ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายถึงผลการประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม (อี-ทิกเก็ต) ว่า ที่ประชุมได้สรุปผลการดำเนินงานของตั๋วร่วมเวอร์ชั่น 1 หรือบัตรแมงมุม โดยระบุว่าในเดือนต.ค.นี้ ผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือบัตรคนจนจะสามารถนำบัตรมาใช้การเดินทางได้ 4 ระบบคือ รถไฟฟ้าสายสีม่วง บางใหญ่-เตาปูน และรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินหรือรถไฟฟ้าใต้ดิน จะเริ่มใช้ได้ก่อนเริ่มวันที่ 1 ก.ค. นี้ ส่วนรถเมล์ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จำนวน 2,600 คัน และรถไฟฟ้า แอร์พอร์ต เรล ลิงก์ จะเริ่มใช้วันที่ 1 ต.ค. นี้เป็นต้นไป โดยผู้ถือบัตรต้องนำบัตรสวัสดิการไปฟอร์แมตที่บริเวณสถานีรถไฟฟ้าเพื่อปรับให้เข้ากับระบบตั๋วร่วมก่อนใช้บริการครั้งแรก

ด่วน!!! คนจนเตรียมเฮ ต.ค.นี้บัตรสวัสดิการพร้อมใช้ 4 ระบบ ขึ้น รถไฟฟ้า รถเมล์ แอร์พอร์ตลิงก์ ได้แล้ว!!!(รายละเอียด)

ส่วนบัตรแมงมุม 4.0 จำนวน 2 แสนใบ ที่สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) จัดทำขึ้น ซึ่งมีแผนที่จะแจกจ่ายให้ประชาชนในเดือนก.ค.-ต.ค. และ บัตรเอ็มอาร์ทีพลัส ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่ปงระเทศไทย (รฟม.) ที่มีการใช้อยู่ในปัจจุบันนั้นก็สามารถนำมาใช้กับระบบตั๋วร่วมได้ตามกรอบเวลาเดียวกับบัตรสวัสดิการ

นายพีระพลกล่าวว่า สำหรับรถไฟฟ้าสายสีเขียวหรือรถไฟฟ้าบีทีเอสนั้น สัปดาห์หน้ารฟม. จะไปหารือเพื่อหาข้อสรุป ว่าจะมีการปรับบัตรแรบบิทเป็นบัตรแมงมุมก่อน เพื่อให้สามารถใช้กับระบบตั๋วร่วม เดินทางกับ 4 ระบบได้ภายในเดือนต.ค. นี้ ก่อนหรือไม่ หรือต้องการที่จะรออัพเกรดเป็นระบบตั๋วร่วมเวอร์ชั่น 2 หรือบัตรอีเอ็มวีเลย ซึ่งก็ต้องใช้เวลานาน เบื้องต้นรฟม. วางเป้าหมายที่จะเปิดใช้บัตรอีเอ็มวีได้ช่วงต้นปี 2563 โดยขณะนี้ อยู่ระหว่างการพัฒนาและติดตั้งระบบคาดว่าจะใช้เงินประมาณ 458 ล้านบาทโดยนำมาจากงบกลาง 218 ล้านบาท และงบลงทุนของรฟม. เอง 240 ล้านบาท

ด่วน!!! คนจนเตรียมเฮ ต.ค.นี้บัตรสวัสดิการพร้อมใช้ 4 ระบบ ขึ้น รถไฟฟ้า รถเมล์ แอร์พอร์ตลิงก์ ได้แล้ว!!!(รายละเอียด)


อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 15-17 พ.ค. นี้ รฟม. จะหารือร่วมกับผู้ประกอบการเดินรถไฟฟ้าทุกระบบเพื่อเปิด รับฟังความคิดเห็นการจัดทำระบบบริหารจัดการบัตรอีเอ็มวี รวมทั้งการกำหนดข้อกำหนดทางธุรกิจ อาทิ การคิดค่าธรรมเนียมการใช้บัตร ซึ่งเบื้องต้น รฟม. กำหนดอัตราค่าธรรมเนียมไว้คร่าวๆ 0.8% ต่อ 1 ธุรกรรม

นายพีระพลกล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังได้มอบหมายให้ รฟม. กลับทบทวนรูปแบบการจัดตั้งการบริหารจัดการและบำรุงรักษาระบบตั๋วร่วม (CTC) ใหม่ เนื่องจากหากนำระบบอีเอ็มวีมาใช้ค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วมจะลดลงมากถึง 3 เท่า เมื่อเทียบกับระบบบัตรแมงมุมเดิม คือจะปรับลดจาก ปีละ 150 ล้านบาท เป็นปีละ 50 ล้านบาท ดังนั้นอาจไม่มีความจำเป็นจะต้องจัดตั้งเป็นลักษณะของการให้เอกชนเข้าร่วมทุน ซึ่ง รฟม. อาจจะตั้งบริษัทลูกภายในเพื่อบริหารจัดการเองได้ซึ่ง รฟม. ต้องไปศึกษาและหาข้อสรุปที่เหมาะสมมานำเสนอที่ประชุมต่อไป

รวมทั้งขอให้ รฟม. เร่งจัดทำอัตราค่าโดยสารร่วม ซึ่งจะทำให้ค่าโดยสารรถไฟฟ้าถูกลง เพราะจะมีการคิดอัตราค่าแรกเข้าเพียงครั้งเดียว แม้ว่าผู้โดยสารจะมีการเดินทางเชื่อมต่อรถไฟฟ้าวันละหลายเส้นทาง

ด่วน!!! คนจนเตรียมเฮ ต.ค.นี้บัตรสวัสดิการพร้อมใช้ 4 ระบบ ขึ้น รถไฟฟ้า รถเมล์ แอร์พอร์ตลิงก์ ได้แล้ว!!!(รายละเอียด)