พลอากาศเอก ประจินฯ รองนายกรัฐมนตรี แถลงความสำเร็จผลการดำเนินงานโครงการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของนักเรียนในโรงเรียนที่ด้อยโอกาส

พลอากาศเอก ประจินฯ รองนายกรัฐมนตรี แถลงความสำเร็จผลการดำเนินงานโครงการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของนักเรียนในโรงเรียนที่ด้อยโอกาส

พลอากาศเอก ประจินฯ รองนายกรัฐมนตรี แถลงความสำเร็จผลการดำเนินงานโครงการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของนักเรียนในโรงเรียนที่ด้อยโอกาส ยืนยันจะพัฒนาเด็กและเยาวชนของชาติต่อไป

พลอากาศเอก ประจินฯ รองนายกรัฐมนตรี แถลงความสำเร็จผลการดำเนินงานโครงการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของนักเรียนในโรงเรียนที่ด้อยโอกาส ยืนยันจะพัฒนาเด็กและเยาวชนของชาติต่อไป พร้อมมอบโล่ และเกียรติบัตรแก่ผู้สนับสนุนโครงการฯ

 

         วันนี้ (26 เม.ย.61) เวลา 09.00 น. ณ ตึกสันติไมตรีหลังนอก ทำเนียบรัฐบาล พลอากาศเอก ประจิน  จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธีแถลงข่าวพร้อมมอบโล่ และเกียรติบัตรแก่ผู้สนับสนุนโครงการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของนักเรียนในโรงเรียนที่ด้อยโอกาส ปี 2560 โดยมี หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสื่อมวลชนเข้าร่วมงาน

 

          โครงการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของนักเรียนในโรงเรียนที่ด้อยโอกาส เป็นความริเริ่มของสำนักงานรองนายกรัฐมนตรี (พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง) เพื่อสืบสานแนวทางประชารัฐ และเพื่อต้องการพัฒนาโรงเรียนให้มีโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสม นักเรียนมีคุณภาพชีวิต สุขภาพกายและใจที่ดีขึ้น มีจิตสาธารณะ รวมทั้งเป็นการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงระบบการศึกษาด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่และการมีส่วนร่วมในการเสริมสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

 

        โครงการนี้ได้เริ่มต้นในปี 2559 มีโรงเรียนที่ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 14 โรงเรียนใน 11 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชุมพร อ่างทอง น่าน เชียงราย ปราจีนบุรี ตาก สุรินทร์ พะเยา พังงา กาฬสินธุ์ และอำนาจเจริญ โดยมีหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนจำนวนหนึ่ง ได้แสดงความจำนงขอเป็นเจ้าภาพหลักในการเข้ามาดูแลสนับสนุน และในปี 2560 ได้มีการดำเนินโครงการฯ ต่อเนื่องอีก 18 โรงเรียน ใน 14 จังหวัดได้แก่ ปทุมธานี นครพนม พิจิตร อุตรดิตถ์ อุดรธานี เลย ลำพูน ลำปาง บึงกาฬ มุกดาหาร พิษณุโลก หนองบัวลำภู หนองคาย และสกลนคร รวมในปัจจุบันโครงการนี้มีหน่วยงานต่าง ๆ เข้าร่วมให้การสนับสนุนรวม 32 โรงเรียน ในพื้นที่ 25 จังหวัดทั่วประเทศ

 

          ผลการดำเนินโครงการฯ ที่ผ่านมาในรอบ 2 ปี  (2559 - 2560) มีโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการฯ สามารถพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสมมากขึ้น และมีการปรับปรุงระบบไฟฟ้าแสงสว่างเป็นระบบประหยัดพลังงานทำให้ประหยัดค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจากเดิม ขณะที่อาคารเรียนอยู่ในสภาพแข็งแรงและปลอดภัยมากขึ้น นักเรียนได้รับโภชนาการที่ถูกสุขลักษณะ มีสื่อดิจิทัลเพื่อการเรียนรู้ที่หลากหลาย สามารถพัฒนาทักษะความรู้และใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ นอกจากนี้ ยังมีสถานที่ออกกำลังกายที่เหมาะสม และมีกาปรับปรุงระบบน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภค ที่สะอาดและปลอดภัยด้วย


พลอากาศเอก ประจินฯ รองนายกรัฐมนตรี แถลงความสำเร็จผลการดำเนินงานโครงการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของนักเรียนในโรงเรียนที่ด้อยโอกาส

          โอกาสนี้ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้กล่าวขอบคุณหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ที่เข้ามาร่วมโครงการฯ สรุปว่า จากนโยบายประชารัฐของรัฐบาล ได้ร่วมมือกับหน่วยงานและบริษัทต่าง ๆ ที่มีกำลัง ศักยภาพ และจิตสาธารณะจำนวนกว่า 40 บริษัท ดำเนินงานโครงการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของนักเรียนในโรงเรียนที่ด้อยโอกาส ซึ่งได้ดำเนินการมาเป็นปีที่ 2 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของโรงเรียนให้มีความเหมาะสมมีหลักโภชนาการที่ดี มีการเสริมสร้างสุขภาพอนามัย พัฒนาระบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อการศึกษา รวมทั้งมุ่งเน้นให้เกิดสภาพแวดล้อมและบรรยากาศที่ดีต่อการใช้ชีวิตของนักเรียนในโรงเรียน โดยกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้แก่ โรงเรียนในระดับหมู่บ้านหรือตำบลที่มีชั้นเรียนตั้งแต่ระดับประถมศึกษาถึงมัธยมศึกษาตอนต้น ในการคัดเลือกโรงเรียนเข้าร่วมโครงการฯ หน่วยงานหรือบริษัทที่เป็นเจ้าภาพหลักสามารถพิจารณาเลือกโรงเรียนได้ด้วยตนเอง หรือให้จังหวัดเป็นผู้พิจารณาคัดเลือกให้ในเบื้องต้น ซึ่งได้รับความร่วมมือจากผู้ว่าราชการจังหวัดในการพิจารณาเสนอรายชื่อโรงเรียนที่เหมาะสมจังหวัดละ 3 แห่ง และเจ้าภาพหลักที่รับผิดชอบแต่ละจังหวัดเป็นผู้พิจารณาคัดเลือกให้เหลืออย่างน้อยจังหวัดละ 4  แห่ง โดยใน 2  ปีที่ ผ่านมาได้ดำเนินงานไปแล้ว 32 โรงเรียน ใน 25 จังหวัด

 

          ตอนท้าย รองนากยกรัฐมนตรีฯ ได้กล่าวขอขอบคุณหน่วยงานภาครัฐ มูลนิธิ ชมรม รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน บริษัทห้างร้านต่าง ๆ ที่ได้ร่วมมือร่วมใจกันดำเนินโครงการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของนักเรียนในโรงเรียนที่ด้อยโอกาส สืบสานแนวทางประชารัฐ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งแก่โรงเรียนและชุมชนในพื้นที่ รวมถึงเป็นแบบอย่างเพื่อการขยายผลให้แก่โรงเรียนอื่น ๆ ทั่วประเทศและขอเชิญชวนหน่วยงาน บริษัท ห้างร้านทุกภาคส่วนเข้าร่วมโครงการในปี 2561 เพื่อสร้างความร่วมมือ ร่วมใจ พัฒนาเด็กและเยาวชนที่จะเป็นกำลังสำคัญของชาติสืบต่อไป

 

          จากนั้น รองนายกรัฐมนตรี ได้มอบโล่และเกียรติบัตรให้แก่ผู้ให้การสนับสนุนของทุกหน่วยงานและถ่ายรูปที่ระลึกร่วมกัน