ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร..!! อดีตพระเอกหมอลำ-นักแต่งเพลงชื่อดังตกอับ อาศัยข้าวก้นบาตรเลี้ยงลูก 2 คน แต่ไม่เคยท้อแท้กับโชคชะตา!? (ชมคลิป)

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 361 หมู่ 1 ตำบลขุมเงิน อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร ซึ่งเป็นบ้านพักของ สรภัญ โกสินทร์ อดีตพระเอกหมอลำ และนักแต่งเพลงชื่อดัง ของจังหวัดยโสธร สภาพบ้านเป็นบ้านไม้เก่าๆ หลังเล็กๆ ยกพื้นสูงหลังคามุงสังกะสี ตั้งอยู่ภายในสวนท้ายหมู่บ้านห่างจากชุมชนประมาณ 100 เมตร และได้พบกับ นายโกสินทร์ สุระษร อายุ 55 ปี หรือ สรภัญ โกสินทร์ อดีตพระเอกหมอลำชื่อดังของจังหวัดยโสธร ขณะที่กำลังหากับข้าวให้ลูกสาว 2 คน รับประทาน ซึ่ง นายโกสินทร์ สุระษร บอกว่า ปัจจุบันนี้ตนมีชีวิตที่ตกอับ อยู่ด้วยความยากลำบาก มีรายได้ที่ไม่แน่นอน เนื่องจากไม่ค่อยจะมีคนจ้างตนไปลำเหมือนแต่ก่อน เพราะอายุมากแล้ว จึงต้องออกหารับจ้างทั่วไป แล้วแต่ว่าจะมีใครว่าจ้าง เพื่อนำรายได้มาใช้จ่ายในครอบครัว และต้องอาศัยข้าวก้นบาตรของหลวงพ่อ วัดประจำหมู่บ้าน นำมาเลี้ยงดูลูกสาว 2 คน ซึ่งยังเล็ก และอยู่ในวัยเรียน คนเล็กอายุ 7 ขวบ ส่วนคนโตอายุ 10 ขวบ ปกติถ้าไม่มีงานลำ ตนก็จะอาศัยแต่งเพลงให้กับนักร้องหมอลำที่มีชื่อเสียงหลายคน

 

 

 

โดยจะคิดค่าแต่งเพลง ในราคาเพลงละ 5,000 บาท แต่ก็มีนักร้องหมอลำอีกหลายคน ที่ยังเบี้ยวค่าแต่งเพลง บางคนก็อ้างว่านำไปร้องแล้วไม่ดัง ก็เลยไม่อยากจะจ่ายเงิน จึงทำให้ตนขาดรายได้ไปด้วย เพราะตนไม่มีอาชีพอย่างอื่นอีก ที่นาก็ไม่มีที่ดินของตนเองก็ไม่มี แม้กระทั่งที่ดินที่ใช้ปลูกบ้านอยู่อาศัย อยู่ในขณะนี้ก็ยังเป็นที่สาธารณะ ตนเพียงขออยู่อาศัย และใช้พื้นที่บางส่วนปลูกผักสวนครัว และเลี้ยงไก่เอาไว้เป็นอาหารเท่านั้น รายได้ไม่แน่นอน บางวันแทบไม่มีรายได้เลย ส่วนญาติพี่น้องก็ต่างคนต่างมีครอบครัว และแยกย้ายกันไปประกอบอาชีพ เลี้ยงครอบครัวของตนเอง ส่วนตนก็นำลูกสาว 2 คน มาเลี้ยงดูอยู่ตามลำพัง

 

 

 

นายโกสินทร์ สุระษร เล่าว่า ตนเริ่มเป็นนักร้องหมอลำตั้งแต่อายุ 21 ปี เริ่มจากตั้งวงหมอลำเอง แต่ไม่โด่งดังมากนัก จึงไปเป็นนักร้องตามร้านอาหาร ในตัวเมืองยโสธร และเคยไปเป็นพระเอกให้กับหมอลำ คณะ ส.แสวงรวมดาว หมอลำเพลินชื่อดังของยโสธร อยู่ประมาณ 3-4 ปี ได้ค่าตัวไม่แน่นอนจึงกลับไปเป็นนักร้องตามร้านอาหารเช่นเดิม จนกระทั่งมีนายห้างเทปชื่อดังในสมัยนั้นมาพบเข้า จึงชักชวนไปสังกัดค่ายเทป ซึ่งเป็นค่ายเพลงที่ มีนักร้องซื่อดังหลายคน สังกัดอยู่ในสมัยนั้น และได้เป็นนักร้องในวงของจินตรา พูนลาภ ออกเดินสายร้องเพลงกับจินตราฯ ทั่วประเทศ พร้อมกับบันทึกแผ่นเสียงชุดแรก คือ ชุด นอนฝันในซุ้มฟาง เมื่อปี 2535 แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร อยู่กับค่ายเพลง ประมาณ 6 ปี จึงออกจากค่ายเพลงไปเป็นนักร้อง และเป็นพระเอกหมอลำ ให้กับคณะหมอลำซื่อดังที่จังหวัดอุบล ได้ค่าตัววันละ 2,500 บาท

 

 

ถือว่าได้ค่าตัวค่อนข้างแพงในขณะนั้น อยู่กับคณะหมอลำที่จังหวัดอุบล ประมาณ 17 ปี พอมีเก็บอยู่บ้างแต่ต่อมาได้มารู้จักกับแฟนหนุ่ม ซึ่งเป็นหมอลำด้วยกัน เพราะตนเป็นกระเทยจึงตัดสินใจไปอยู่กินกับแฟนหนุ่มทั้งๆ ที่แฟนหนุ่มของตนก็มีภรรยาอยู่แล้ว และออกจากวง ไปหารับจ้างร้องเพลงตามร้านอาหารทั่วไป แต่รายได้ก็ไม่แน่นอน จนกระทั่งเงินเก็บที่หามาเริ่มหมดลงไปเรื่อยๆ ประกอบกับแฟนหนุ่มป่วย และเสียชีวิตลงตนจึงได้นำลูกสาวของแฟนหนุ่ม 2 คน กลับมาเลี้ยงดูเหมือนลูกสาวของตนที่บ้านเกิด จนกระทั่งปัจจุบันนี้ ถ้ามีคนมาว่าจ้างให้ไปลำ ก็ไปส่วนค่าตัวแล้วแต่เขาจะให้เพราะไม่กล้าที่จะตั้งค่าตัวเอาไว้กลัวเขาจะไม่จ้าง และเวลาว่างก็จะแต่งเพลงขายให้กับนักร้องหมอลำทั่วไป ในราคาเพลงละ 5,000 บาท แต่บางครั้งก็ถูกเบี้ยวค่าแต่งเพลงขาดรายได้ไป นักร้องหมอลำที่มีชื่อเสียงที่ตนเคยแต่งเพลงให้มีรายคน ที่ประสบความสำเร็จ และมีหมอลำชิ่งอีกหลายคน เช่นเดียวกัน นายโกสินทร์ฯ ยังกล่าวฝากถึงนักร้องรุ่นหลังๆ ว่า ถ้าหากตนเองมีชื่อเสียงโด่งดังแล้ว ก็อย่างหลงตัวเอง และอย่างคิดว่าตัวเองเก่ง ให้อ่อนน้อมถ่อมตนเอาไว้ จะดีที่สุด ที่สำคัญขอให้มีสัจจะ อย่าลบหลู่หรือลืมบุญคุณครูบาอาจารย์ ที่เคยสั่งสอนเรามา จนทำให้เราโด่งดัง

 

 

ข่าว/ภาพ ไพรทูล บุญมา ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.ยโสธร