- 24 เม.ย. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
วันนี้ 24 เม.ย. 61 ศูนย์วิทยุ 191 ตำรวจภูธรอ่างทอง ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือจากประชาชน ว่าพบเห็นงูเหลือมขนาดใหญ่ได้เลื้อยเข้าไปในใต้ฝากระโปรงรถยนต์กระบะ บริเวณบ้านเลขที่ 114 หมู่ที่ 2 ตำบลคลองขนาก อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง หลังได้รับแจ้งจึงประสานไปยังอาสามูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง รีบรุดไปตรวจสอบ และช่วยเหลือดำเนินการจับงูเหลือมที่หลบซ่อนอยู่ในรถกระบะ
ในที่เกิดเหตุพบรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ แบบแค๊ป รุ่นไฮแลนเดอร์ สีดำ หมายเลขทะเบียน บฉ 1150 อ่างทอง จอดอยู่หน้าบ้านซึ่งเปิดเป็นร้านขายหมูสดอนามัย พบ นาย เรือง แก้ววิเศษ อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20 หมู่ที่ 5 ตำบลบางจัก อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง เจ้าของรถกระบะ ที่กำลังยืนรอเจ้าหน้าที่อยู่ จากการสอบถาม นาย เรือง เล่าให้ฟังว่า ตนเองหลังจากขับรถไปซื้อสุรา ได้นำมาจอดไว้บริเวณหน้าบ้านดังกล่าว โดยเข้าไปนั่งดื่มสุราในบ้านกับหลานชาย ระหว่างนั้นหลานชายได้สังเกตเห็นว่ามีงูเหลือมขนาดใหญ่เลื้อยเข้าไปบริเวณใต้ท้องรถคันดังกล่าว จากนั้นหลานชายได้เดินเข้าไปเปิดที่ฝากระโปรงรถดู เมื่อเปิดออกมาถึงกับผงะตกใจอย่างสุดขีด เมื่อพบเจ้างูเหลือมตัวขนาดใหญ่นอนขดตัวอยู่ในห้องเครื่อง แล้วงูเหลือมได้เลื้อยหนีเข้าไปในซุ้มล้อหลังด้านขวา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยได้ใช้อุปกรณ์การจับงูและตะขอพยายามเกี่ยวออกมา แต่งูเหลือมก็ยังหลบซ่อนไม่ยอมให้จับง่าย ๆ หลังพบหัวงูเหลือมทางเจ้าหน้าที่จึงได้ใช้ เชือกคล้องใบที่หัวงู และทำการช่วยกันดึงเอามาด้วยความยากลำบาก เนื่องจากซุ้มล้อมีความแคบ งูเหลือมมีขนาดใหญ่ มีน้ำหนักมาก และมีแรงมาก จนสามารถจับออกมาได้ โดยใช้เวลาในการจับกว่าครึ่งชั่วโมง
ด้าน นาย จักรพันธ์ สุดเฉลียว อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่114 หมู่ที่ 2 ตำบลคลองขนาก อำเภอวิเศษชัยชาญ หลานชายเจ้าของรถ กล่าวว่า ระหว่างที่กำลังนั่งดื่มสุราอยู่ในบ้าน ตนเองสังเกตเห็นงูเหลือมขนาดใหญ่เลื้อยเข้าไปใต้ท้องรถ จึงเดินไปเปิดฝากระโปรงดูถึงกับผงะแทบหงายท้อง เมื่อพบงูเหลือมเลื้อยขึ้นมานอนขดตัวอยู่ในห้องเครื่อง ส่วนทางด้าน นาย พินิจ ศรีโสภา อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง กล่าวว่า ตนเองได้รับการประสานจากศูนย์วิทยุ 191 ตำรวจภูธรจังหวัดอ่างทอง ให้มาจับงูที่เข้าไปซ่อนตัวอยู่ในรถกระบะ จึงเดินทางมาให้การช่วยเหลือ หลังจากจับงูเหลือมขนาดใหญ่ออกมาได้แล้ว วัดขนาดความยาวได้ประมาณ 4 เมตร มีน้ำหนักกว่า 10 กิโลกรัม จึงนำใส่ถุงกระสอบที่เตรียมมา เพื่อเตรียมไปปล่อยคืนสู่ตามธรรมชาติในที่ปลอดภัยต่อไป
ภาพ/ข่าว ศุภเสกข์ แสงตระการ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.อ่างทอง