ถลกหนัง"กระดุมฏีแสร้งเป็นไพร่-ผู้โอ่อวดสร้างรัฐสวัสดิการ"?แฉ"ซัมมิท โอโตฯ"เลิกจ้างรองปธ.สหภาพผู้เป็นปากเสียงพี่น้องแรงงาน อ้างคลาสสิกขาดทุน

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

 

ถลกหนัง "กระดุมฏีแสร้งเป็นไพร่" และพยายามอวดโอ่ต่อโลกว่า "พรรคอนาคตใหม่" ของตนกำลังสร้างรัฐสวัสดิการที่ประเทศนี้ยังไม่เคยมีใครทำได้ โดยเรื่องนี้ถูกกระพือผ่าน "นายษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี" อาจารย์ประจำวิทยาลัยสหวิทยาการ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งพรรคฯ ที่ช่วงหลังออกมาเคลื่อนไหวในประเด็น "รัฐสวัสดิการ" แบบเพ้อฝันนี้หลายครั้ง ล่าสุดโหนแม้แต่กระแส "ละครบุพเพสันนิวาส" โดยเจ้าตัวอ้างทำนอง "เราอาจไม่ต่างจากอีปริก (ตัวละครไพร่หญิงในละคร) ที่กลายเป็นไพร่ ในกระแสเสรีนิยมใหม่ ที่ถูกขังด้วยชาติกำเนิด" โดยเจ้าตัวปิดท้ายประเด็นนี้ว่า "รัฐสวัสดิการเป็นทางออกของระบอบไพร่ในกระแสเสรีนิยมใหม่"

 

ทว่าเอาเข้าจริงสิ่งที่ "นายษัษฐรัมย์" เพ้อฝัน ซึ่งก็คือสิ่งที่ "พรรคอนาคตใหม่" เพ้อฝันกลับต่างกับสิ่งที่พวกเขาพล่าม...ราวฟ้ากับเหว เพราะวานนี้เพจเฟซบุ๊ก "พิราบแรงงาน Labour's Voice" ซึ่งถือว่าเป็นเพจที่เป็นปากเสียงให้กับบรรดาแรงงานทั่วประเทศ ได้โพสต์ข้อความเผยแพร่ว่า บริษัท ซัมมิท โอโตซิท อินดัสตรี จำกัด ได้ส่งหนังสือเลิกจ้าง "นายพนม เพ็ญสุข" รองประธานสหภาพแรงงานซัมมิท โอโตซิท อินดัสตรี (SAS) โดยให้เหตุผลว่า มาจากการปรับลดขนาดขององค์กร และภาวะการขาดทุน ทั้งระบุนายพนม ไม่มีส่วนงานที่ต้องรับผิดชอบแล้ว

 

ถลกหนัง"กระดุมฏีแสร้งเป็นไพร่-ผู้โอ่อวดสร้างรัฐสวัสดิการ"?แฉ"ซัมมิท โอโตฯ"เลิกจ้างรองปธ.สหภาพผู้เป็นปากเสียงพี่น้องแรงงาน อ้างคลาสสิกขาดทุน

เหนืออื่นใดก็คือ "นายพนม"  นอกจากเป็นรองประธานสหภาพแรงงานSAS แล้ว ยังเป็นรองเลขาธิการสภาองค์กรลูกจ้างแรงงานยานยนต์แห่งประเทศไทย และกรรมการสหพันธ์แรงงานโตโยต้า ซึ่งเป็นปากเป็นเสียงให้กับพี่น้องแรงงานในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์มาโดยตลอด

แม้ "ซัมมิท โอโตซิทฯ" จะอ้างว่า "นายพนม" ไม่มีการงานที่รับผิดชอบ และการประเมินพบว่า เขาอยู่ในข่ายที่ต้องพิจารณา บริษัทฯ จึงขอใช้สิทธิตามข้อตกลงในสัญญาจ้าง ตามข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง และตามกฎหมายแรงงานเรื่องการเลิกจ้างก็ตาม แต่นั่นก็ยังสร้างความแคลงใจของสังคมต่อกรณีนี้อยู่ดี...เพราะเพจ "พิราบแรงงาน Labour's Voice" ก็ระบุชัดว่า "นายพนม" เป็นปากเป็นเสียงให้กับพี่น้องแรงงานในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์มาโดยตลอด...นั่นยิ่้งทำให้เรื่องนี้...มีมิติของการเมืองในองค์กร...ระหว่างนายจ้างซึ่งกอดยึดหลักการทุนนิยม...และมักเห็นสวนทางกับรองประธานสหภาพฯ ที่ออกมาเป็นปากเสียงให้กับพี่น้องแรงงานเสมอ ๆ ...อย่างที่แม้แต่เด็กอมมือ...ยังมองออก

...เหตุนี้จึงเป็นธรรมดาอยู่เอง....ที่ผู้รู้หลายต่อหลายคนจึงออกมาถลกหนัง "พรรคกระดุมฏีแสร้งเป็นไพร่ของธนาธร" ที่พยายามอวดโอ่ต่อโลกว่า พวกเขากำลังสร้างรัฐสวัสดิการให้กับประเทศนี้...เพราะนั่นมันเป็นแค่ "การโกหกคำโตของนักการเมือง" ที่อยากได้อำนาจไว้ในมือ (เพื่อกระทำในบางสิ่ง-ผู้เขียน) และยังคิดอยู่เสมอว่า...ชาวบ้านโง่ ทั้งหลายทั้งปวงนั่นยังไม่นับรวม กรณี "ไทยซัมมิท อีสเทิร์น ซีบอร์ด ออโต้พาร์ท อินดัสตรี จำกัด" เลิกจ้างพนักงานถึง 260 คน ในช่วงเดือนธันวาคม 2549 เหตุเพราะพนักงานไปสมัครเป็นสมาชิกของสหภาพแรงงานฟอร์ดและมาสด้า และเกรงว่าจะทำให้พนักงานมีอำนาจต่อรองกับบริษัทมากขึ้น และช่วงเวลาดังกล่าวถือว่า นายธนาธรเข้ามาบริหารบริษัทแทนบิดาแล้ว เพราะเขาเข้ามากุมบังเหียนตั้งแต่ปี 2546 หรือกล่าวสั้น ๆ ก็ คือ ถือหางเสือมาแล้วกว่า 3 ปี...ก่อนจะตะเพิดพนักงานออก...เพราะกลัวมีอำนาจต่อรองกับตน

 

โดยรายละเอียดที่ "พิราบแรงงาน Labour's Voice"  ระบุไว้ คือ

 

ถลกหนัง"กระดุมฏีแสร้งเป็นไพร่-ผู้โอ่อวดสร้างรัฐสวัสดิการ"?แฉ"ซัมมิท โอโตฯ"เลิกจ้างรองปธ.สหภาพผู้เป็นปากเสียงพี่น้องแรงงาน อ้างคลาสสิกขาดทุน

ขอบคุณภาพ/ข้อเขียน : "พิราบแรงงาน Labour's Voice" `, The METTAD