เอางัยแน่..หน.พรรค!!ดูให้ชัดๆกว่า1.6 พันล.“ซิโน-ไทย”เรียกค่าเสียหายอะไร??สวนคำปากหรือไม่“อนุทิน”ลั่นใหญ่สร้างรัฐสภาใหม่#เอากล่องไม่เอาเงิน??

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

ถือเป็นอีกหนึ่งข่าวร้อนที่สอดแทรกมาในช่วงจังหวะนักการเมืองไทยกำลังโหยหาวันเลือกตั้ง สำหรับโครงการก่อสร้างรัฐสภาใหม่    เพราะผ่านมากว่า 4 ปีแล้วที่มีการขอขยายสัญญาก่อสร้างโดย  บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)  ถึง 3 รอบด้วยเหตุผลเดิม ๆ คือข้ออ้างเรื่องการส่งมอบพื้นที่ล่าช้า   ทั้งยังมีการประกาศต่อสาธารณชัดเจนว่าจะมีการเรียกร้องค่าเสียหายจากสำนักงานเลขาธิการสภาฯ จากเหตุผลที่นำมาเป็นข้อกล่าวอ้างด้วยก้อนเงินสูงถึง 1,605,228,940 บาท (หนึ่งพันหกร้อยห้าล้านสองแสนสองหมื่นเก้าร้อยสี่สิบบาทถ้วน) (คลิกอ่านข่าวประกอบ  :  อภิมหาฉาวรัฐสภาใหม่!!!4 ปีสร้างไม่เสร็จ..ขอเลื่อน 3 รอบไม่พอ “ซิโน-ไทย”จ่อฟ้องเรียกเงิน 1.6 พันล้าน “อนุทิน”ร้อนตัวโต้ไม่ใช่ความผิดบริษัท?? )

 

เอางัยแน่..หน.พรรค!!ดูให้ชัดๆกว่า1.6 พันล.“ซิโน-ไทย”เรียกค่าเสียหายอะไร??สวนคำปากหรือไม่“อนุทิน”ลั่นใหญ่สร้างรัฐสภาใหม่#เอากล่องไม่เอาเงิน??

ทั้งนี้จากข้อมูลตรวจสอบพบว่าจำนวนเงินค่าเสียหายกว่า 1.6 พันล้าน  ที่บมจ.ซิโน-ไทย โดย  นาย พีระ นาควิมล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการบริษัทซิโน-ไทย ซึ่งมีอีกสถานะหนึ่งทำหน้าที่เป็น ผู้อำนวยการโครงการก่อสร้างรัฐสภา    แจกแจงไว้หนังสือนำส่ง  นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร  ประกอบด้วย  ภาระค่าใช้จ่ายอันเกินควร จากเหตุปัญหาเรื่องที่ดิน  ซึ่งเป็นผลกระทบความล่าช้าเรื่องการก่อสร้างตามหลักวิศวกรรม  คิดเป็นยอดเงินความเสียหายมากสุดถึง   1,414,053,537  บาท

ส่วนค่าความเสียหายอื่น ๆ แยกเป็นดังนี้  1.ผลกระทบจากการที่โรงงานผลิตเหล็กบ้านฉาง ไม่สามารถผลิตชิ้นงานโครงเหล็กทั่วไปให้กับบุคคลทั่วไป เนื่องจากไม่สามารถนำชิ้นงานเหล็กเข้าพื้นที่ก่อสร้างอาคารรัฐสภาใหม่ได้ เนื่องการส่งมอบที่ดินล่าช้าและปัญหากองดิน ทำให้โครงเหล็กส่วนใหญ่ต้องนำมาจัดเก็บไว้ที่โรงงานจนเต็มพื้นที่  ในส่วนนี้คิดเป็นค่าความเสียหาย 5,072,780  บาท

 

2.ผลจากการที่ส่วนชิ้นยอดอาคารซึ่งผลิตเสร็จแล้ว  ทางบมจ.ซิโน-ไทยไม่สามารถนำไปติดตั้งได้ตามแผนสัญญาคือ 900 วัน ทำให้เกิดความเสียหายต้องเช่าพื้นที่เก็บชิ้นส่วน คิดเป็นมูลค่ายอดเงิน 2,212,000  บาท

 

3.ผลกระทบจากการได้รับความเสียหายอันเกินควร  อาทิ  ค่าใช้จ่ายด้านเครื่องจักรสำหรับการก่อสร้าง ,  ค่าจ้างบุคลากร  ด้านอำนวยการ  งานบริหาร  และควบคุมงาน   รวมถึงค่าใช้จ่ายทางการเมืองจากวันการก่อสร้างที่ขยายเพิ่มขึ้น  คิดเป็นจำนวนเงิน 179,972,721 บาท  รวมเป็นยอดมูลค่าความเสียหายที่จะมีการดำเนินการเรียกร้องให้ชดใช้รวม  1,605,228,940 บาท

 

จากตัวเลขทั้งหมดที่ผู้บริหาร  บมจ.ซิโน-ไทย   นำเสนอต่อเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร  เพื่อเรียกร้องให้ชดใช้เงินค่าเสียหายที่เป็นผลกระทบทางธุรกิจ  ก็ยิ่งนึกย้อนกลับไปถึงคำพูดของนายอนุทิน  ชาญวีรกุล   หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย  แต่อีกนัยหนึ่งของการชี้แจงในเวทีประชาชนตรวจสอบคอร์รัปชั่น

 

เอางัยแน่..หน.พรรค!!ดูให้ชัดๆกว่า1.6 พันล.“ซิโน-ไทย”เรียกค่าเสียหายอะไร??สวนคำปากหรือไม่“อนุทิน”ลั่นใหญ่สร้างรัฐสภาใหม่#เอากล่องไม่เอาเงิน??

หัวข้อ  “การตรวจสอบปัญหาการทุจริตประพฤติมิชอบ กรณีไอที-รัฐสภาแห่งใหม่”  ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย เมื่อ  31 มี.ค. 2561  คืออดีตผู้บริหารบมจ.ซิโน-ไทย  และทายาทหลักของตระกูลผู้เป็นเจ้าของ  บมจ.ซิโน-ไทย 

 

เอางัยแน่..หน.พรรค!!ดูให้ชัดๆกว่า1.6 พันล.“ซิโน-ไทย”เรียกค่าเสียหายอะไร??สวนคำปากหรือไม่“อนุทิน”ลั่นใหญ่สร้างรัฐสภาใหม่#เอากล่องไม่เอาเงิน??

 

โดยในวันนั้น  นายอนุทิน  ให้เหตุผลของการต้องออกมาชี้แจงประเด็นนี้  มีใจความสำคัญตอนหนึ่ง  ระบุว่า  เพราะการก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่เกี่ยวข้องกับบมจ. ซิโน-ไทยฯ   ซึ่งเป็นกิจการของผู้เป็นพ่อ  และเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่  ซึ่งกำลังถูกพาดพิงว่ามีการใช้อำนาจหรืออิทธิพลในการต่อสัญญาขยายเวลาการก่อสร้างให้กับบริษัทซิโน-ไทยฯ

 

เอางัยแน่..หน.พรรค!!ดูให้ชัดๆกว่า1.6 พันล.“ซิโน-ไทย”เรียกค่าเสียหายอะไร??สวนคำปากหรือไม่“อนุทิน”ลั่นใหญ่สร้างรัฐสภาใหม่#เอากล่องไม่เอาเงิน??

 

“ขอชี้แจงว่าการตรวจสอบในฐานะประชาชนและด้วยสปิริตเป็นเรื่องดี   แต่บางครั้งจะไมได้รับข้อมูลที่ถูกต้องจากหน่วยงานราชการ  จะถูกต้องเฉพาะเพียงตัวเลข  ส่วนเรื่องอื่นๆที่นำมาพูดไม่มีข้อเท็จจริงใดๆ เลย  เช่นเดียวกับข้อสงสัยว่าบริษัททราบการก่อสร้างครั้งนี้จะมีปัญหา แต่ทำไมยังรับก่อสร้างนั้น  อยากจะบอกว่า บริษัทถือคติเอากล่อง ไม่เอาเงิน  เอาศักดิ์ศรี เอาความภาคภูมิใจ จะได้เขียนลงในประวัติบริษัทว่าเคยก่อสร้างรัฐสภา ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญของประเทศ ด้วยเกียรติของผม  ของพ่อผม มีเกียรติเพียงพอที่จะรับประกันว่าโครงการก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่มีความโปร่งใสแน่นอน”