ตาต่อตาฟันต่อฟัน!! "รัสเซีย" เอาคืนขับไล่นักการทูตสหรัฐฯ 60 คน-ปิดสถานกงสุล ตอบโต้ "ทรัมป์" ไล่ทูตรัสเซีย

วันที่ 30 มี.ค. 61 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมตรีต่างประเทศรัสเซีย ได้ออกมาแถลงว่าจะมีการสั่งขับไล่นักการทูตสหรัฐฯ 60 คน ออกนอกประเทศ และปิดสถานกงสุลอเมริกาในเมืองเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก เพื่อเป็นการตอบโต้กรณีที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกคำสั่งขับไล่นักการทูตรัสเซีย 60 คนออกจากสหรัฐฯ และปิดสถานกงสุลในซีแอตเทิล อันเนื่องมาจากที่อังกฤษกล่าวหาว่ารัสเซียลอบวางยาพิษด้วยสารทำลายระบบประสาทต่อนายเซอร์เก สกรีพัล อดีตเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองทางทหารของรัสเซีย ซึ่งลี้ภัยอยู่ในอังกฤษตั้งแต่ปี 2553 และน.ส.ยูเลีย สกรีพัล บุตรสาว

 

เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมตรีต่างประเทศรัสเซีย

 

โดย นายลาฟรอฟ กล่าวต่ออีกว่า ได้มีการแจ้งเรื่องดังกล่าวนี้ให้กับเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำกรุงมอสโก ได้รับทราบเรื่องมาตรการตอบโต้นี้แล้ว พร้อมกับบอกว่านักการทูตเหล่านั้นเป็นส่วนหนึ่งในการขับไล่ทูตอย่างสมน้ำสมเนื้อ เช่นเดียวกับการตัดสินใจของรัสเซียที่จะถอนการอนุญาตการทำงานของสถานกงสุลใหญ่สหรัฐฯในเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก 

 

นอกจากนี้ นายลาฟรอฟ ยังประกาศกร้าวอีกว่า รัสเซียจะออกมาตรการตอบโต้แบบตาต่อตาฟันต่อฟันกับประเทศอื่นๆที่ดำเนินการขับไล่นักการทูตรัสเซียเช่นกัน ที่แสดงพลังสนับสนุนอังกฤษซึ่งหาว่ารัสเซียอยู่เบื้องหลังการใช้สารพิษร้ายแรงกับสายลับสองหน้าและบุตรสาวดังกล่าว

 

ทั้งนี้ เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา สหรัฐฯ แคนาดา และยุโรปหลายสิบชาติ พร้อมใจกับขับไล่นักการทูตรัสเซียรวมกันกว่า 100 คน ในมาตรการตอบโต้เหตุสายลับสองหน้าชาวรัสเซียถูกวางยา

สำหรับอาการของ น.ส.ยูเลีย บุตรสาวของสายลับสองหน้า ล่าสุดอาการพ้นขีดอันตรายแล้ว ซึ่ง คริสตีน บลันชาร์ด ผู้อำนวยการด้านการแพทย์ของโรงพยาบาลเขตซัลส์บิวรี เผยว่าเธอมีสติและสามารถพูดคุยได้แล้ว แต่ยังต้องได้รับการดูแลจากผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนอาการนายเซียร์เก สกรีปัลนั้น อาการยังอยู่ในขั้นวิกฤต

 

นายเซอร์เก สกรีพัล และ น.ส.ยูเลีย สกรีพัล บุตรสาว