หายสงสัยก็วันนี้!!! กับความเชื่อของคนไทย เมื่อมีคนตายนอกบ้าน ทำไมถึงต้องทำพิธีเชิญวิญญาณ แท้จริงเหตุผลลึกซึ้งมาก!?

หลายๆ คนคงจะเคยได้พบ เคยได้ยินกับความเชื่อที่ว่า  "หากคนตาย ไปตายนอกบ้าน ต้องทำพิธีอันเชิญวิญญาณกลับบ้าน" กันมาบ้าง วันนี้ เรามาดูกันดีกว่า ว่าความเชื่อที่ว่า "การเรียกวิญญาณกลับบ้าน" นั้น เริ่มมาจากอะไร และมีวิธีการเรียกวิญญาณกลับบ้านอย่างไรบ้าง

พระธรรมกิตติเมธี (จำนง ธรรมจารี) ได้ให้ความรู้เอาไว้ว่า ศาสนาพุทธนั้นจะมีความเชื่อเรื่องที่เกี่ยวกับ "การเวียนว่ายตายเกิด" และ "วิญญาณหลังความตาย" โดยหากผู้ใดประสบเหตุเสียชีวิตอย่างฉับพลัน ดวงวิญญาณนั้นก็จะล่องลอย และวนเวียนอยู่บริเวณที่ที่สิ้นลมหายใจ สิงสถิตอยู่ตรงนั้น ทำให้ไม่สามารถไปผุดไปเกิดได้ กลายเป็นวิญญาณพเนจรไปจนกว่าจะมีคนมาแทน ฉะนั้นแล้ว ญาติของผู้ตายจึงมักจะมาประกอบพิธีเชิญวิญญาณเพื่อกลับบ้าน จะได้ไม่ต้องเป็นวิญญาณเร่ร่อน และนำร่างกลับไปประกอบพิธีเพื่อให้ไปสู่สุขติ

การเรียกวิญญาณกลับบ้านนั้น ตามความเชื่อในคติพุทธศาสนา จะมีวิธีที่แตกต่างกันออกไปตามแต่ละท้องที่ชุมชน การดำเนินการเรียกวิญญาณกลับบ้านนั้น จะทำในช่วงเวลาใดก็ได้ แต่ส่วนใหญ่นั้น จะนิยมประกอบพิธีเรียกวิญญาณในช่วงเช้า โดยการนิมนต์พระสงฆ์จะรูปเดียว หรือหลายรูปก็ได้ มาประกอบพิธี ต่อมานำข้าวปลาอาหาร มาจัดโต๊ะ และนำสิ่งของเครื่องใช้มาเตรียม

หลังจากนั้น พระสงฆ์จะใช้บทสวดพระอภิธรรม 7 คัมภีร์ และบทสวดมาติกาบังสุกุล ในการสวด หลังจากสวดเสร็จแล้ว จะแสดงพระธรรมเทศนา อนุโมทนาให้พร และให้พ่อแม่ หรือญาติพี่น้อง บอกกล่าวให้ดวงวิญญาณติดตามกลับบ้านไปพร้อมกัน และบางคนก็มีความเชื่อว่า ในระหว่างทางที่เดินทางกลับบ้านนั้น เมื่อผ่านถนนสี่แยก สามแยก หรือสะพาน ญาติของผู้เสียชีวิตนั้น จะต้องโยนเศษเหรียญสตางค์ เพื่อเป็นการบอกทางให้วิญญาณ ไม่ให้วิญญาณนั้นหลงทาง

เมื่อถึงบริเวณหน้าบ้านแล้ว ให้พ่อแม่ หรือว่าญาติพี่น้อง ทำการจุดธุปเพื่อบอกกล่าวกับผีบ้าน ผีเรือน และพระภูมิเจ้าที่ เพื่อเป็นการขออนุญาตให้วิญญาณนั้น สามารถเข้าสู่ตัวบ้าน อาคารได้ 
 

Cr.ภาพประกอบ shutterstock.com