ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

    สถานการณ์ของบ้านเมืองในขณะนี้ กำลังถกเถียงกันมากจะ เลือกตั้งเมื่อไหร่ แม้ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองหลายต่อหลายท่านจะออกมายื่นยันแล้วก็ตามว่าจะเป็นไปตามโรดแมพ เมืองไทยจะมีการเลือกตั้งทั่วไป หรือเรียกชัดๆ ว่าเลือกตั้งสส.ในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 นี่คือคำประกาศครั้งล่าสุดจากนายกรัฐมนตรี ประยุทธ์ จันทร์โอชา แม้จะมีคำสั่งยื่นคำร้องต่อศาลฯ ให้วินิจฉัยร่าง พ.ร.ป. การได้มาซึ่ง สว.  ก็ตาม

    วันที่ 27 มี.ค.61 ภายหลังการประชุมครม.ประจำสัปดาห์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยกรณีมีกระแสข่าวตีกลับร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ให้ สนช. นำกลับไปพิจารณายื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่ามีเนื้อหาขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ว่า ขณะนี้รัฐบาลได้รับร่างดังกล่าวแล้ว และยังมีเวลาในการพิจารณาก่อนที่จะนำขึ้นทูลเกล้าฯเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย ในวันที่ 12 เมษายน จึงให้ฝ่ายกฎหมายตรวจสอบร่างกฎหมายดังกล่าวอีกครั้งว่า ควรจะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความหรือไม่ ซึ่งหากมีการยื่นการยื่นให้ตีความก็ไม่น่าจะใช้เวลาช้าเกินไป จึงขอความกรุณาให้ศาลรับเรื่องเหล่านี้ไปพิจารณา เพราะกฎหมายลูกถือเป็นประเด็นสำคัญ และขอให้ช่วยรัฐบาลในการดูแลให้อยู่ในกรอบโรดแม็พด้วย

 

ที่ผ่านมา มีการแสดงความเห็นของแต่ละฝ่ายที่อาจจะมีเจตนาดี หวังว่า จะเร็วขึ้นตามที่กระแสสังคมต้องการ แต่เมื่อเกิดปัญหามากๆ ก็ไม่อยากนำขึ้นทูลเกล้าฯ เพราะไม่อยากให้มีปัญหาในขั้นตอนนั้น อย่างไรก็ตามร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว อาจมีปัญหาใน 2 ประเด็นคือเรื่อง การช่วยเหลือคนพิการในการกาบัตรเลือกตั้ง รวมทั้งเรื่องที่อาจจะเข้าข่ายละเมิดสิทธิ ซึ่งหากใครเห็นว่าตนเองถูกละเมิดสิทธิก็สามารถฟ้องร้องได้ในภายหลัง แต่สิ่งสำคัญที่ตนระมัดระวังมากที่สุดคือไม่ให้มีปัญหาในขั้นตอนการทูลเกล้าฯ เพื่อลงพระปรมาภิไธยที่จะมีความขัดแย้งไม่ได้ จึงขอให้เข้าใจรัฐบาลด้วย และไม่ต้องการโยนความรับผิดชอบไปที่อื่นซึ่งรัฐบาลนี้จะไมทำแบบนั้น แต่ต้องแก้ปัญหาให้ได้ 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า การพิจารณากฎหมายของกรธ.และสนช.ก็มีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่ก็เป็นไปตามกลไกของกฎหมาย ซึ่งส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องดีที่มีความขัดแย้งกัน ไม่ใช่คล้อยตามกันทุกเรื่อง แต่รัฐบาลมีหน้าที่เพียงทำให้การเลือกตั้งเป็นไปตามที่กำหนด แต่จะทำอย่างไรก็ต้องดูตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ ยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหาแต่เป็นความคิดเห็นของแต่ละฝ่าย เพราะกรรมาธิการมีทั้งเสียงข้างมากและเสียงข้างน้อย และมติก็ออกมาตามเสียงส่วนใหญ่ แต่ต้องพิจารณาว่าจะประเด็นของเสียงส่วนน้อยนั้นจะมีปัญหาในอนาคตหรือไม่ 

“ผมได้บอกไปแล้วว่าจะทำอย่างไร ไม่ให้ร่างกฎหมายลูกทั้ง 2 ฉบับมีปัญหาจนเกิดการฟ้องร้องในอนาคต ไม่ใช่ห่วงแต่เรื่องการเลือกตั้ง จนไม่สนใจกฎหมายจะเดินได้หรือไม่ เพราะทุกคนก็หวังดีกันทั้งนั้น ไม่ได้เข้าข้างใคร หากมีการเข้าข้างกันจริงวันนี้ก็คงจบไปแล้ว ก็ต้องไปวิเคราะห์ดูว่าจะมีผลกระทบวันหน้าหรือเปล่าวันหน้าถ้าเลือกตั้งไปแล้ว ไปฟ้องร้องศาลรัฐธรรมนูญแล้วจะทำอย่างไร ถ้ามันผิด แล้วยังไงก็ฟาวด์หมดหรอ แล้วผมก็ต้องรับผิดชอบอีกหรือ”

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ยังไม่ได้บอกว่าจะยื่นหรือไม่ยื่นศาลรัฐธรรมนูญ กำลังพิจารณาร่วมกันก่อนและยังพอมีเวลา ซึ่งต้องคำนึงถึงโรดแม็พด้วย เพราะจะหาว่าตนไปถ่วงเวลาตามทฤษฎีสมคบคิด แต่พวกคุณสมคบคิดกันไปเองว่ารัฐบาลต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้  รัฐบาลต้องเดินหน้าตามกรอบเวลาที่กำหนด ตามกฎหมายที่มีอยู่ ไม่ต้องการลากยาวอะไรทั้งสิ้น ถ้าบอกว่าเลือกตั้งได้อะไรหรือไม่ก็คงไม่เกี่ยวกับตนแล้ว ถ้าอยากเลือกตั้งก็เลือกมา แต่อย่ามาโทษรัฐบาลว่าเลือกแล้วได้คนไม่ดี

พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวว่า ส่วนจะตอบได้หรือไม่ว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าจะไม่เป็นโมฆะนั้น ถ้า พ.ร.ป.ออกมาชัดเจนไม่มีปัญหา การเลือกตั้งก็ไม่เป็นโมฆะ และตนกำลังทำไม่ให้เป็นโมฆะอยู่ ตนพูดไม่ได้แต่อยู่ที่ทุกคน ไม่ใช่อะไรก็นายกฯ ถ้าทำคนเดียวก็คงไม่ยากแบบนี้ แต่มันก็ไม่ได้ เพราะนายกฯ ไม่ใช่ผู้วิเศษ

แน่นอนว่าหากพูดถึงเรื่องการเลือกตั้งแล้วนั้นก็อดคิดไม่ได้ถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มอยากเลือกตั้ง  หรือ กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย ที่เคลื่อนไหวต่อต้านคสช. และรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์  โดยมีพฤติกรรมพยายามปลุกระดมยุยงคนให้ออกมาเคลื่อนไหว หวังสร้างภาพ เหตุการณ์ความรุนแรง ให้เกิดขึ้นมากที่สุด  เพื่อนำไปขยายผล ยกระดับการชุมนุม  ซึ่งด้านพล.อ.ประยุทธ์เอง ก็ได้กล่าวถึงกรณีกลุ่มดังกล่าวและม่ได้ให้ความสำคัญอะไรมากมาย เพราะรู้ว่าเป็นคนกลุ่มเดิม และมีวัตถุประสงค์อย่างอื่นด้วย อาจมีการสนับสนุนมากจากภายนอกบ้างอะไรบ้าง คิดว่าไม่ใช่เจตนาบริสุทธิ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ อาจจะมีผู้บริสุทธิ์ร่วมกลุ่ม เพราะหวังดี มันก็มีอ

“เมื่อมีแกนนำอะไรต่างๆ ก็ต้องตรวจสอบว่าเชื่อมโยงพรรคการเมืองใดหรือไม่ ในการละเมิดกฎหมายเหล่านี้ ซึ่งจะมีผลในเรื่องพรรคการเมืองด้วยในอนาคต ฉะนั้น จะเตรียมการตรวจสอบทั้งทางลึกอยู่ทุกอัน ไม่ได้ไปปิดกั้น เพียงแต่ให้เขาเข้าใจว่าวันนี้บ้านเมืองต้องการอะไร หากอยากจะเลือกตั้ง เราก็จะให้มีการเลือกตั้ง ระยะเวลาก็ออกมาหมดแล้ว กฎหมายก็ออกมาแล้ว แล้วจะเร่งเลือกตั้งได้อย่างไร แสดงว่ามีจุดประสงค์อย่างหรือเปล่าผมก็ไม่รู้เหมือนกัน"

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อด้วยว่า ข้อสำคัญเท่าที่ทราบตอนนี้ ประชาชนอื่นๆที่เขาเดือดร้อนกำลังจะร้องทุกข์กล่าวโทษมา ไม่อยากให้เด็กเหล่านี้ต้องไปติดคดีความ แล้วกลับมาโทษรัฐบาลอีก สิ่งอันตรายมันจะเกิดขึ้นหรือไม่ เมื่อมีคนมาประท้วง แต่คนไม่เห็นด้วยก็มีอยู่  ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำอย่างไร จะบานปลายเหมือนเดิมอีก 
"ฉะนั้นขอให้เลิกเถอะ เพราะการจัดม็อบฝ่าฝืนคำสั่ง เมื่อมีคำสั่งขนาดนี้ยังฝ่าฝืนกัน วันหน้าจะเกิดอะไรขึ้นผมไม่แน่ใจ ไม่ใช่ผมมาขู่ หลายคนบอกว่าผมมาพูดในสิ่งที่ยังไม่เกิด แต่มันก็เริ่มจากตรงนี้ทุกที ทุกครั้งไป"

เรียกได้ว่าสำหรับพรรคการเมืองพรรคไหนที่แอบหนุนหลังกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย ก็คงต้องหนาวๆร้อนๆ เพราะหากสอบพบหลักฐานมัดแน่น สาวไส้ถึงพรรคไหน พรรคนั้นดูท่าจะส่อไร้อนาคตเสียแล้ว  จะใช่พรรคเพื่อไทยหรือไม่ ตามที่หลายฝ่ายคาดเดาหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องติดตามกันต่อไป แต่แน่นอนว่า ที่ผ่านมาบุคลในพรรคเพื่อไทย  มีพฤติกรรมคล้ายกับเป็นแนวร่วมกับกลุ่มดังกล่าว ชื่อแรกที่นึกถึง คงหนีไม่พ้น นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำคนสำคัญของพรรคเพื่อไทย ผู้ที่ประกาศตัวศัตรูกับคสช. รัฐบาล และพล.อ.ประยทธุ์ และมักออกมาโจมตีรัฐบาลอย่างดุเดือดไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม จนถูกจับตามองอย่างมาก ว่านายวัฒนาผู้นี้ นี่แหล่ะจะก้าวขึ้นมาเป็นหัวห้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ ต่อไป

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 24 ก.พ. นายวัฒนาได้ปรากฏตัวร่วมชุมนุม กับกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย บริเวณลานด้านหน้าหอประชุมศรีบูรพา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์  โดยอ้างเดินทางมาเพื่อให้กำลังใจในนามประชาชน และถ้าตนเองอยากเลือกตั้งแล้วจะดำเนินคดีก็ยินดี ไม่มีปัญหาอะไร เพราะตอนนี้ประชาชนพร้อมเลือกตั้งมานานแล้ว คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) นักการเมืองก็พร้อม แต่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไม่พร้อมฝ่ายเดียว

นายวัฒนากล่าวด้วยว่า “เมื่อเขาเรียกก็ต้องมา พลังทุกคนที่อยากเลือกตั้งล้วนบริสุทธิ์ทั้งนั้น พลังที่ไม่อยากเลือกตั้งต่างหากที่เป็นพลังไม่บริสุทธิ์ การอยากเลือกตั้งเป็นการเรียกร้องสิทธิของตัวเองโดยชอบ ผมมาเรียกร้องสิทธิของผมแล้วหนักหัวใคร ฝากถาม คสช.ด้วย และฝากบอก พล.อ.ประยุทธ์ ว่าตอนยึดอำนาจไปไม่มีเงื่อนไข แต่พอประชาชนจะมายึดคืนอำนาจกลับมีเงื่อนไข แล้วที่บอกให้คิดเหมือนกันอย่าแตกแยก ผมไม่สามารถคุยกับเผด็จการได้” 


และล่าสุดนายวัฒนาก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความ สนับสนุนการเคลื่อนไหวของกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตยอย่างเป็นทางการ โดยระบุว่า

“แล้วเจอกัน”
ผมสนับสนุนการเรียกร้องของกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย ที่เรียกร้องให้มีการเลือกตั้งภายในเดือนพฤศจิกายน 2561 ตามโรดแมปเดิมที่พลเอกประยุทธ์ได้สัญญากับประชาคมโลกไว้เพราะมีการเลื่อนมาแล้วหลายครั้ง อีกทั้งการดำรงอยู่ของรัฐบาล คสช. ยิ่งนานเท่าไรก็ยิ่งสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจและหลักนิติธรรมของประเทศมากขึ้นเท่านั้น ส่วนการเรียกร้องให้ยุบ คสช. เปลี่ยนเป็นรัฐบาลรักษาการ ก็เกิดจากพฤติกรรมของรัฐบาลและ คสช. ที่เคยทำไว้กับประชาชนในช่วงการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าจะเป็นการปิดกั้นฝ่ายที่เห็นต่างรวมถึงการใช้อำนาจจับกุมคุมขังคนที่คัดค้านร่างรัฐธรรมนูญ หากให้ คสช. อยู่ต่อย่อมไม่มีหลักประกันว่าจะไม่มีการใช้อำนาจแบบเดิมอันจะทำให้การเลือกตั้งไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม การเรียกร้องให้ยุบ คสช. จึงชอบด้วยเหตุผลทุกประการ

สำหรับข้ออ้างที่พลเอกประยุทธ์ใช้มาตลอดเพื่อถ่วงการเลือกตั้งคือ “ความวุ่นวาย” ก็เป็นวาทกรรมซ้ำซากแบบแผ่นเสียงตกร่อง เพราะการแสดงออกทางความคิดไม่ถือเป็นความวุ่นวายและความจริงก็ได้ปรากฏแล้วว่าความวุ่นวายที่เกิดขึ้นมาจากการไม่ยอมรับกติกาของคนบางกลุ่มบางพวก ที่ร่วมมือกับกองทัพก่อขึ้นเพื่อนำไปสู่การยึดอำนาจแบบทฤษฎีสมคบคิด กองทัพที่ดำรงอยู่ด้วยเงินภาษีของประชาชนจึงควรเลือกข้างประชาชนด้วยการปฏิเสธอำนาจเผด็จการ เนื่องจากเผด็จการเป็นปฏิปักษ์กับประชาชนเสมือนกับโจรที่ปล้นทรัพย์ที่เป็นปฏิปักษ์กับเจ้าทรัพย์ เผด็จการจึงไม่อาจเป็นเนื้อเดียวกับประชาชนได้ การที่กองทัพพยายามหาข้ออ้างมาบิดเบือนเพื่อสนับสนุนเผด็จการต่อไปเท่ากับกองทัพเลือกที่จะยืนตรงข้ามประชาชน ประชาชนอย่างผมก็พร้อมที่จะยืนตรงข้ามกับกองทัพเช่นกัน

อย่างไรก็ตามพฤติกรรมแนวร่วมการเคลื่อนไหวของนายวัฒนาที่ประกาศสนับสนุนกลุ่มฟื้นฟูประธิปไตยอย่างเต็มปากเต็มคำ อาจจซึ่งจะเกิดขึ้นในนาม ส่วนตัว ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคก็เป็นไปได้ ดังนั้นจึงต้องติดตามต่อไปว่า พรรคการเมืองพรรคไหน เป็นผู้สนับสนุน ท่อน้ำเลี้ยง ตัวจริง!!