ทักษิณ ยังไม่จบ!!!หลังศาลปกครองสูงสุดยืนยกเลิกหนังสือเดินทางไทย ไม่สำนึกเป็นนักโทษหนีคดี...แถมผิดซำ้ ม.112??

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

ศาลปกครองกลาง นัดอ่านคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดในชั้นอุทธรณ์คดีที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ง ยื่นฟ้องอธิบดีกรมการกงสุล และปลัดกระทรวงการต่างประเทศ กรณียกเลิกหนังสือเดินทาง 2 ฉบับ 

 

คดีหมายเลขดำที่ อ.1412/2559 หมายเลขแดงที่ อ.373/2561 ที่นายทักษิณ ชินวัตร ฟ้องอธิบดีกรมการกงสุลและปลัดกระทรวงการต่างประเทศ คดีนี้ ศาลปกครองสูงสุดพิเคราะห์แล้วเห็นว่า การที่อธิบดีกรมการกงสุลมีคำสั่งยกเลิกหนังสือเดินทางของผู้ฟ้องคดีเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย จึงมีคำพิพากษายืนตามคำพิพากษาของศาลปกครองกลางที่พิพากษายกฟ้อง

 

ทันทีที่มีคำพิพากษาเผยแพร่ออกสู่สาธารณะ ได้มีความเคลื่อนไหวตอบโต้จากนายทักษิณ ได้โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ข้อความว่า  "วันนี้ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษายกฟ้อง คดีที่ผมฟ้องกระทรวงต่างประเทศที่ยกเลิกหนังสือเดินทางผมโดยมิชอบ ซึ่งก็ไม่ได้เกินความคาดหมาย การที่ผมฟ้องไม่ใช่เพราะผมเดือดร้อนอะไร ที่ไม่ได้ใช้หนังสือเดินทางของไทย แต่ผมเพียงต้องการอยากเห็นกระบวนการยุติธรรมของไทยได้มีโอกาสปรับตัวจากการถูกปรามาส ว่าถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองจนไม่เป็นที่พึ่งของสังคม เพราะได้ดำเนินการไปโดยขัดหลักนิติธรรมสากล และเลือกปฏิบัติต่อคนเฉพาะกลุ่มเฉพาะฝ่ายมาโดยตลอด"

 

ถือเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้ว ที่นายทักษิณ หรือบุคคลที่ข้องเกี่ยวกับระบบทักษิณจะออกมาเคลื่อนไหว พยายามกดดันศาลทันที เมื่อศาลตัดสินไม่ถูกใจ และตัดสินแล้วทำให้ตนเองเสียประโยชน์ อย่างเห็นได้ชัด คดีอดีตนายกรัฐมนตรี สมชาย วงศ์สวัสดิ์ กับพวก สลายการชุมนุมของพันธมิตร เมื่อปี 2553 ศาลตัดสินเป็นบวกกับอดีตนายกรัฐมนตรีที่เป็นฝ่ายคนเสื้อแดง ก็บอกว่าตัดสินดี ยุติธรรม แต่พอคดีนี้ตัดสินแล้วไม่ถูกใจ ก็ไม่ยอมรับเสียแบบนี้  ...อันนี้ก็น่าคิด!!!

 

ที่ผ่านมา มีหลายกรณีด้วยกันที่ศาลมักถูกวิจารณ์จากคนเสื้อแดงมาเป็นระยะๆ...กล่าวหารุนแรงถึงขั้นไม่มีความเป็นธรรมบ้าง ไม่มีอำนาจตัดสินคดีบ้าง...บลาๆๆๆๆ โดยไม่เคยแม้แต่ย้อนความคิด ไตร่ตรองดูพฤติกรรมตนเองที่ผ่านมา เป็นอย่างไร มีแต่ความเคียดแค้นผูกใจเจ็บเท่านั้น และครั้งนี้ก็เช่นกัน

 

การที่ศาลปกครองสูงสุดได้ยืนตามคำพิพากษาของศาลปกครองกลางว่า คำสั่งยกเลิกหนังสือเดินทางชอบด้วยกฎหมาย จากกรณีการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนประเทศเกาหลี ซึ่งเนื้อหาพาดพิงต่อองคมนตรี ซึ่งเป็นผู้ถวายความเห็นต่อพระมหากษัตริย์ ในทำนองว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล ถ้อยคำดังกล่าวจึงเป็นปรปักษ์กับการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และก่อให้เกิดความเสียหายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นการกระทบต่อชื่อเสียงและเกียรติภูมิของประเทศ ตามระเบียบกระทรวงการต่างประเทศว่าด้วยการออกหนังสือเดินทาง การยกเลิกหนังสือเดินทางเป็นการไม่รับรองให้นายทักษิณ สามารถเดินทาง โดยอ้างสิทธิการอนุญาติของประเทศไทยอีกต่อไป ซึ่งศาลมีอำนาจแปลความหรือวินิจฉัยถ้อยคำการให้สัมภาษณ์ของนายทักษิณ ว่าเข้าหลักเกณฑ์ข้อห้ามที่กำหนดไว้หรือไม่

ส่วนกรณีที่นายทักษิณ อ้างว่าเป็นการเลือกปฏิบัติและไม่เป็นธรรมนั้น ศาลเห็นว่าการที่จะอ้างว่าเป็นการเลือกปฏิบัติไม่เป็นธรรมนั้น หากผู้ร้องเป็นผู้กระทำความผิดเอง ก็ไม่สามารถอ้างว่าหน่วยงานผู้ใช้อำนาจเรื่องการเลือกปฎิบัติได้ จึงถือว่า คำสั่งยกเลิกหนังสือเดินทางนั้นชอบด้วยกฎหมาย ศาลปกครองสูงสุดจึงมีคำพิพากษายืนตามศาลปกครองกลางที่มีคำพิพากษายกฟ้องคดีดังกล่าว

 

 

ลองพิจารณาดูเอาเองเถิด.. ถ้าทักษิณ ชินวัตร ไม่ผิดจริง และศาลไม่ยุติธรรมจริง จนฝ่ายการเมืองสามารถแทรกแซงหีือครอบงำได้แล้ว ทำไมช่วงเวลาที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวแสนรัก เป็นนายกรัฐมนตรี ในเวลาตั้งสองปี จึงไม่สามารถช่วยให้ทักษิณพ้นผิดได้!!!

 

ศาลและตุลาการ คือเสาหลักที่ค้ำยันให้บ้านเมืองเป็นรูปร่าง การตัดสินคดีความอย่างตรงไปตรงมา และทุกฝ่ายก็ยอมรับคำตัดสินของศาล ไม่ว่าจะถูกใจหรือไม่ถูกใจตนเอง ต้องยอมรับและถือเอาคำตัดสินของศาลเป็นอันยุติ