ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร!!! เปิดปมในใจ “แพท ณปภา” ที่ต้องเผชิญกับความทุกข์ อย่างไม่รู้จบ! ตั้งแต่ก้าวเข้าสู่วงการมายา !! (รายละเอียด)

     

   

        บอกได้เลยว่าหลายคนที่ได้ติดตามข่าวของนักแสดงและพิธีกรสาว “แพท ณปภา ตันตระกูล” จะทราบดีว่าชีวิตเธอคนนี้ยิ่งกว่าละคร เพราะต้องเผชิญกับความทุกข์อย่างไม่รู้จบ ตั้งแต่ถูกพ่อแท้ๆ ฟ้อง มีแม่ป่วยเป็นอัลไซเมอร์ มีพี่สาวพิการ และล่าสุดสามีต้องคดี แต่เธอก็ยังคงเข้มแข็งและก้าวข้ามผ่านความทุกข์ ผ่านช่วงเวลาที่เจ็บปวดมาได้

โดย “แพท ณปภา” เล่าว่า "ตั้งแต่เข้าวงการก็เป็นข่าวมาตลอด อย่างเรื่องศัลยกรรม  ไปฉีดโบท็อกซ์กับฉีดสลายไขมัน ซึ่งพอศัลยกรรมจริงๆ ได้ทำตาทำจมูก กลับไม่มีใครถาม เรื่องโดนพ่อแท้ๆ ตัวเองฟ้อง คือพ่อกับแม่แยกทางกัน พ่อก็ไปมีครอบครัวใหม่ แพทก็ไม่ได้ติดต่อกับพ่อ กลายเป็นว่าพ่อฟ้องเรื่องไม่ส่งค่าเลี้ยงดู  แล้วก็มาเรื่องที่ทุกคนรู้ดีคือแม่ของแพทป่วยเป็นอัลไซเมอร์ ต่อมาก็เป็นข่าวอีกว่าท้องก่อนแต่งแต่ละข่าวแรงๆ ทั้งนั้น"

 

 

"มันก็ทำให้ชีวิตลำบากขึ้นแน่นอน แต่ที่หนักที่สุดก็คือ สามีต้องคดีพัวพันกับยาเสพติด เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ต้องขึ้นโรงขึ้นศาลทั้งที่อีก 10 วันถึงกำหนดคลอด มีนักข่าวแห่มาหน้าบ้านทุกวัน ช่วงนั้นเครียดมาก กระแสสังคมก็แรง มีข่าวทุกวัน เพราะทุกคนโฟกัสมาที่ตัวแพทว่ามีส่วนเกี่ยวข้องไหม"

"พอคลอดลูกก็ต้องทำหน้าที่แม่ ช่วงนั้นพูดตรงๆ ว่าหนักมาก แต่แพทก็เข้าใจว่าเราเป็นดาราซึ่งเป็นคนที่ทุกคนให้ความสนใจ เวลาตอบคำถามนักข่าวแพทไม่อายที่จะตอบคำถามนะ เพราะคิดว่าถ้าวันนี้เลี่ยงไม่ตอบหรือโกหก หรือตอบไม่ตรงประเด็น แพทจะต้องตอบแบบนี้อีกครั้ง แล้วสุดท้ายก็ต้องโดนแฉ สู้วันนี้เราตอบความจริงเท่าที่ตอบได้ดีกว่า"

 

 

"ตอนนี้ชีวิตเริ่มจะสบายขึ้นหน่อย ส่วนเรื่องงานช่วงแรกๆ ที่มีข่าวในใจแอบหวั่น เพราะการที่สามีโดนจับมันส่งผลถึงภาพลักษณ์ตัวแพทด้วย แพทเป็นพรีเซนเตอร์สินค้ามาแล้ว 4 ปี กำลังจะขึ้นปีที่ 5 ก็แอบทำใจไว้ส่วนหนึ่งว่าอาจไม่ได้ต่อสัญญา ก็บอกกับเจ้าของสินค้าไปตรงๆว่า ไม่จ้างก็ไม่ติดอะไรเลย แพทเข้าใจ แต่โชคดีที่แบรนด์ต่อสัญญา"

"ล่าสุดเมื่อปลายเดือนมีนาคมเป็นวันเยี่ยมญาติ ก็พาลูกเข้าไปหาพ่อในห้องกักตัว เป็นครั้งแรกที่พ่อแม่ลูกได้พบหน้าใกล้ชิดกัน  พ่ออุ้มลูกแบบไม่ยอมปล่อย และพูดกับลูกว่า อย่าดื้อกับแม่นะ (ยิ้ม) เราเห็นภาพนี้แล้วมีความสุขแบบบอกไม่ถูก ถึงเวลาที่ได้เจอจะไม่เยอะแต่มันอิ่มใจมากจริงๆ"

 

.

.

.

.

ขอขอบคุณ : pat_napapa , sanook