ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

ผู้เสียหายถูกหลอกสั่งตัดเครื่องแบบตำรวจกว่าหกพันชุด สุดทน ตัดสินใจบุกถึงบ้านของนายทหารยศพันตรีที่รับโควตาตัดชุดพร้อมเงินมัดจำไปแล้วกว่าห้าล้านบาท แต่ยังไม่ยอมส่งมอบชุดตามกำหนด เพื่อทวงถามความคืบหน้าและแนวทางการชดใช้ หลังเข้าแจ้งความตำรวจกองปราบแล้วแต่คดียังไม่คืบ 
พันตำรวจตรีวุฒิพงษ์ มหากิจศิริ พร้อมด้วยกลุ่มผู้เสียหายที่ถูกหลอกให้สั่งตัดชุดเครื่องแบบนายตำรวจ จำนวนกว่า 6,000 ชุด ผ่านทางนายทหารยศพันตรี ตำแหน่งนายทหารฝ่ายยุทธการ สังกัดกองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ ตัดสินใจรวมตัวกันเดินทางมายังบ้านพักหลังหนึ่งที่เปิดเป็นร้านตัดเย็บเครื่องแบบทหารและตำรวจ ภายในกองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ เพื่อทวงถามความคืบหน้าในการชำระเงินคืน รวมถึงสอบถามข้อเท็จจริงถึงกรณีที่เจ้าของร้านดังกล่าว อ้างว่ามีโควตา ผ้า กากี สนว 01 ในโควตากว่าหนึ่งแสนหลา พร้อมที่จะตัดชุดเครื่องแบบข้าราชการตำรวจให้กับบรรดาข้าราชการตำรวจที่หลงเชื่อว่ามีจริงหรือไม่ โดยเมื่อเดินทางมาถึง กลุ่มผู้เสียหายได้ไปตะโกนเรียกนายทหารยศพันตรีและภรรยา ที่เป็นเจ้าของร้านถึงบริเวณหน้าประตูร้าน

 

 

กลุ่มผู้เสียหายสุดทน บุกถึงบ้านนายทหารยศพันตรีผู้รับเหมาถึงในค่าย หลังถูกหลอกให้สั่งตัดชุดเครื่องแบบนายตำรวจ กว่า 6,000 ชุด  (คลิป)

 

 

แต่ทางเจ้าของร้านไม่ยอมออกมาพบ โดยให้พนักงานออกมาบอกว่าเจ้าของไม่อยู่และปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดใดๆ ทำให้ทางกลุ่มผู้เสียหายตัดสินใจเฝ้ารอประมาณหนึ่งชั่วโมง ก่อนจะเดินทางกลับพร้อมประกาศว่าจะมารวมตัวกันอีก จนกว่าจะได้รับคำตอบจากทางเจ้าของร้าน โดยพันตำรวจตรีวุฒิพงษ์ มหากิจศิริ ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้เสียหายกล่าวว่า เมื่อช่วงปลายเดือนธันวาคม ปี2560 นายทหารยศพันตรีคนดังกล่าว ซึ่งเป็นนักเรียนนายร้อยรุ่นเดียวกันกับตน ได้ประสานมาที่ตน เพื่อให้รับโควตาสั่งตัดชุดเครื่องแบบข้าราชการตำรวจจากเพื่อนตำรวจที่รู้จัก โดยนายทหารยศพันตรีคนดังกล่าวได้อ้างว่า ตัวเองมีโควตาผ้ากากี สนว01 อยู่ถึงแสนหลา และยังมีกำลังช่างตัดเย็บ ซึ่งเป็นบรรดาแม่บ้านของทหารในกองพลทหารราบที่ 9 กว่า 200 ราย มีกำลังการตัดเย็บเครื่องแบบได้เดือนละมากกว่า7,000ชุด แถมยังตัดเย็บได้คุณภาพเท่ากับร้านดังในกรุงเทพฯ แต่คิดราคาเพียงชุดละ 1,800 บาท ซึ่งถูกกว่าร้านในกรุงเทพฯที่คิดราคาชุดละ 2,500 บาท ซึ่งด้วยความไว้ใจ ทำให้ตนหลงเชื่อและได้เดินทางไปรับโควตาจากสถานีตำรวจต่างๆทั่วประเทศ ทั้งสถานีตำรวจนครบาลและสถานีตำรวจภูธรหลายร้อยสถานี รวมชุดที่มีการสั่งตัดเข้ามามากกว่า6,000ชุด พร้อมได้เรียกเก็บเงินมัดจำส่งให้กับนายทหารยศพันตรีคนดังกล่าวเป็นเงินเกือบห้าล้านบาท โดยตนมีหลักฐานเป็นสลิปโอนเงินทั้งหมด

 

 

กลุ่มผู้เสียหายสุดทน บุกถึงบ้านนายทหารยศพันตรีผู้รับเหมาถึงในค่าย หลังถูกหลอกให้สั่งตัดชุดเครื่องแบบนายตำรวจ กว่า 6,000 ชุด  (คลิป)

 

 

 แต่ปรากฏว่า เมื่อถึงเวลาที่จะต้องส่งมอบชุดจำนวนกว่า 6,000 ชุด ตามที่ตกลงกันไว้ ปรากฏว่า ทางนายทหารยศพันตรีคนดังกล่าว กลับนำเอาเคื่องแบบมาส่งได้เพียงไม่กี่ร้อยชุด แถมชุดที่ส่งมาก็เป็นชุดที่ไม่ใช่ผ้ากากี สนว01 ตามที่กำหนด อีกทั้งชุดที่จัดมาก็ไม่ได้มาตรฐานผิดรูปทรงตามที่ได้วัดตัวกันไว้ ทำให้ตนซึ่งเป็นผู้ที่รับโควตามา ถูกตำรวจที่สั่งชุดและจ่ายเงินมัดจำมาแล้วรุมต่อว่าและเรียกขอเงินคืน เมื่อตนติดตามทวงถามมายังนายทหารคนดังกล่าวก็ได้รับคำตอบว่ากำลังดำเนินการ อีกทั้ง นายทหารคนดังกล่าวยังได้ไปบอกข้าราชการตำรวจที่ได้รับชุดเครื่องแบบไม่ตรงกำหนดว่าเป็นเพราะตนส่งขนาดเครื่องแบบช้า ซึ่งก็ไม่เป็นความจริงและทำให้ตนเสียหาย หลังเกิดเรื่องขึ้น ตนตัดสินใจเข้าแจ้งความกับทางตำรวจกองปราบ เพื่อดำเนินคดีกับนายทหารยศพันตรีคนดังกล่าว ในข้อหาฉ้อโกงและปิดบังข้อเท็จจริง ข้อหาปิดบังแหล่งที่มาของสินค้า และข้อหาหมิ่นประมาท แต่หลังทางตำรวจกองปราบรับแจ้งความไว้ คดีก็ยังไม่มีความคืบหน้าและตนก็ถูกลูกค้าติดตามทวงถามและขอเงินคืนจำนวนหลายราย จนตนต้องใช้เงินส่วนตัวโอนคืนให้กับข้าราชการตำรวจที่สั่งชุดไปแล้วหลายรายเป็นเงินมากกว่าหนึ่งล้านบาท ตนจึงตัดสินใจเดินทางมาขอคำชี้แจงและสอบถามกับนายทหารยศพันตรีคนดังกล่าว แต่ในเมื่อนายทหารคนดังกล่าวและภรรยา ไม่ยอมออกมาพูดคุย ตนก็จะเดินทางมาอีกจนกว่าจะได้รับคำตอบ รวมถึงได้รับการชดใช้ที่เหมาะสม

 

 

กลุ่มผู้เสียหายสุดทน บุกถึงบ้านนายทหารยศพันตรีผู้รับเหมาถึงในค่าย หลังถูกหลอกให้สั่งตัดชุดเครื่องแบบนายตำรวจ กว่า 6,000 ชุด  (คลิป)

 

 

ข่าวภาพ/วันชัย แก้ววิลัย    สำนักข่าวทีนิวส์ กาญจนบุรี