ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

พล.ต.ต. อังกูร คล้ายคลึง ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว 3 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำหมายศาลเข้าตรวจค้นโรงงานที่ บริษัท เนเจอร์ นิวทริ จำกัด  หมู่ที่ 11 ถนน พหลโยธิน ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ซึ่งเป็นบริษัทที่ถูกผู้ต้องหา อ้างว่าเป็นผู้รับจ้างผลิตสินค้าในเครือเมจิก สกิน 

พร้อมกันนี้ได้นำสื่อมวลชนดูของกลางผลิตภัณฑ์ในเครือบริษัทเมจิก สกิน จำกัด กว่า 100 ลัง พร้อมอุปกรณ์ผลิต และสมุดจดสูตรสินค้า ที่ผลิตสินค้าประเภทสกินแคร์ อาหารเสริมยี่ห้อดังหลายประเภท

โดย พล.ต.ต. อังกูร กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งผิดกฎหมาย เนื่องจากไม่ได้รับใบอนุญาต จาก อย. และกระบวนการผลิตเป็นการทำมือ ที่ทำเองโดยไม่ได้รับมาตรฐานไม่มีการรับรองจึงได้ยึดไว้เป็นของกลางทั้งหมด และในวันนี้จะลงพื้นที่ตรวจค้นบริษัทใหญ่ที่พบว่าเป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ไม่ได้มาตรฐานในเครือ บริษัท เมจิก สกิน จำกัด ทั้งหมด

ทั้งนี้คดีดังกล่าว มีผู้ต้องหาตามหมายจับทั้งหมด 8 ราย โดยสามารถควบคุมตัวได้แล้ว 6 ราย อีก 2 รายอยู่ระหว่างติดตามตัว สำหรับบริษัทเมจิก สกิน ผลิตสินค้าหลายยี่ห้อ ได้แก่ apple slim, slim milk, snow milk, Fern, เมจิก สกิน, ชิโนบิ, ตรีชฎา และ Mezzo

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ผู้ต้องหาจากบริษัทเมจิก สกิน ให้การว่า ผลิตอาหารเสริม 3 ตัว คือ แอปเปิ้ลสลิม, สลิมมิล และสโนวมิล ที่โรงงานแห่งนี้ แต่จากการตรวจค้นพบว่าในฉลากของผลิตภัณฑ์กลับเขียนแหล่งผลิตไม่ตรงกับความเป็นจริง ซึ่งเข้าข่ายสินค้าปลอม และเจ้าหน้าที่ไม่พบสินค้าทั้ง 3 ตัวดังกล่าว แต่กลับพบสินค้าอีกตัวหนึ่งชื่อ บีสโนว ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ในเครือบริษัทเมจิก สกิน เหมือนกัน อยู่ที่บริเวณด้านหลังของโกดัง แต่เขียนแหล่งผลิตว่าอยู่ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ดังนั้นจึงต้องตรวจสอบอีกทีว่าผลิตที่ใดกันแน่

นอกจากนี้ ยัพบสินค้าอีกตัวชื่อ อเล็กซ์ ซึ่งแม้จะมีเลข อย. ถูกต้อง และแหล่งผลิตถูกต้อง แต่พบว่าส่วนประกอบบนฉลากกลับไม่เรียงตามกฏหมายกำหนด จึงถือว่าฉลากผิด มีโทษปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาท และล่าสุดมีรายงานว่าตำรวจพบเอกสารเกี่ยวกับการสั่งผลิตผลิตภัณฑ์ 1 ใน 3 ตัวหลัก ที่ต้องการตรวจสอบแล้ว

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับผิดชอบคดีนี้ ยังไม่มีรายงานกำหนดเวลาว่าจะเรียกดารา หรือเน็ตไอดอล ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเข้าให้ปากคำเมื่อใด ซึ่งจากกรณีมีการนำเสนอข่าวเกี่ยวกับชื่อของดารา–เน็ตไอดอลนั้น ตำรวจเปิดเผยว่า ยังไม่มีความชัดเจนในประเด็นนี้ และอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียดว่าเข้าข่ายสมรู้ร่วมคิดกับเจ้าของผลิตภัณฑ์หรือไม่ โดยอาจต้องใช้เวลาอีกระยะ