พี่วอนขอความเป็นธรรมให้น้องสาว ถูกกระบะตีนผีซิ่งชน เพื่อนน้องตาย น้องนอนเจ็บร่วม 3 เดือนยังช่วยตัวเองไม่ได้ คู่กรณียกภูเขามาอ้าง..จะไม่ช่วย

 วันที่ 25 เมษายน  2561 ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องร้องเรียนจากสองพี่น้องผู้เสียหายร้องขอความเป็นธรรมให้แก่น้องสาวและครอบครัวเหตุน้องสาวถูกรถกระบะพุ่งชนขณะขับรถจักรยานยนต์หางานในเส้นทางนิคมอุตสาหกรรมอมตะชิตี้ จ.ระยอง กับเพื่อนสาวจนเป็นเหตุให้เพื่อนสาวต้องเสียชีวิตและน้องสาวต้องบาดเจ็บสาหัสจนไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ซ้ำหนักคู่กรณีมีท่าทีบ่ายเบี่ยงที่จะไม่รับผิดชอบไม่มีการเข้ามาเยียวยาโทรไปทวงถามก็ไม่รับสายอ้างเหตุผลไม่มีเงินหยิบยื่นเพียงน้อยนิดค่าแพมเพิสเพียง500บาท พี่สาวและพี่ชายตัดพ้อชีวิตครอบครัวพังต้องออกจากงานทั้งคู่เพื่อมาดูแลน้องสาวคนเล็กทีนอนเจ็บร่วม 3 เดือนโดยคู่กรณีไม่คิดที่จะยื่นมือเข้าช่วยเหลือหลังจากเกิดเหตุอ้างเหตุผลต่างๆนาๆปัดความรับผิดชอบ

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเช่าแห่งหนึ่งบริเวณ เชื่อมไมตรี ตั้งอยู่ที่ ต.บ่อวิน  อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี จากที่ได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหายจึงได้พบกับ น.ส.สมปอง ปรืองาม อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 166 ม.1 ต.หนองทอง อ.ไทรงาม จ.กำแพงเพชร นอนเจ็บอยู่บนเตียงภายในห้องเช่าดังกล่าวลักษณะไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้และไม่สามารถที่จะพูดได้  และได้พบกับ  นาย บุญเริง ปรืองาม และ น.ส.ละออง ปรืองาม  ผู้เป็นพี่ชายและพี่สาว ของ น.ส.สมปอง  ที่คอยดูแลผู้บาดเจ็บผู้เป็นน้องสาวคนดังกล่าว โดยผู้เป็นพี่ชายและพี่สาว ของ น.ส.สมปองผู้บาดเจ็บได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าตนได้ทราบข่าวที่น้องสาวและเพื่อนสาวได้รับอุบัติเหตุถูกรถกระบะขับพุ่งชนขณะขับรถจักรยานยนต์หางานจนได้รับบาดเจ็บสาหัสและเพื่อนสาวที่มาด้วยกันเสียชีวิตจากเฟสบุ๊ก ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2561 ที่ผ่านมาพวกตนจึงรีบเดินทางมจาก จ.กำแพงเพชร มายัง จ.ชลบุรี และได้เดินทางไปดูอาการน้องสาวที่โรงพยาบาลพญาไท ศรีราชา อย่างโดยด่วนพบอาการน้องสาวขั้นสาหัสเลือดออกเต็มร่างกาย  ภายหลังพวกตนจึงได้ติดต่อไปยังคู่กรณีให้เข้ามายื่นมือเข้าช่วยเหลือน้องสาวของพวกตนในด้านค่าใช้จ่ายต่างๆของน้องสาวแต่ถูกปัดความรับผิดชอบหยิบยื่นให้เพียง 500 บาทซึ่งมันไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายของน้องสาวในแต่ละเดือน

 

 

 

 

 

 

 

 

  พี่ชายและพี่สาว ของ น.ส.สมปอ ยังกล่าวอีกว่าชีวิตครอบครัวของพวกตนกำลังจะพังแล้วเพราะได้ลาออกจากงานกันทั้งคู่เพื่อที่จะต้องมาดูแลผู้เป็นน้องสาวคนสุดท้องและน้องสาวก็ยังเป็นเสาหลักของครอบครัวอีกด้วยตอนนี้ต้องมาล้มป่วยลงเพราะได้รับอุบัติเหตุถูกรถชนจนไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ยิ่งสร้างความเดือดร้อนหนักเข้าไปอีกเพราะไม่มีรายได้เข้ามาจนต้องตัดสินใจนำสร้อยคอทองคำที่มีอยู่ไปขายเพื่อนำเงินมาดูแลรักษาน้องสาวที่นอนเจ็บร่วม3เดือนและจ่ายค่าห้องเช่าอีกในทุกๆเดือนเพราะไม่มีรายได้เข้ามาเพราะพวกตนก็ไม่ได้ทำงานแล้วจึงสร้างความทุกข์ยากเพิ่มเป็นทวีคูณเข้าไปอีกซ้ำร้องขอคู่กรณีให้มาช่วยอ้างไม่มีเงินอย่างเดียวจึงต้องร้องขอความเป็นธรรมผ่านสื่อมาดังกล่าว

 ทางด้าน  นายอนุพงษ์  พลเมืองดีได้ยื่นมืออาสาเข้ามาช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียหายดังกล่าวได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวไว้ว่าตนได้นำเรื่องราวความทุกยากของครอบครัวผู้เสียหายไปโพสต์ลงในกลุ่มเฟสบุ๊กที่ชื่อว่า “ชุมชนคนรักบ่อวิน” โดยวอนขอผู้มีจิตศรัทธาในกลุ่มช่วยบริจาคสิ่งของเครื่องใช้ หรือจะเป็นเงินก็ได้และก็ได้มีผู้ใจบุญยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือบริจาคสิ่งของและบริจาคเป็นเงินเป็นจำนวนมากซึ่งเป็นการช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียหายดังกล่าวแค่เบื้องต้นเพียงเท่านั้น

  นายอนุพงษ์ พลเมืองดี ยังกล่าวอีกว่าตนได้ทราบเรื่องดังกล่าวมาจากผู้บาดเจ็บซึ่งก็ได้เป็นเพื่อนกันมาก่อนจึงยื่นมือเข้ามาช่วยเหลืออย่างเต็มที่โดยได้ติดตามหาหลักฐานทั้งภาพจากกล้องวงจรปิดในบริเวณที่เกิดเหตุและพยานบุคคล สืบทราบภายหลังจึงได้ทราบว่ารถคันก่อเหตุดังกล่าวคือรถกระบะยี่ห้อ เชฟโรเลต สีขาว4ประตู หมายเลขทะบียน ขษ-8034 ชลบุรี โดยมี นาย มงคลชัย แสนเกลี้ยวเป็นผู้ขับขี่ ได้ขับรถพุ่งชน รถจักรยานยนต์ของ น.ส.สมปอง ปรืองาม  บาดเจ็บสาหัสและ น.ส. พรรณิดา เลื้อยเป็น อายุ24ปี ที่มาด้วยกันเสียชีวิต บริเวณที่เกิดเหตุหน้าบึงประดิษฐ์ นิคมอุตสาหกรรมอมตะชิตี้ ระยอง ม6. ต.มาบยางพร อ.ปลวกแดง จ.ระยอง วันเวลาที่เกิดเหตุ วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา 11.00น. หลังจากเกิดเหตุ  นาย มงคลชัย ได้ขับรถหลบหนีไปกว่า 4 กิโลเมตรสุดท้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจและพลเมืองดีไล่ติดตามได้ทัน จากการบอกเล่าจากผู้ที่เห็นเหตุการณ์ ว่า นาย มงคลชัย ได้ขับขี่มาด้วยความเร็วจึงเป็นเหตุให้เบรคไม่ทันจึงพุ่งชนเข้ากับรถจักรยายนต์คันดังกล่าวจนเป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต

 

 

 

 

 

 

   ด้าน พี่ชายและพี่สาว ของ น.ส.สมปอ จึงวอนขอความเป็นธรรมให้แก่ครอบครัวของตนส่วนในเรื่องเรื่องคดีความนั้นพวกต้นได้เดินทางเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.ปลวกแดง จ.ระยองไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และจึงอยากวอนขอจากผู้ใจบุญหากต้องการช่วยเหลือพวกตนก็สามารถบริจาคสิ่งของเครื่องใช้ หรือนมผง แพมเพิส  เพราะจะต้องใช้เยอะมากเพราะพวกตนขัดสนเรื่องเงินทองเป็นอย่างมาก เพราะระยะเวลาร่วมจะ 3 เดือนคู่กรณีไม่มาสนใจหรือเยียวยาอะไรเลย สามารถโทรสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 089-0153521

 

 

 

 

 

 

 

 

ภาพ/ข่าว สิงห์ทอง นามมาลา   สำนักข่าวทีนิวส์   จ.ชลบุรี