กำนันมาเอง!!! ความหวัง"ปฏิรูปตำรวจ" ต้องเป็นที่ประจักษ์ กระทุ้งโครงสร้าง จี้ต้องไม่มีการย้ายข้ามห้วย!! (มีคลิป)

จากกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. ... ตามที่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เสนอ โดยมีฝ่ายคณะกรรมการกฤษฎีกา(คณะพิเศษ) 1.นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ประธาน 2. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี 3. นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกฎหมาย 4. นายอัชพร จารุจินดา ประธานกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม 5. นายสมชาย พงษธา กรรมการกฤษฎีกา 6. คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ อดีตเลขาธิการ ก.พ. 7. นายธานิศ เกศวพิทักษ์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) 8. นายเข็มชัย ชุติวงศ์ อัยการสูงสุด

 

 ส่วนฝ่ายกรรมการอื่นๆ คือ 9. พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ประธานกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) 10. นายประพันธ์ นัยโกวิท กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ 11. นายคำนูณ สิทธิสมาน กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกฎหมาย 12. นายอุดม รัฐอมฤต คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 13. พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) 14. นายศุภชัย ยาวะประภาษ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) 15. พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ 16. นายวรรณชัย บุญบำรุง รองเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา

 

 

ต่อมา เมื่อวันที่ 12 เม.ย.61 นายมีชัย  ได้กล่าวถึงแผนปฏิรูปตำรวจของคณะกรรมการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) ที่มี พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ เป็นประธาน ได้มีการทำแผนปฏิรูปดังกล่าวเป็นไปตามรัฐธรรมนูญกำหนดไว้หรือไม่ ว่า ตนยังไม่เห็น แต่ได้ยินเขาบอกว่า "ยังไม่ใช่" จึงตั้งคณะกรรมการขึ้นมาใหม่เพื่อพิจารณาอีกครั้ง โดยจะประชุมนัดแรกหลังสงกรานต์

เมื่อถามว่า คณะกรรมการชุดที่ตั้งขึ้นมาใหม่ สามารถปรับเปลี่ยนเนื้อหาในแผนปฏิรูปชุดของ พล.อ.บุญสร้าง ได้หรือไม่ นายมีชัย กล่าวว่า ทำได้และไม่จำเป็นต้องยึดแผนปฏิรูปดังกล่าว เพราะสามารถพูดคุยกันได้หากสิ่งที่ทำมาเป็นเรื่องดี

 

 

"ชุดปฏิรูปตำรวจที่ผ่านมาพบว่ายังมีความเกรงใจตำรวจอยู่ จึงจะต้องปรับแก้ไขใหม่ และมั่นใจว่าคณะกรรมการฯ ชุดของผมจะพิจารณาจากแก่นปัญหาอย่างแท้จริง โดยไม่เกรงใจใครและจะยึดรัฐธรรมนูญเป็นหลัก เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้ให้ความสำคัญในการปฏิรูป 2 เรื่อง คือ การศึกษาและตำรวจ" 

 

เมื่อถามว่า ตามรัฐธรรมนูญกำหนดให้ปฏิรูปตำรวจภายใน 1 ปี หากพ้นระยะเวลาดังกล่าว การแต่งตั้งโยกย้ายต้องยึดหลักอาวุโส ซึ่งขณะนี้ครบ 1 ปีแล้ว ดังนั้นต้องใช้ระบบอาวุโสหรือไม่ นายมีชัย กล่าวว่า ใช่ ถือว่าเข้าเกณฑ์เรียบร้อยแล้ว หากการแต่งตั้งไม่ใช่เกณฑ์นี้ สามารถฟ้องร้องได้เลย ทั้งนี้คาดว่ากฎหมายปฏิรูปตำรวจที่จะทำไม่ทันกับการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจในเดือน ต.ค.นี้ ฉะนั้นหลักการแต่งตั้งตำรวจจะต้องยึดลำดับอาวุโสตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด.

 

ล่าสุดเมื่อวันที่20 เม.ย.61 นายสุเทพ เทือกสุบรรณ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย และอดีตแกนนำคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ได้ออกมากล่าวถึง คณะกรรมการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติผ่านทางเฟสบุ๊คไลฟ์ มีเนื้อหาดังต่อไปนี้

 

อยากจะเชิญชวนพี่น้องประชาชน ให้ติดตามความเคลื่อนไหวของคณะกรรมการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ ตำรวจแห่งชาติซึ่งมีนายมีชัย ฤชุพันธุ์เป็นประธาน ก่อนหน้านี้ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการปฏิรูปประเทศกระบวนการยุติธรรมที่มี พลเอกบุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ เป็นประธาน   ทำงานอยู่เป็นเวลากว่าหนึ่งปี  ซึ่งได้ยกร่างพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติขึ้นเสนอคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมาและคณะรัฐมนตรีก็ได้มีมติแต่งตั้ง คณะกรรมาธิการผิพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ ฉบับนี้โดยมีนายมีชัยเป็นประธานมีผู้ทรงคุณวุฒิหลายท่านร่วมพิจารณา

 

นายสุเทพได้กล่าวด้วยว่า ..ตนได้ติดตามข่าวนี้ด้วยความสนใจมาโดยตลอดเมื่อวันที่ 12 เมษายนที่ผ่านมา นายมีชัยก็ได้แถลงกับผู้สื่อข่าวว่าได้ดูร่างพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติแล้ว เห็นว่าคงจะต้องมีการแก้ไขกันเป็นจำนวนมากทีเดียวเพื่อที่จะให้เกิดการปฏิรูป โครงสร้างระบบงานของตำรวจในประเทศ แล้วนายมีชัยก็บอกว่าหลังวันหยุดสงกรานค์ก็จะนัดประชุมคณะกรรมการ นัดแรกตามต้นได้ติดตามทราบว่าวันนี้ (20เม.ย.61) เวลาประมาณ 15-16.00น. ก็จะมีการประชุมคณะกรรมการชุดนี้เป็นครั้งแรก

 

 

 

 

ตนจึงขออนุญาตกราบเรียนเชิญพี่น้องทั้งหลายว่าโปรดติดตามความคืบหน้าของการทำงานของกรรมการพิจารณาร่างบัญญัติตำรวจแห่งชาติ และถ้าใครมีความคิดความเห็นก็สมควรที่จะได้เสนอความคิดความเห็นไปยังนายมีชัย ซึ่งจะได้ประเมินรวบรวมดูเหตุดูผลดูความต้องการของประชาชนว่าต้องการที่จะเห็นตำรวจในไทยเป็นอย่างไรช่วงการชุมนุมของ

 

 

 

ในช่วงการชุมนุมของกปปส.ในปี 2556- 2557เราได้ปรึกษาหารือกันระดมสมองประชาชนจากทุกภาคของประเทศ. เราเห็นว่าประเทศไทยจำเป็นต้องมีการปฏิรูป ในด้านต่างๆและต้องทำอย่างทันที การปฏิรูปตำรวจเป็นข้อเรียกร้องตามของพี่น้องประชาชนทุกฝ่ายตรงกันเจตนารมณ์ของประชาชนคืออยากเห็นตำรวจเป็นตำรวจมืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญความชำนาญในแต่ละเรื่องแต่ละด้านอย่างแท้จริงเพราะว่าในอดีตนั้นงานของตำรวจค่อนข้าง หลากหลายมีตั้งแต่ตำรวจสันติบาลตำรวจปราบยาเสพติดตำรวจท่องเที่ยวตำรวจสอบสวนกลางตำรวจป่าไม้ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองและสิ่งที่ประชาชนเห็นก็คือมีนายตำรวจจำนวนไม่น้อยเลยในชีวิตที่รับราชการเป็นตำรวจเดี๋ยวก็อยู่ป่าไม้เดี๋ยวก็อยู่ ทางหลวงเดี๋ยวก็อยู่ท่องเที่ยวเดี๋ยวก็อยู่ตรวจคนเข้าเมือง ทำให้ประชาชนเกิดความรู้สึกแล้วเขาจะเป็นมืออาชีพได้อย่างไรซึ่งนี่ก็เป็นประเด็นหนึ่ง

 

 

 

อีกประเด็นหนึ่งที่พี่น้องประชาชนเห็นกันทั่วไปก็คือว่าการที่มีการโยกย้ายแต่งตั้งหน่วยงานทำนองนี้เป็นที่มาเป็นต้นเหตุของการวิ่งเต้นเพื่อเลื่อนยศเลื่อนตำแหน่งและการวิ่งเต้นตรงนี้ที่กลายเป็นจุดอ่อนที่สำคัญของตำรวจประชาชนจึงเรียกร้องว่าขอให้ปฏิรูปตำรวจ ครั้งนี้ให้ได้โครงสร้างที่ทำให้ตำรวจเป็นตำรวจของประชาชนจริงๆโดยอยู่ใกล้ชิดประชาชนใกล้ชิดพื้นที่และไม่มีการโยกย้ายข้ามหน่วยงานกันใครเริ่มต้นรับราชการที่ไหนก็ทำราชการอยู่ที่นั่นเจริญเติบโตไปตามความรู้ความสามารถตามผลการปฏิบัติงาน และเกษียณอายุไปในส่วนนั้นนั้นของตำรวจ

 

 

 

พี่น้องประชาชนจำนวนมากได้แสดงความคิดเห็นว่าในแต่ละกองบัญชาการของตำรวจนั้นไม่ควรมีการโยกย้ายข้ามกองบัญชาการได้อย่างนี้เป็นต้นซึ่งสิ่งเหล่านี้ ยังมีรายละเอียดที่ต้องพูดกัน เพราะฉะนั้นพี่น้อง ตำรวจเองพี่น้องประชาชนที่ติดตามเรื่องราวของตำรวจก็ดีก็สมควรที่จะได้เสนอความคิดความเห็นไปยังคณะกรรมการพิจารณาพระราชบัญญัติตำรวจ เพื่อจะได้เขียนกฎหมายตำรวจออกมาให้มีโครงสร้างเป็นการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงปฏิรูปตำรวจเพื่อให้เป็นตำรวจของประชาชนเป็นตำรวจที่ประชาชนมั่นใจได้ว่าสามารถดูแลรักษากฎหมายและสามารถดูแลการอำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชนต้องสามารถคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สิน ของประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ท้ายสุดขอให้กำลังใจคณะกรรมการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ