฐบาล "ทุนสามานย์" ที่ตนสวามิภักดิ์รายสัปดาห์เช่นนี้

ข้อมูลระบุว่า เรื่องนี้เริ่มจากการที่ "นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้นำฝ่ายค้าน ได้อภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ช่วงสายวันที่ 26 พฤศจิกายน 2556  โดยได้สอบถาม น.ส. ยิ่งลักษณ์ ถึงเรื่องนาฬิการาคาเรือนละ 2.5 ล้านบาท ที่ไม่แจ้งต่อ ป.ป.ช. และกำลังเป็นปัญหา

โดยวันนั้นนายอภิสิทธิ์ ถามว่า อยากถาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ว่าคดี ของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) มีคดีใดไม่เกี่ยวกับการทุจริตบ้าง แล้วสรุปว่าทรัพย์สินของ พ.ต.ท.ทักษิณที่ถูกยึดไปมีทรัพย์สินในบัญชีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์หรือไม่ เพราะในตอนที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ไปให้การต่อศาลฎีกาฯ ก็ยืนยันว่าทรัพย์สินดังกล่าวไม่ใช่ของ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่เป็นการซื้อหุ้น 20 ล้านหุ้น รวมมูลค่า 20 ล้านบาท แต่จะชำระโดยนำเงินปันผลไปให้"

"งวดแรก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชำระเป็นเช็ค 9 ล้านบาทไป แต่ปรากฏว่า งวดที่สอง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้เขียนเช็ค 13.5 ล้านบาท เกินไป 2.5 ล้านบาท โดยอ้างว่าเขียนผิดพลาด พร้อมระบุว่า เงิน 2.5 ล้านบาทที่เกินไป ให้หลานไปซื้อนาฬิกาให้"

“ศาลฎีกาฯ ไม่เชื่อการให้การดังกล่าว ผมก็ไม่เชื่อ เพราะเมื่อไปดูบัญชีทรัพย์สินที่ท่านนายกฯ ยื่นต่อ ป.ป.ช. มีนาฬิกาอยู่ 9 เรือน รวมมูลค่า 1.8 ล้านบาท แล้วนาฬิกา 2.5 ล้านบาทอยู่ที่ไหนครับ”

“ตอบมาสิครับว่าเรื่องที่ผมพูด ท่านนายกฯ ให้การต่อศาลฎีกาฯ เช่นนี้จริงหรือไม่ ถ้าเป็นเรื่องจริง ทำไมทรัพย์สินเหล่านี้ ทำไมไม่ตรงกับที่แสดงต่อ ป.ป.ช.” นายอภิสิทธิ์ระบุ


สอดคล้องกับ บัญชีทรัพย์สินและหนี้สินที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยื่นต่อ ป.ป.ช. ในการเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2554 ที่พบว่า ในหมวดทรัพย์สินอื่น มีการแสดงรายการทรัพย์สินทั้งหมด 71 รายการ มูลค่ารวม 45,690,000 บาท  ในจำนวนทรัพย์สินดังกล่าว ปรากฏนาฬิกาอยู่ 9 เรือน ระบุว่าเป็นทรัพย์สินก่อนปี 2554 มูลค่ารวม 1,810,000 บาท ประกอบด้วย

1.นาฬิกา ROLEX สายทองคำฝังเพชร มูลค่า 400,000 บาท
2.นาฬิกา ROLEX สายโลหะทองสลับสีเงินฝังเพชร มูลค่า 120,000 บาท
3.นาฬิกา PATEK PHILIPPE สายโลหะสีเงินฝังเพชร มูลค่า 250,000 บาท
4.นาฬิกา PATEK PHILPPE สายยางสีเทาดำ มูลค่า 280,000 บาท
5.นาฬิกา FRANCK MULLER สายหนังสีขาว มูลค่า 200,000 บาท
6.นาฬิกา TAG HEUER สายหนังสีดำฝังเพชร มูลค่า 120,000 บาท
7.นาฬิกา PIAGET สายหนังสีขาว มูลค่า 10,000 บาท
8.นาฬิกา CARTIER สายโลหะสีเงิน มูลค่า 150,000 บาท
และ 9.นาฬิกา CARTIER สายโลหะสีทองสลับสีเงิน มูลค่า 280,000 บาท

ซึ่งทั้ง 9 เรือนนั้นไม่ปรากฏพบ นาฬิกาหรู  2.5 ล้านบาทที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ แจ้งต่อศาลฎีกาว่า ให้หลานไปซื้อมาไว้ ตามที่นายอภิสิทธิ์ ตั้งคำถามไว้แต่อย่างใดเลย จากนั้น ป.ป.ช. ก็รับลูกต่อ เริ่มไต่สวนกรณีนี้ในอีกไม่กี่เดือนต่อมา

เหตุนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์จึงได้ชื่อว่าเป็น "ผู้ซุกนาฬิกาหรู" เช่นกัน ซ้ำยังเป็นรุ่นพี่ "เสี่ยป้อม" เสียอีก แต่แปลก "เอกชัย" และแดงคนอื่น ๆ ที่ร่วมก๊วนกับเขากรณีนี้...กลับไม่เคยเคลื่อนไหวใด ๆ ในประเด็น "หนูปู" นี้เลย

ความ 2 มาตรฐานที่เสื้อแดงชิงชังนักชิงชังหนา....แต่กลับปรากฏชัดในการเคลื่อนไหวของ "เอกชัย" กรณีนี้ ทำให้ตัวเขา...ดูไร้ค่าไปในทันที เพราะเอาเข้าจริงแท้แล้ว...พวกเขาก็ก้าวไม่ข้าม "ระบบอุปถัมภ์" ที่ยึดถือพวกพ้องตัวเองเป็นใหญ่ แถมยังดูจะหนักข้อกว่าที่คิดเสียอีก...เพราความผิดของพวกข้า...ข้าไม่แตะ...แถมยังช่วยกลบเกลื่อน

ทั้งที่...พยายามป่าวประกาศบอกกับโลกว่า..."ตนเองเป็นพวกก้าวหน้า" เคารพสิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาค ซึ่งล้วนแล้วแต่มดเท็จ...เพราะการกระทำต่างกับสิ่งที่พร่ำพูดราวฟ้ากับเหว


แล้วจะว่าไป ปมนาฬิกาหรูของ น.ส. ยิ่งลักษณ์ ก็อืดเป็นเรือเกลือไม่แพ้ปมนาฬิกาหรูของ "เสี่ยป้อม" เช่นกัน เพราะผ่านมา 3 ปีกว่าแล้ว เรื่องยังคาราคาซังอยู่ในชั้นอนุกรรมการของ ป.ป.ช. อยู่เลย โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 7 ธ.ค.60 หรือเมื่อกว่า 3 เดือนก่อน นายวรวิทย์ สุขบุญ รองเลขาฯ ป.ป.ช. ในฐานะรักษาการเลขาฯ ป.ป.ช. ได้กล่าวถึงความคืบหน้าเรื่องนี้ว่า "ขณะนี้สรุปสำนวนเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างการพิจารณาของทางอนุกรรมการไต่สวนของ ป.ป.ช."

ไม่มีใครปฏิเสธว่า...การตรวจสอบผู้มีอำนาจ เพื่อยกบรรทัดฐานจริยธรรมทางสังคมเป็นเรื่องดี และควรกระทำในสังคมประชาธิปไตย แต่การเคลื่อนไหวของ "เอกชัย" กรณีนี้ และละเลยที่จะแตะพวกพ้องตัวเองนั้น...ดูจะเป็นได้แค่นักเคลื่อนไหวเปลือก ๆ เพราะมันห่างไกลหลักการประชาธิปไตยที่พวกเขาชอบเอ่ยอ้างอยู่มาก และทำให้ตนสิ้นค่าไปในที่สุด

...เว้นเสียแต่ว่า...พวกเขายอมรับอย่างหน้าชื่นตาบานไปเลยว่า...จงใจป่วน คสช. โดยอาศัยปมนาฬิกาหรูของ "เสี่ยป้อม" เป็นแผลที่ใช้บดขยี้ ส่วนนาฬิกาหรูของ "หนูปู" อันเป็นเทพธิดาของพวกข้า...ข้าไม่ยุ่ง...เพราะนายใหญ่ไม่ให้พูดเรื่องนี้