เคลียร์ได้ทุกประเด็น !! เจ้าอาวาสวัดทุ่งละหานยันไม่มียาเสพติด ยันทรัพย์สินพระผู้ตาย อยู่ครบที่พระน้องชาย

จากกรณี ญาติของหลวงพ่อธัญพิสิษฐ์ อายุ 57 ปี ได้ร้องเรียนสื่อมวลชนว่า หลวงพ่อธัญพิสิษเสียชีวิตแบบปริศนา และทรัพย์สินมีค่าหายไป คาดว่าถูกฆ่าชิงทรัพย์ แต่คดียังไม่คืบหน้า ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

 

ล่าสุดเมื่อวันที่ 1 พ.ค. 61 พ.ต.อ.อนันต์ ภู่ระหงษ์ ผกก.สภ.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เปิดเผยว่า ผลการชันสูตรศพของแพทย์ รพ.ตำรวจ ในเบื้องต้นระบุสาเหตุของการเสียชีวิตว่า มาจากระบบหายใจไหลเวียนโลหิตล้มเหลว ขณะที่ผลการชันสูตรอย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นร่องรอยบอบช้ำตามร่างกาย แพทย์ได้ผ่าตัดอวัยวะเพื่อนำเข้าสู่กระบวนการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ และยังอยู่ในระหว่างรอผล หากมีสิ่งผิดปกติก็จะระบุมาพร้อมกับรายงานการชันสูตร ส่วนข้อสงสัยกรณีทรัพย์สินหายไปหรือไม่อย่างไรนั้น ตอนนี้ตำรวจกำลังตรวจสอบภาพถ่ายย้อนหลัง รวมถึงเร่งสอบปากคำพยานแวดล้อมอย่างละเอียด จึงยังไม่สามารถฟันธงหรือตั้งประเด็นการเสียชีวิตได้ว่า มาจากการฆาตกรรม มีคนทำให้ตาย หรือเสียชีวิตโดยธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม ตำรวจเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ทุกฝ่ายกำลังเร่งสืบสวนสอบสวนหาความกระจ่างของคดีนี้อยู่ บทสรุปของคดีนี้คาดว่าน่าจะใช้เวลาไม่เกิน 10 วันคงรู้ผล ขอให้ญาติของผู้เสียชีวิตวางใจได้เลยว่าตำรวจจะให้ความเป็นธรรม และทำคดีนี้อย่างตรงไปตรงมา หากยังมีข้อสงสัยอะไรก็สามารถเข้าพบตนเพื่อสอบถามข้อมูลได้โดยตรง

ส่วนกรณีที่ญาติของหลวงพ่อธัญพิสิษฐ์ สงสัยเกี่ยวกับทรัพย์สินที่หายไป และเรื่องเกี่ยวกับยาเสพติดในวัดนั้น ทางด้าน พระครูสมุห์แมน กิตติภทโท เจ้าอาวาสวัดทุ่งละหาน พร้อมด้วย นายอัตตพล เกิดทอง ผู้ใหญ่บ้าน ม.8 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เปิดเผยว่า ในเรื่องของยาเสพติดภายในวัด ยอบรับว่าเป็นเรื่องหลายปีก่อนที่ตนจะมาประจำเป็นเจ้าอาวาส ในปัจจุบันไม่มีปัญหาเกี่ยวกับยาเสพติดแต่อย่างใด โดยทางวัดมียามรักษาการประจำวัด และติดกล้องวงจรปิดทั่วบริเวณวัดเพื่อสอดส่องดูแลรักษาความปลอดภัย อีกทั้งได้ร่วมกับอนามัยตำบลห้วยใหญ่ ในการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดพระลูกวัดและบุคลากรภายในวัดอยู่เป็นประจำ หากพบเจอจะทำการลาสิกขาบททันทีไม่มีการละเว้น

ในส่วนของย่ามสีชมพู ซึ่งทางญาติระบุว่า เป็นทรัพย์สินมีค่าของผู้ตายที่หายไปจากที่เกิดเหตุ ตนและผู้ใหญ่บ้านขอยืนยันว่า ขณะเข้าไปพบศพของผู้เสียชีวิตย่ามสีชมพูดังกล่าวยังคงอยู่ในห้องของผู้ตาย ไม่ได้สูญหายไปไหนแต่อย่างใด ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ถ่ายภาพในที่เกิดเหตุเป็นหลักฐาน ก่อนที่พระน้องชายของหลวงพ่อธัญพิสิษฐ์ ผู้เสียชีวิต จะเป็นผู้เก็บทรัพย์สินของผู้ตายทั้งหมดใส่ย่ามสีชมพูไป ซึ่งมีพยานรู้เห็นทั้งหมด

สำหรับหลวงพ่อธัญพิสิษฐ์ อุปนิสัยดีเป็นคนร่าเริง ร่างกายแข็งแรง ไม่ค่อยมีอาการเจ็บป่วยให้เห็น โดยในวันเกิดเหตุ พระลูกวัดได้นำอาหารกล่องไปถวาย เมื่อเคาะประตูกลับไม่มีเสียงตอบรับ จึงไขกุญแจเข้าไปจนพบศพของหลวงพ่อธัญพิสิษฐ์ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม หากญาติของผู้ตายสงสัยหรือติดใจการเสียชีวิต ควรรอผลการชันสูจน์จากเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อทราบสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป...

อัมพร แสงแก้ว ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.ชลบุรี